รัฐบาล ไฟเขียวแผนบริหารหนี้สาธารณะ เคาะก่อหนี้ใหม่ 1.94 แสนล้านบาท

“ครม.” ไฟเขียวแผนบริหารหนี้สาธารณะ ปีงบ 2567 เคาะก่อหนี้ใหม่ 1.94 แสนล้านบาท ชดเชยขาดดุลปีงบ 2566 พร้อมบี้ รฟท.-ขสมก. เร่งเพิ่มรายได้ตามแผนฟื้นฟูกิจการให้เพียงพอชำระหนี้

27 ก.ย. 2566 – นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566ได้อนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2567 เฉพาะในส่วนที่ ครม. ได้มีมติอนุมัติแล้ว ได้แก่ 1. แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินรวม 1.94 แสนล้านบาท ประกอบด้วย การก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาล ส่วนใหญ่เป็นการกู้เงินเพื่อชดเชยขาดดุลงบประมาณปี 2566 วงเงิน40,000 ล้านบาท และการกู้เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เป็นต้น 2.แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงินรวม 1,621,135.22 ล้านบาท และ 3.แผนการชำระหนี้ วงเงินรวม 390,538.63 ล้านบาท

สำหรับแผนบริหารหนี้สาธารณะดังกล่าว มีรัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง ได้แก่ การเคหะแห่งชาติ (กคช.), บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.), การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มีสัดส่วนความสามารถในการหารายได้เทียบกับภาระหนี้ของกิจการต่ำกว่า 1 เท่า สามารถกู้เงินและบริหารหนี้ภายใต้แผนฯ ประจำปีงบประมาณ 2567

“ที่ประชุมขอให้ รฟท. และ ขสมก. เร่งรัดดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของหน่วยงาน เพื่อเพิ่มรายได้ให้เพียงพอสำหรับการชำระหนี้ และเพื่อทำให้ฐานะทางการเงินของหน่วยงานดีขึ้น และให้รายงานความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูต่อคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเพื่อทราบต่อไป” นายชัย กล่าว

อย่างไรก็ดี จากการดำเนินการตามแผนบริหารหนี้ที่เสนอในครั้งนี้ สัดส่วนหนี้สาธารณะคงค้างต่อจีดีพี ณ สิ้นปีงบประมาณ 2567 จะยังอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่กำหนดไม่เกิน 70%