'สรรพากร' ปักธงรีดภาษี 2.27 ล้านล้านหวังอานิสงส์มาตรการรัฐช่วยหนุน

“สรรพากร” ปักธงรีดภาษีปีงบ 2567 พุ่ง 2.27 ล้านล้านบาท หลังประเมินเศรษฐกิจโตเฉลี่ย3% มองอานิสงส์มาตรการรัฐช่วยหนุนผลงานฉลุยตามเป้าหมาย

3 ม.ค. 2567 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2567 กรมปรับเป้าจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 2.2767 ล้านล้านบาท สูงกว่าปีก่อนหน้านี้ที่ 2.029 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 3% เทียบเคียงกับประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเติบโตได้เฉลี่ย 3% ซึ่งถือว่ามีความท้าทายพอสมควร เนื่องจากในปี 2567 มีปัจจัยที่ต้องติดตามทั้งในเรื่องของต้นทุนอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งจะเป็นต้นทุนให้ผู้ประกอบการ รวมทั้งความท้าทายเรื่องราคาพลังงาน ซึ่งอาจจะกระทบต่อการจัดเก็บอยู่บ้างแต่โดยรวมเชื่อว่าจะคงเก็บได้เป็นไปตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (ต.ค.-พ.ย.2566) จัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมาย โดยช่วง 2 เดือนแรกจัดเก็บได้ 2.88 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 4.6% โดยเดือน พ.ย.จัดเก็บรายได้ได้สูงกว่าเดือน ต.ค. สามารถจัดเก็บได้ 1.46 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 6 พันล้านบาท หรือ คิดเป็น 2.8% ในส่วนนี้เป็นการจัดเก็บรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัว 2.8% สะท้อนการบริโภคจากการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว

“ทิศทางการจัดเก็บรายได้เชื่อว่าจะอยู่ในช่วงฟื้นตัวดีขึ้น จากภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มดีขึ้นตามนโยบายรัฐบาล ทำให้คาดว่าทั้งปีจะสามารถจัดเก็บรายได้ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งรายได้ของกรมสรรพากรถือว่ามีส่วนสำคัญ เพราะมีสัดส่วนกว่า 75-80% ของการจัดเก็บรายได้ในภาพรวม” นางสาวกุลยา กล่าว

นางสาวกุลยา กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในปี 2567 เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ ก็จะมีเม็ดเงินภาษีเข้ามาพอสมควร โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศตลาดเกิดใหม่ แนวโน้มการทำธุรกิจดิจิทัล เช่น กรณีการทำพันธกรณีระหว่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีในกลุ่ม OECD 130 ประเทศ ที่ไทยจะเริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินจากข้อมูลใหม่ ๆ ที่ได้มา เช่น รายได้จากต่างประเทศที่นำกลับเข้าไทย ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้อีกทางหนึ่ง