
1 ก.พ. 2567 – นายนันทวัฒน์ ศรีวรัตน์อัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ริเริ่มโครงการ “โตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์” ตั้งแต่ปี 2557 โดยเกิดจากความมุ่งหวังที่จะมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหา ปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานของธุรกิจชุมชนไทย อันเป็นภาคส่วนที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย ให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มพูนกำไร และดำเนินธุรกิจด้วยตนเองได้อย่างยั่งยืน
โดยตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา โครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ได้มีส่วนเข้าไปช่วยเหลือธุรกิจชุมชนในลักษณะของการเป็น “พี่เลี้ยงทางธุรกิจ” โดยร่วมศึกษาถึงสาเหตุของปัญหา พร้อมนำองค์ความรู้และปัจจัยแห่งความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของโตโยต้า ได้แก่ วิถีโตโยต้า (Toyota Way) ระบบการผลิตแบบโตโยต้า (TPS : Toyota Production System) และหลักการไคเซ็น (Kaizen) เข้าไปถ่ายทอดและประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงให้เหมาะสมกับบริบทและความพร้อมของธุรกิจชุมชนต่างๆ มีส่วนช่วยให้การดำเนินงานของธุรกิจเหล่านี้มีการพัฒนาและได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในด้านต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม สามารถลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพ และสร้างผลกำไร พร้อมทั้งได้มีการยกระดับไปสู่การเปิดเป็น“ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” 6 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ครบทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้มีการขยายผลโดยนำองค์ความรู้และประสบการณ์จากการดำเนินโครงการ ไปถ่ายทอดเพื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจ โดยความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ อาทิ ความร่วมมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในการดำเนินงานศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมในจังหวัดกรุงเทพฯนครราชสีมา ชลบุรี และโครงการ ชุมชนดีพร้อม ตลอดจนการจัดอบรมสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศอีกด้วย ทำให้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา การขยายผลต่อยอดองค์ความรู้ของโครงการโตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ ได้มีส่วนช่วยในการพัฒนาธุรกิจต่างๆไปแล้ว 2,089 ธุรกิจ ช่วยเพิ่มพูนผลกำไรได้เป็นมูลค่ารวม 805 ล้านบาท และส่งต่อ องค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการและผู้คนทั่วไปที่สนใจเรียนรู้ไปแล้วกว่า 100,000 คน

สำหรับการก้าวสู่ปีที่ 11 ของโครงการ โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ มีความมุ่งหวังที่จะยกระดับการถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อช่วยปรับปรุง และพัฒนาธุรกิจชุมชนไทยให้ครอบคลุมในทุกมิติของการดำเนินงานอย่างครบวงจร ควบคู่ไปกับการส่งเสริมแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน จึงนำมาสู่การลงนามความร่วมมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยได้รับเกียรติจาก นายบรรจง สุกรีฑา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และนายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกัน เพื่อยกระดับการพัฒนาธุรกิจชุมชนไทยอย่างครบวงจร ควบคู่สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนอีกด้วย
สำหรับการส่งเสริมความร่วมมือและสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เช่น
1. การถ่ายทอดความรู้เชิงขั้นตอนให้กับผู้ประกอบการชุมชน ผ่านโครงการโตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์เพื่อยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการชุมชน ในการบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้ได้มาตรฐาน พร้อมเสริมความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในสถานประกอบการ ร่วมกับการเสริมทักษะในด้านอื่นๆที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการโดยการสนับสนุนจาก กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
2. กิจกรรมพัฒนาสถานประกอบการด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติผ่านกลไกความร่วมมือ Global Player ซึ่งจัดขึ้นโดยกองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยจำกัด ภายใต้การดำเนินการร่วมกับบริษัทโตโยต้า ออโต้ บอดี้ ประเทศไทย จำกัด ตลอดระยะเวลา 3 ปีกับอีก 23 บริษัท โดยการนำองค์ความรู้ทั้งด้านการจัดการการผลิต และการนำเทคโนโลยีเครื่องจักรอัตโนมัติ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ คุณภาพ และลดต้นทุนการผลิตให้ผู้ประกอบการไทย
3. การร่วมดําเนินโครงการอื่น ๆ ที่มีความสนใจร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการไทย ผ่านองค์ความรู้ด้านการผลิตที่เป็นจุดเด่นของโตโยต้า โดยส่งเสริมทั้งในด้านผลิตผล คุณภาพ การส่งมอบสินค้า การบริหารสินค้าคงคลัง และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนสอดคล้องกับแนวทาง ของภาครัฐ ที่ส่งเสริมนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนสู่ระดับชุมชน ในขณะที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมซึ่งพร้อมให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการไทยอย่างรอบด้าน จะเป็นส่วนที่ช่วยเติมเต็มการพัฒนาในด้านอื่นๆ ที่ผู้ประกอบการไทยต้องการ อาทิ ทักษะการบริหารจัดการของผู้ประกอบการ การตลาด การเงินการบัญชี การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ระบบโลจิสติกส์ ตลอดจนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ โดยองค์ประกอบทางความรู้ต่างๆเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทย ในการพัฒนาศักยภาพการขับเคลื่อนธุรกิจของตนเองได้อย่างครบวงจร เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของภาครัฐสู่อุตสาหกรรม 4.0 และช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งในกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ดีพร้อม’อัดสินเชื่อช่วยเอสเอ็มอี
‘ธนกร’ สั่ง ‘ดีพร้อม’ เร่งเดินหน้า Quick Big Win อัดฉีดสินเชื่อ ‘เงินไว by DIPROM’ ช่วยเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการรายย่อยดอกเบี้ย 50 สตางค์ กระตุ้นโค้งสุดท้ายปลายปี ดีมานด์พุ่ง!! 30%
‘ดีพร้อม’ ชวนเที่ยวมหกรรม ‘ดีพร้อมเสน่ห์ไทย (Thai Vibe by DIPROM)’ พบ 4 โซนไฮไลท์ 400 ร้านค้า สัมผัสเสน่ห์อาหาร แฟชั่น วัฒนธรรมไทย ตั้งแต่วันนี้-12 ต.ค.นี้ ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) หรือดีพร้อม จัดงานมหกรรม ‘ดีพร้อมเสน่ห์ไทย (Thai Vibe by DIPROM) รสและศิลป์ไทย ก้าวไกลสู่สากล’ ระหว่างวันที่ 10–12 ตุลาคม 2568 เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย หรือซอฟต์พาวเวอร์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ภายใต้นโยบาย ‘ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจับมือจุฬาฯ เผยแพร่ความสำเร็จของโครงการพัฒนาผลิตภาพ สำหรับธุรกิจเกษตรแปรรูปเป้าหมาย (แผนธุรกิจและการตลาด) มอบรางวัล 4 ธุรกิจต้นแบบอุตสาหกรรมโกโก้ไทย
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาฯ จัดพิธีปิดและเผยแพร่ความสำเร็จของกิจกรรมพัฒนาผลิตภาพสำหรับธุรกิจเกษตรแปรรูปเป้าหมาย
‘ดีพร้อม’ เปิดเกมรุก! ดันศักยภาพบุคลากรในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย เฉิดฉายบนเวทีนานาชาติ คาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 30 ล้านบาท
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ขานรับนโยบาย ขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย (Soft Power) สาขาแฟชั่น ติวเข้มบุคลากรอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย เน้นเพิ่มทักษะ องค์ความรู้ พัฒนาผลิตภัณฑ์ เชื่อมโยงอุตสาหกรรมแฟชั่น พร้อมดึงอัตลักษณ์ความเป็นไทย สร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเพื่อผลักดันสู่ตลาดสากลอย่างยั่งยืน
DIPROM เดินหน้าดัน Soft Power ไทย! สร้างสรรค์อัญมณีและเครื่องประดับไทย เจิดจรัสไกลสู่สากล
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์แฟชั่น ผ่านกิจกรรมการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ที่ให้ทั้งด้านทักษะองค์ความรู้


