'ทอท.' ตั้งธงภายในปีนี้จ่อเข้าบริหาร 3 ท่าอากาศยานภูมิภาค

ทอท.กางแผนเข้าบริหาร 3 ท่าอากาศยานภูมิภาคไตรมาส 3 ปีนี้ หลัง กพท.จ่อออกใบรับรองอากาศยานสาธารณะกลางปี เตรียมทุ่มงบลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท ลุยปรับบริการ – เพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสาร

6 ก.พ. 2567 – พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการรับโอนบริหาร 3 ท่าอากาศยาน อุดรธานี บุรีรัมย์ และกระบี่ จากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ออกใบรับรองท่าอากาศยานสาธารณะ เพื่อทำให้ ทอท.เข้าไปปรับปรุงมาตรฐานของท่าอากาศยาน คาดว่ากระบวนการน่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 6 เดือน หรือภายในกลางปีนี้

“ตอนนี้อยู่ในกระบวนการออกใบรับรองสนามบิน ซึ่ง ทอท.เราได้ประสานงานกับ กพท.อยู่ตลอด ทราบว่าสถานะล่าสุดในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา อยู่ในกระบวนการสุดท้ายก่อนออกใบรับรอง เบื้องต้นจึงคาดว่าไม่เกิน 6 เดือนหลังจากนี้จะสามารถออกใบรับรองได้ และแน่นอนว่าเมื่อได้ใบรับรองมาแล้ว ทอท.ก็จะเริ่มพัฒนาสนามบินทั้งหมดตามแผน”พล.ต.อ.วิสนุ กล่าว

ด้านนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เผยว่า แผนพัฒนาท่าอากาศยานอุดรธานี บุรีรัมย์ และกระบี่ ทอท.มีแผนลงทุนรวมประมาณ 10,360 ล้านบาท เพื่อพัฒนาศักยภาพในการรองรับผู้โดยสาร ประกอบด้วย ท่าอากาศยานกระบี่ วงเงินลงทุน 6,400 ล้านบาท ขยายการรองรับผู้โดยสารจาก 4 ล้านคนต่อปี เป็น 12 ล้านคนต่อปี และรองรับ 31 เที่ยวบินต่อชั่วโมง

ขณะที่ท่าอากาศยานอุดรธานี มีวงเงินลงทุน 3,500 ล้านบาท เพิ่มความสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 3.4 ล้านคนต่อปี เป็น 6.5 ล้านคนต่อปี และรองรับ 20 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ส่วนท่าอากาศยานบุรีรัมย์ มีวงเงินลงทุน 460 ล้านบาท เพิ่มความสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 0.78 ล้านคนต่อปี เป็น 2.8 ล้านคนต่อปี และรองรับ 25 เที่ยวบินต่อชั่วโมง โดยคาดว่า ทอท.จะเข้าบริหารอย่างเป็นทางการช่วงไตรมาส 3 ปี 2567

“ภารกิจแรกที่ ทอท.จะต้องเข้าไปดำเนินการหลังรับโอนสิทธิบริหารท่าอากาศยานภูมิภาค จะต้องดำเนินการเรื่องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) และสังหาริมทรัพย์ (ครุภัณฑ์) รวมถึงเรื่องการถ่ายโอนบุคลากรให้แล้วเสร็จ โดยเบื้องต้น ทอท.มีทางเลือกในการรับสมัครบุคลากรของ ทย.เพื่อปฏิบัติงานในท่าอากาศยานเช่นเดิม โดยจะเปิดรับบุคลากรส่วนดังกล่าวเข้ามาเป็นพนักงานของ ทอท.ด้วย”นายกีรติ

นายกีรติ กล่าวด้วยว่า ผลบวกของการโอนสิทธิบริหาร 3 ท่าอากาศยานภูมิภาคนั้น จะช่วยลดภาระงบประมาณในการลงทุนของภาครัฐ เพราะ ทอท. จะนำเงินรายได้ของ ทอท. มาลงทุนพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานดังกล่าวทั้งหมด โดยไม่ใช้งบประมาณของภาครัฐ อีกทั้ง ทอท.ยังสามารถใช้เครือข่ายทางการบิน เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางบินและทำการตลาดร่วมกันระหว่างท่าอากาศยานใกล้เคียง ทำให้เพิ่มโอกาสรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารเกิดขึ้นกับ 3 ท่าอากาศยาน