ท่องเที่ยวฟื้น 'ทอท.' กางแผนลุยสร้างอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศใต้รับผู้โดยสาร 150 ล้านคน

อุตสาหกรรมการบินโตต่อเนื่อง ทอท.เปลี่ยนแผนแม่บทขยายขีดความสามารถสนามบินระยะ 10 ปีใหม่ ชะลอสร้างอาคารผู้โดยสารในประเทศ “North Expansion” กลับมาหยิบสร้างอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศใต้ก่อน เหตุผู้โดยสารระหว่างประเทศพุ่งทะลัก เชื่อเป็นการแก้ปัญหาลดความแออัดในสนามบินสุวรรณภูมิ หวังรองรับผู้โดยสาร 150 ล้านคนต่อปี

12 ก.พ. 2567 – นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)(ทอท.) เปิดเผยว่าจากที่อุตสาหกรรมการบินกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งเที่ยวบินที่บินเข้าออก รวมถึงปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะผู้โดยสารที่จะเดินทางระหว่างประเทศ ดังนั้นตนจึงมีแนวคิดที่จะทบทวนแผนแม่บทขยายขีดความสามารถสนามบินของ ทอท. ในระยะ 10ข้างหน้านี้ใหม่ ระหว่างปี2568-2578 จากเดิมที่ ทอท.มีแผนที่จะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศเหนือ (North Expansion) สนามบินสุวรรณภูมิก่อน ซึ่งอาคารดังกล่าวจะเป็นอาคารผู้โดยสารในประเทศ หรือ domestic เท่านั้น

ทั้งนี้ได้มีแนวคิดการพัฒนาที่จะปรับเปลี่ยนให้มีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศใต้ (South Terminal) ซึ่งอาคารจะรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศเช่นเดียวกับอาคารผู้โดยสารหลังเดิมในปัจจุบัน โดยพื้นที่ก่อสร้างจะติดกับถนนบางนาตราด เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ถึง 150ล้านคนต่อปี

สำหรับสาเหตุที่มีแนวคิดทบทวนแผนการขยายขีดความสามารถสนามบินของ ทอท.ใหม่ เนื่องจากในปัจจุบันจะพบว่าความหนาแน่นของปริมาณผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ จะเป็นผู้โดยสารที่จะเดินทางระหว่างประเทศเป็นหลัก โดยช่วงที่มีปริมาณผู้โดยสารมากจะเป็นช่วง 22.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งไม่ใช่ช่วงเวลาที่ผู้โดยสารในประเทศเดินทาง เพราะส่วนมากผู้โดยสารในประเทศจะเดินทางช่วงเช้าและช่วงดังกล่าวสนามบินยังมีการบริหารจัดการได้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามภายในปี 2567นี้ทอท. จะมีการว่าจ้างบริษัท ที่ปรึกษาเข้ามาศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาสนามบินฉบับใหม่ และได้ข้อสรุป ก่อนที่จะมีการเดินหน้าแผนได้ภายในต้นปี 2568

นายกีรติ กล่าวต่อว่า ส่วนแผนลงทุนในปี 2567 ทอท.จะเดินหน้าสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสาร (East Expansion)สนามบินสุวรรรณภูมิ มูลค่าลงทุน 9,000 ล้านบาท รองรับผู้โดยสารได้อีก15 ล้านคน/ปี ขณะนี้อยู่ในช่วงการปรับแบบก่อสร้างคาดเปิดประมูลในเดือน พฤษภาคมนี้ , ขยายสนามบินดอนเมืองเฟส 3 มูลค่า 36,000 ล้านบาท ซึ่งจะสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่( International Terminal) และปรับปรุงอาคาร 1 และ2 ให้เป็นอาคารผู้โดยสารในประเทศ (Domestic Terminal )เพื่อรองรับผู้โดยสารจาก 30 ล้านคนต่อปี เป็น 50 ล้านคนต่อปี
“ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับแบบคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม และเปิดประมูลปลายปี 2567-ต้นปี2568 นอกจากนั้นยังมีแผนสร้าง Junction Terminal ซึ่งยังมีพื้นที่ว่าง ระหว่างอาคาร Domestic Terminal กับ International Terminal สร้างเป็นอาคารพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยอาจใช้แนวคิดจากการพัฒนาพื้นที่ของสนามบินชิโตเสะ ของญี่ปุ่น แต่ทั้งนี้ต้องรอการพัฒนาดอนเมืองเฟส 3 ก่อน “นายกีรติ กล่าว

นอกจากนั้นจะขยายสนามบินภูเก็ต ระยะที่ 2 วงเงิน 8,300 ล้านบาท สร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ คาดเริ่มประมูลสร้างได้ไตรมาส 2 ปี 2568 รองรับผู้โดยสารได้18 ล้านคนต่อปี และ ขยายสนามบินเชียงใหม่ เฟส 1 มูลค่า8,000 ล้านบาท คาดเปิดประมูลได้ปลายปี 2567 รองรับผู้โดยสารได้ 16.5 ล้านคนต่อปี

อย่างไรก็ตามปัจจุบันทอท.มีกระแสเงินสดในมือประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาทจากเดิมก่อนสถานการณ์โควิดมีกว่า 70,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามเมื่อสถานการณ์การบิน อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกกลับมาเติบโต และการเดินทางเข้าออกของเที่ยวบินมายังประเทศไทยและผ่านสนามบินที่อยู่ในความรับผิดชอบ ทอท.6สนามบินโตต่อเนื่องและยังคาดว่าปีหน้าจะเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 10-20% ดังนั้นจึงคาดว่าในปี 2567 จะมีกระแสเงินรายรับเข้ามากว่า 70,000 ล้านบาท และเมื่อหักกระแสเงินสดรายจ่ายลงทุนกว่า 40,000 ล้านบาทก็จะเหลือกระแสเงินสดในมือรวมกว่า 30,000 ล้านบาท ดังนั้นการลงทุนที่ ทอท. จะมีขึ้นจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใดแน่นอน