'สรรพสามิต' โชว์จับออนไลน์พุ่ง2.1หมื่นคดี

‘สรรพสามิต’ ยกระดับการปราบปรามเชิงรุก ดึงเทคโนโลยีเสริมแกร่ง พร้อมโชว์ผลงานศูนย์ปฏิบัติการออนไลน์ ลุยจับพุ่ง 2.1 หมื่นคดี สูงกว่าเดิม 9.08% ฟุ้งนำค่าปรับเพิ่ม 27.73%

6 มิ.ย. 2567 – นางสาวนิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวถึงการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามของกรมสรรพสามิต ว่า ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา เปิดศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ (Excise Online Suppression Center) ได้เร่งทำงานในเชิงรุก โดยมีจำนวนคดีปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายของกรมสรรพสามิต เป็นจำนวน 21,074 คดี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.08% มีเงินส่งคลังจำนวน 263.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.73% และมีการปราบปรามคดีคุณภาพจำนวน 578 คดี เพิ่มขึ้น 4.71%

โดยการก่อตั้งศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ของกรมสรรพสามิตเกิดขึ้น เนื่องจากพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ส่งผลต่อการกระทำผิดในรูปแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางช่องทางออนไลน์ที่พฤติกรรมการใช้จ่ายและบริโภคของประชาชนไทยได้เปลี่ยนไปบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ผู้กระทำความผิดกฎหมายสรรพสามิตได้เปลี่ยนช่องทางการกระทำผิดมาอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นเช่นกัน กรมสรรพสามิตจึงยกระดับและเร่งรัดงานด้านการปราบปรามสินค้ามิชอบด้วยกฎหมายผ่านศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ อีกทั้งยังมีการใช้ศูนย์ออนไลน์นี้สืบค้น ขยายผล จนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดได้อีกเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ กรมสรรพสามิตยังได้ยกระดับงานปราบปราม โดยการบูรณาการความร่วมมือการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามกับหน่วยงานภายในและหน่วยงานภายนอก โดยได้ลงนาม MOU กับหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ กรมการปกครอง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เป็นต้น ทำให้สามารถจับสินค้ามิชอบด้วยกฎหมายได้หลายคดีสำคัญ เช่น คดีจับน้ำมันดีเซลมิชอบด้วยกฎหมาย 200,000 ลิตร มูลค่าของกลาง 5,988,000 บาท คิดเป็นประมาณการค่าภาษี 1,088,000 บาท

และประมาณการค่าปรับ 5,440,000 บาท ซึ่งเป็นผลจากการบูรณาการกับ ศรชล. และคดีจับบุหรี่มิชอบด้วยกฎหมาย ที่ซุกซ่อนในกล่องพัสดุที่ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพ (ศป.EMS) เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 49,322 ซอง มูลค่าภาษี 3,097,422 บาท มูลค่าสินค้า 4,749,708.60 บาท เปรียบเทียบปรับ 46,461,324 บาท

ส่วนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงานด้านปราบปรามนั้น กรมสรรพสามิตได้สร้างระบบสืบค้นและติดตามให้กับเจ้าหน้าที่ปราบปรามทั่วประเทศ เพื่อเป็นการสนับสนุนและแบ่งปันข้อมูลด้านการปราบปรามระหว่างกัน การใช้เทคโนโลยี Mobile Lab เครื่องตรวจวิเคราะห์น้ำมัน และระบบติดตาม GPS และการใช้เทคโนโลยีเครื่อง X-Ray เคลื่อนที่ ซึ่งจากการนำเทคโนโลยีข้างต้นมาใช้ทำให้สามารถจับสินค้าบุหรี่ซิกาแรตที่มีการลักลอบนำเข้า 480,085 ซอง และสุราอีกจำนวน 412.18 ลิตร ประมาณการค่าปรับ 443.77 ล้านบาท ในช่วงต.ค. 2566 – พ.ค. 2567

“กรมสรรพสามิตได้มีการดำเนินงานในเชิงรุก มีศูนย์ปราบปรามออนไลน์ อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ และที่สำคัญคือมีการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เพื่อจับกุมขบวนการผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าปลอมหลุดลอด เนื่องจากสินค้าเหล่านี้ส่งผลต่อความปลอดภัยในด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชน อีกทั้งสร้างความเสียหายต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ” นางสาวนิตยา กล่าว