
ไทยจับมือกลุ่ม A-GSPC ที่มีสมาชิก 27 ประเทศ เรียกร้องสหรัฐฯ เร่งพิจารณากฎหมายต่ออายุโครงการ GSP โดยเร็ว ย้ำ GSP ช่วยผู้ประกอบการรายย่อย ลดต้นทุนให้ผู้นำเข้าของสหรัฐฯ ผู้บริโภคซื้อของได้ถูกลง และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับสิทธิ์จากโควิด-19 คาดสหรัฐฯ ปรับเกณฑ์ให้สิทธิ์เข้มขึ้นแน่ ย้ำผู้ประกอบการยังส่งออกไปสหรัฐฯ ได้ตามปกติ แม้ยังไม่ต่อ GSP
15 ม.ค.2565 นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ที่สหรัฐฯ ให้แก่ประเทศต่างๆ รวมถึงไทย ซึ่งหมดอายุลงเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้สหรัฐฯ อยู่ระหว่างการดำเนินขั้นตอนเพื่อผ่านร่างกฎหมายการต่ออายุโครงการ GSP ซึ่งในส่วนของการดำเนินการของไทย ได้ร่วมกับกลุ่ม Alliance for GSP Countries (A-GSPC) ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของประเทศที่ได้รับสิทธิ์ GSP ที่ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 27 ประเทศ เช่น ไทย กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อาร์เจนตินา บราซิล คาซัคสถาน ศรีลังกา ยูเครน เป็นต้น ยื่นหนังสือขอให้รัฐสภาสหรัฐฯ เร่งพิจารณาร่างกฎหมายการต่ออายุโครงการ GSP โดยเร็ว
ทั้งนี้ ทางกลุ่มได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการ GSP ในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ 1.ความสำคัญของโครงการ GSP ที่มีต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของประเทศผู้ได้รับสิทธิ์ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย 2.โครงการ GSP ช่วยลดต้นทุนให้กลุ่มผู้ผลิตสินค้าและผู้ให้บริการในสหรัฐฯ ที่จำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าชั้นกลางมาใช้ในการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและภาคบริการ ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ซื้อสินค้านำเข้าในราคาที่ถูกลงได้ และ 3.จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 การต่ออายุโครงการ GSP จะเป็นปัจจัยส่งเสริมและช่วยเหลือนโยบายภายในประเทศ เพื่อกระตุ้นและฟื้นเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับสิทธิ์ GSP
นายพิทักษ์กล่าวว่า การต่ออายุโครงการ GSP ครั้งใหม่นี้ มีความเป็นไปได้ว่า สหรัฐฯ จะปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในการให้สิทธิ์ GSP แก่ประเทศต่าง ๆ ให้สะท้อนประเด็นที่รัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ เช่น ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม แรงงาน รวมถึงหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนสินค้าที่ได้รับสิทธิ์ หลักเกณฑ์มูลค่าการนำเข้า (Competitive Need Limit : CNL) กฎแหล่งกำเนิดสินค้า เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แม้โครงการ GSP สหรัฐฯ จะสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา แต่ผู้ประกอบการไทยยังสามารถส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ได้ตามปกติ โดยผู้นำเข้าสหรัฐฯ ที่นำเข้าสินค้าที่เคยได้รับสิทธิ์ GSP จะต้องชำระภาษีในอัตราปกติ (MFN rate) ไปจนกว่าจะมีการต่ออายุโครงการ และเพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ ผู้นำเข้าจะต้องแจ้งความประสงค์ในการขอใช้สิทธิ์ GSP ตามปกติ โดยที่ผ่านมาสหรัฐฯ จะทำการคืนภาษีที่ชำระไปหรือคืนหลักประกันการนำเข้าให้แก่ผู้นำเข้าสินค้าภายใต้ GSP เมื่อโครงการได้รับการต่ออายุเรียบร้อยแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คาดส่งออก‘กุ้งไทย’ปี69 ฟื้นรับอานิสงค์ภาษีทรัมป์ทุบคู่แข่ง
ผู้เลี้ยงกุ้งไทยรับอานิสงค์ภาษีทรัมป์ทุบคู่แข่งอินเดียอ่วม 60% คาดส่งออกปี 69 ฟื้น วอนรัฐเร่งแก้ปัญหากุ้งทั้งระบบ เพิ่มผลผลิตกุ้งคุณภาพ 4 แสนตัน พร้อมแนะผู้เลี้ยงมุ่งสู่มาตรฐานกุ้งยั่งยืน ASC
ส่งออกเดือนต.ค.ขยายตัว5.7%ลุ้นทั้งปีโต11.4%
ส่งออกไทยเดือน ต.ค.68 มูลค่า 28,835.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 5.7% โตต่อเนื่อง 16 เดือนติด รวม 10 เดือน มูลค่า 282,982.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 13% คาด 2 เดือนที่เหลือยังส่งออกเพิ่ม ประเมินเดือนละ 2.5-2.6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ ทำยอดทั้งปีโต 10.7-11.4% เกินเป้าหมายแน่นอน ส่วนเป้าปี 69 กำลังประเมิน คาดได้ตัวเลข ธ.ค.68 แนวโน้มยังเป็นบวก แต่ชะลอตัวลงจากปี 68
นักวิชาการ มธ. เชื่อ ‘จีดีพี Q4’ 1.1% ไม่เกินจริง หนุนรัฐปูพรมถก FTA ดันส่งออก
นักวิชาการธรรมศาสตร์ เชื่อมีความเป็นไปได้ที่จีดีพีไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 1.1% ชี้แม้ไม่บรรลุผลเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ

