
ดีอี เตือน อย่าเชื่อ-แชร์ ข่าวปลอม “เหยื่อจากคอลเซ็นเตอร์ ลงทะเบียนขอรับเงินคืน 3 ช่องทาง ผ่านเพจ ศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อมิจฉาชีพทางออนไลน์” หวั่นสร้างความสับสน
6 ต.ค. 2567 – นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 3 ตุลาคม 2567 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 835,553 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 337ข้อความ
สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 325 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 8 ข้อความ และช่องทาง Facebook จำนวน 3 ข้อความรวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 182 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 101 เรื่อง โดยในจำนวนนี้มีข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุด จำนวน 10 อันดับ ได้แก่
อันดับที่ 1 : เรื่อง เหยื่อจากคอลเซ็นเตอร์ ลงทะเบียนขอรับเงินคืน 3 ช่องทาง ผ่านเพจ ศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อมิจฉาชีพทางออนไลน์
อันดับที่ 2 : เรื่อง เปิดให้ลงทุนในธุรกิจค้าปลีกประเภทร้านสะดวกซื้อ เริ่มต้น 1,200 บาท ผลตอบแทน 10 – 30% กำกับดูแลโดย ก.ล.ต.
อันดับที่ 3 : เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ สอนเล่นหุ้น ให้คำปรึกษาแนะนำการซื้อขาย เริ่มต้นที่ 1,000 บาท
อันดับที่ 4 : เรื่อง เหยื่อคอลเซ็นเตอร์ลงทะเบียนคุ้มครองสิทธิเพื่อรับเงินคืนได้ ผ่านทางเพจหน่วยงานต่อต้านภัยสังคม ทางเทคโนโลยี
อันดับที่ 5 : เรื่อง ป.ป.ท. เปิดเพจรับแจ้งความออนไลน์ ติดต่อตำรวจสอบสวนกลางได้โดยตรง
อันดับที่ 6 : เรื่อง ปปง. เปิดให้ผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์แจ้งลงทะเบียนขอรับเงินคืนได้ ผ่านเพจ Crime Suppression Division
อันดับที่ 7 : เรื่อง กรุงไทยใจป้ำ สินเชื่อเพื่อเดอะแบก วงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 10 เท่าของรายได้ต่อเดือน สูงสุด 3 ล้านบาท
อันดับที่ 8 : เรื่อง กรุงไทยเปิดให้ลงทุนระยะสั้น 1,125 บาท รับ 398 บาท ลงทุนระยะยาว 3,295 บาท รับ 1,129 บาท ผ่านเพจ Krungthai KTX Life
อันดับที่ 9 : เรื่อง ปปง. จับมือ 2 ธนาคาร คืนเงินเหยื่อจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เปิดให้ลงทะเบียนขอรับเงินคืน ผ่านทางเพจสมาคมเสริมสร้างภัยทางออนไลน์
อันดับที่ 10 : เรื่อง กระทรวงยุติธรรม เปิดเพจเฟซบุ๊ก กรมคุ้มครองสิทธิ ช่วยเหลือเยียวยาประชาชน
“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับโครงการตามนโยบายของรัฐบาล หน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะการเปิดให้ลงทะเบียนคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มากถึง 6 อันดับ โดยข่าวปลอมอันดับ 1 เรื่อง “เหยื่อจากคอลเซ็นเตอร์ ลงทะเบียนขอรับเงินคืน 3 ช่องทาง ผ่านเพจ ศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อมิจฉาชีพทางออนไลน์” ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ” นายเวทางค์ กล่าว
กระทรวงดีอี ได้ประสานงานร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบพบว่า ข้อมูลในสื่อออนไลน์ดังกล่าวเป็น “ข้อมูลปลอม” สร้างขึ้นโดย “มิจฉาชีพ” และ เพจดังกล่าวไม่ใช่เพจของสำนักงาน ปปง. โดยเพจจริงของสำนักงาน ปปง. ชื่อ “สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน – ปปง.” มีสัญลักษณ์ติ๊กถูกสีฟ้า (Meta Verified) อยู่ด้านหลังชื่อเพจ ซึ่งผ่านการยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว (ลิงก์:https://www.facebook.com/AMLOTHAILAND/) และปปง. ไม่เคยเปิดเพจเฟซบุ๊กอื่นเพื่อรับคำร้องหรือช่วยเหลือผู้เสียหายผ่านเพจเฟซบุ๊กใด ๆ ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ตามประกาศของ ปปง. ที่เปิดสิทธิให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับการคุ้มครองสิทธินั้น หากข้อเท็จจริงของผู้เสียหายตรงกับข้อเท็จจริงที่ระบุไว้ในประกาศของ ปปง. แล้ว ผู้เสียหายสามารถยื่นคำร้องได้ 3 ช่องทางได้แก่
ยื่นด้วยตนเอง ณ สำนักงาน ปปง. หรือสถานที่อื่นที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนด
ยื่นทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
ยื่นผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ตามที่สำนักงาน ปปง. กำหนด (จะมีการระบุไว้ในประกาศฯ)
ทั้งนี้ปปง. กำหนดให้ยื่นคำร้อง ผ่าน 3 ช่องทางข้างต้นนี้เท่านั้น ไม่มีการมอบหมายให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดี หรือยื่นเอกสารผ่านช่องทางในสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทางแต่อย่างใด ดังนั้นขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ โดยประชาชนสามารถติดต่อสอบถาม ปปง.ได้ที่โทร 02-219-3600
อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน สร้างความเสียหาย การเข้าใจผิด เกิดการหลงเชื่อ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด โดยสามารถสอบถามผ่าน สายด่วน 1111 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ขอให้ประชาชน ยึด “หลัก 4 ไม่ คือ 1. ไม่กดลิงก์ 2.ไม่เชื่อ 3.ไม่รีบ และ 4.ไม่โอน”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีอี เตือนภัย ‘โจรออนไลน์’ อ้างกรมการขนส่งฯ เปิดรับทำ ‘ใบขับขี่’ ระวังสูญเงิน
ดีอี เตือนภัย “โจรออนไลน์” อ้างกรมการขนส่งฯ เปิดรับทำ “ใบขับขี่” ผ่านเฟซบุ๊ก ระวังสูญเงิน – ข้อมูลส่วนบุคคล 14 ก.ย. 2568 - นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 5 – 11 กันยายน 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 998,983 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 807 ข้อความ สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 785 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 21 ข้อความ ช่องทาง Facebook จำนวน 1 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 216 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 89 เรื่อง โดยในจำนวนนี้เป็นข่าวปลอมเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ อันดับที่ 1 : เรื่อง กรมการขนส่ง เปิดรับทำใบขับขี่ ต่อใบขับขี่ออนไลน์ผ่านเพจ มนฤดี อันดับที่ 2 : เรื่อง OR เปิดขายหุ้นสามัญ ผ่านเพจ โออาร์ คาเฟ่ อาเมซอน ธุรกิจพันล้าน อันดับที่ 3 : เรื่อง OKJ เปิดโอกาสให้ลงทุนหุ้น เปิดให้ซื้อขายผ่าน SET อันดับที่ 4 : เรื่อง ธนาคารกรุงไทย ปล่อยสินเชื่อผ่านบัญชี TikTok ชื่อ opopookzr44 อันดับที่ 5 : เรื่อง กฟภ. เปิดให้บริการผ่านไลน์ PEA E-Servies อันดับที่ 6 : เรื่อง ธ.ออมสิน เปิดให้บริการสินเชื่อ ผ่านเพจ Lease it Thailand 99 อันดับที่ 7 : เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเพจเฟซบุ๊ก SET online อันดับที่ 8 : เรื่อง กฟภ. เปิดบัญชีไลน์ใหม่ชื่อ PEN Connect อันดับที่ 9 : เรื่อง ธนาคารกรุงไทย เปิดให้บริการผ่านบัญชีไลน์ ฝ่ายบริการออนไลน์KTB อันดับที่ 10 : เรื่อง กฟภ. เปิดบัญชีไลน์ PEA Smart Plus ให้บริการประชาชน “เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวที่เกี่ยวกับการให้บริการของหน่วยงานรัฐ และโครงการสินเชื่อของธนาคารรัฐ รวมทั้งการชักชวนลงทุนหุ้นในหน่วยงานและองค์กรที่น่าเชื่อถือ ซึ่งมีผลกระทบต่อทั้งตัวบุคคลที่เชื่อและแชร์ข้อมูลส่งต่อกันไปเป็นวงกว้าง ทำให้ประชาชนอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ สร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคลได้” นายเวทางค์ กล่าว สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “กรมการขนส่ง เปิดรับทำใบขับขี่ ต่อใบขับขี่ออนไลน์ผ่านเพจ มนฤดี” กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูล โดยขอยืนยันว่า กรมการขนส่งฯ ไม่มีบริการรับทำใบขับขี่ผ่านช่องทางออนไลน์หรือสื่อโซเชียลใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่ง เพจ มนฤดี, เอกนุช, วรัสยา, มาราตรี เป็นการแอบอ้างสร้างเพจปลอมของมิจฉาชีพ เพื่อมาหลอกลวงประชาชน จึงขอประชาชนอย่าให้ข้อมูลหรือโอนเงินไป หากต้องการทำใบขับขี่หรือต่ออายุใบขับขี่ต้องมาดำเนินการที่กรมการขนส่งฯ เท่านั้น และหากประชาชนพบเห็นโพสต์ลักษณะนี้สามารถแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิดมายังกรมการขนส่งทางบกได้โดยตรง หรือโทรสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้กระทรวงดีอี ขอเตือนประชาชนว่าการให้ข้อมูลหรือติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ที่ไม่ได้มาจากช่องทางอย่างเป็นทางการ อาจมีความเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูล หรือเงินในบัญชีธนาคารได้ อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด
ดีอี เตือนภัย 'โจรออนไลน์' เปิดเพจปลอม ชักชวนลงทุนหุ้น 'OR' ระวังสูญเงิน – ข้อมูลส่วนบุคคล
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “OR เปิดให้ลงทะเบียนร่วมลงทุนหุ้นสามัญ ผ่านเพจ AMZ - New Investor Online” รองลงมาคือเรื่อง “ปปง. เร่งทยอยคืนทรัพย์ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคอลเซ็นเตอร์ ติดต่อผ่านเพจ Financial Management Assistance Office” โดยขอให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หวั่นสร้างความเสียหายทั้งข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ขอให้เลือกเชื่อ - แชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ดีอี เตือนภัยมิจฉาชีพเปิดบัญชี TikTok ปลอม อ้างเป็น ‘ธ.กรุงไทย’ หลอกดูดเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “ธ.กรุงไทย ปล่อยสินเชื่อ ผ่าน TikTok ชื่อ .ktb51” รองลงมาคือเรื่อง “OR เสนอขายหุ้น IPO ผ่านเพจ Amz Premium Quality Coffee” โดยขอให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เลือกเชื่อ-แชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หวั่นสร้างความสูญเสียทั้งข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง
ดีอี เตือนภัยมิจฉาชีพ อ้างเป็น ‘กรมบังคับคดี’ ระวังหลอกดูดเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “ออมสินเปิดบริการสินเชื่อให้ยืมวงเงินสูงสุด 1,000,000 บาท ผ่านเพจ LEASE it CPT 008” รองลงมาคือเรื่อง “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเว็บไซต์ใหม่ให้บริการประชาชน” โดยขอให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เลือกเชื่อ-แชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หวั่นสร้างความสูญเสียทั้งข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง
ดีอี เตือนภัย ‘โจรออนไลน์’ สร้างเพจปลอม โอ้กะจู๋ เสนอขาย IPO ระวังถูกดูดเงิน
ดีอี เตือนภัย “โจรออนไลน์” สร้างเพจปลอม “โอ้กะจู๋ เสนอขาย IPO จำนวนไม่เกิน 159 หุ้น ปันผลเฉลี่ย 5-7% ต่อปี มีใบอนุญาตจาก ก.ล.ต.” ระวังหลอกดูดเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล
เตือน ‘โจรออนไลน์’ สร้างบัญชีปลอม ‘ธนาคารออมสิน’ เปิดให้สินเชื่อระวังสูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล
ดีอี เตือน “โจรออนไลน์” สร้างบัญชีปลอม “ธนาคารออมสิน” เปิดให้สินเชื่อ ผ่าน TikTok หวั่นสูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล


