รัฐบาลฟุ้งนักธุรกิจมั่นใจศก.ไทย หลังสร้างความมั่นใจทุกมิติ แห่จดทะเบียนบริษัทใหม่พุ่ง102%

รองโฆษกรัฐบาล เผย นักธุรกิจมั่นใจเศรษฐกิจไทยคึกคัก หลังรัฐบาลลุยนโยบายสร้างความมั่นใจทุกมิติ แห่จดทะเบียนบริษัทใหม่เพียบ ม.ค.เดือนเดียวพุ่ง 102%

28 ก.พ.2568 - นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า สถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือน ม.ค. 2568 มีจำนวน 8,862 ราย เพิ่มขึ้น 102% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 2567 มีทุนจดทะเบียน 24,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เทียบกับ ธ.ค.2567 โดยธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร และเดือน ก.พ. มีนิติบุคคลที่จดทะเบียนทุนสูงเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 1 ราย ทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท ประกอบกิจการ ผลิต จำหน่าย ส่งออก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง

ทั้งนี้ อัตราส่วนการจัดตั้งธุรกิจต่อการเลิกธุรกิจในเดือน ม.ค. 2568 อยู่ที่ 6:1 ซึ่งถือว่ามีการจัดตั้งใหม่ที่เติบโตสูง ขณะที่การเลิกยังต่ำ และเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราส่วนเฉลี่ย ปี 2567 อยู่ที่ 4:1 และ 5 ปี ย้อนหลัง (2562-2566) อยู่ที่ 3:1 แสดงให้ถึงแนวโน้มที่ดีของภาคธุรกิจในปี 2568 โดยคาดว่า ไตรมาสแรกปี 2568 จะมีธุรกิจจดทะเบียนจัดตั้งใหม่อยู่ที่ 27,000-28,000 ราย คิดเป็น 30% ของยอดจดทะเบียนทั้งปี และตลอดปี 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 90,000-95,000 ราย

นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค.2568) มีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น 1,973,692 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 30.54 ล้านล้านบาท โดยมีนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่ 929,377 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 22.32 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็นบริษัทจำกัด 732,081 ราย หรือ 78.77% ของจำนวนนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 16.30 ล้านล้านบาท ห้างหุ้นส่วนจำกัดและห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 195,813 ราย หรือ 21.07% ของจำนวนนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 0.43 ล้านล้านบาท และบริษัทมหาชนจำกัด 1,483 ราย หรือ 0.16% ของจำนวนนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 5.59 ล้านล้านบาท

นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า สำหรับนิติบุคคลในกลุ่มธุรกิจบริการ เป็นประเภทธุรกิจที่มีสัดส่วนการจดทะเบียนมากที่สุด มีจำนวน 501,709 ราย ทุนจดทะเบียน 12.98 ล้านล้านบาท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก 304,831 ราย ทุน 2.52 ล้านล้านบาท และธุรกิจผลิต 1.23 แสนราย ทุน 6.837 ล้านล้านบาท คิดเป็น 53.98%, 32.80% และ 13.22% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ตามลำดับ

”รัฐบาล ได้ทำนโยบายมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วส่งผลให้การเติบโตของประเทศ GDP ไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมาสูงถึง 3.2% และในปีนี้ได้เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกมิติ และยืนยันถึงความพร้อมในการสนับสนุนภาคธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และการส่งเสริมผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในประเทศและระดับสากล รัฐบาลเชื่อมั่นว่าปี 2568 จะเป็นอีกปีที่ภาคธุรกิจไทยเดินหน้าสู่ความแข็งแกร่งและยั่งยืน จนทำให้นักธุรกิจจำนวนมากให้ความมั่นใจจดทะเบียนเปิดบริษัทใหม่เป็นจำนวนมากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา “ นางสาวศศิกานต์ ระบุ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ รับพยายามดัน 'คนละครึ่งพลัส' เฟส 2 ให้ทันยุบสภา

นายกฯ บอกพยายามดัน "คนละครึ่งพลัส" เฟส 2 ให้ทันยุบสภา เลี่ยงตอบปมให้ทุกกระทรวงเสนองบก่อน 9 ธ.ค.นี้ ตอกกลับ ‘เมียจักรภพ’ ให้ถาม ปชช.ส่วนใหญ่ หลังโวยคนละครึ่งพลัสเป็นโครงการผิดพลาด

จดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่ตุลาคม 2568 ยอด 7,165 ราย สะสม 10 เดือน 74,510 ราย ด้านต่างชาติลงทุนไทย รอบ 10 เดือนพุ่ง 2.76 แสนล้านบาท โต 72%

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยเดือนตุลาคม 2568 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 7,165 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 21,778 ล้านบาท แม้ทุนจดทะเบียนจะลดลงจากปีก่อน แต่ทุนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. 68

ร้านค้าบุรีรัมย์คึกคัก วันแรกใช้สิทธิ 'คนละครึ่งพลัส' ประชาชนกล้าใช้จ่ายมากขึ้น กระตุ้นยอดซื้อได้ดี

คนละครึ่งพลัสวันแรก มีประชาชนแห่สแกนซื้อสินค้า ทั้งของกินของใช้กันอย่างคึกคัก ขณะที่ลูกค้าหลายรายยังไม่เข้าใจระบบการเติมเงิน ว่าจะต้องกดเติมเงินและสแกนจ่ายอย่างไร โชคดีทางร้านช่วยแนะนำ ขณะแม่ค้าเผยอานิสงค์โครงการฯ ทำให้มีประชาชนเริ่มออกมาจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้นกว่าปกติ

เชียงใหม่คาด 'คนละครึ่งพลัส' กระตุ้นเศรษฐกิจได้กว่า 4 พันล้านบาท

คลังเชียงใหม่เผยโครงการคนละครึ่งพลัสคนลงทะเบียนคึกคัก เริ่มใช้สิทธิได้ 29 ต.ค.นี้ พร้อมชวนร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการได้ถึง 19 ธ.ค. คาดกระตุ้นเศรษฐกิจเชียงใหม่ได้กว่า 4 พันล้านบาท แต่ให้ระวังมิจฉาชีพ!