'จุลพันธ์' ยันไม่เกี่ยวนามสกุล หลัง 'สุทธาภา' ติดโผลแคนดิเดตชิงเก้าอี้ผู้ว่าแบงก์ชาติ

‘จุลพันธ์’ ยันไม่เกี่ยวนามสกุล หลัง ‘สุทธาภา อมรวิวัฒน์’ ติดโผลแคนดิเดตผู้สมัครผู้ว่าแบงก์ชาติ มั่นใจสุดท้ายได้คนดีที่สุดแน่นอน มองหากนโยบายการเงิน-การคลังสอดประสานทิศทางเดียวกันจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศอย่างมีศักยภาพ

6 มิ.ย. 2568 – นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวถึงกรณีการเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกให้เป็นบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจนถึงวันปิดรับสมัครเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2568 พบว่า มีผู้สมัครทั้งสิ้น 7 คน ว่า เชื่อว่าทุกคนที่สมัครมีศักยภาพทั้งหมด ส่วนกลไกในการพิจารณาเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่จะต้องดำเนินการ โดยมั่นใจว่าสุดท้ายแล้วจะได้บุคคลที่ดีที่สุดเข้ามาทำหน้าที่อย่างแน่นอน

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า มี 1 ในรายชื่อแคนดิเดตผู้สมัคร คือ นางสาวสุทธาภา อมรวิวัฒน์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายจุลพันธ์นั้น รมช.การคลัง ระบุว่า ขอไม่ตอบในประเด็นนี้ พร้อมยืนยันว่าส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียดว่าบุคคลดังกล่าวได้มีการสมัคร หรือไม่ได้สมัครชิงตำแหน่งดังกล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนที่มีการวิจารณ์ว่า ว่าที่ผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่จะต้องมีวิสัยทัศน์ที่สอดประสานกันระหว่างนโยบายการเงินและนโยบายการคลังนั้น นายจุลพันธ์ มองว่า เป็นเรื่องปกติที่นโยบายการเงินและนโยบายการคลังจะต้องไปด้วยกัน เพราะการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศจะใช้ปีกใด ปีกหนึ่งไม่ได้ นโยบายควรจะไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ขัดแย้งกัน

“สุดท้ายหากมีการใช้เครื่องมือไม่ว่าจะฝั่งการเงินหรือฝั่งการคลัง เครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งแรงเกินไป มันจะทำให้เกิดการ Overheat ทำให้กลไกขาดประสิทธิภาพ และจะทำให้พื้นที่ในการขยับเขยื้อนนโยบายในอนาคตหดแคบลง ดังนั้นหากนโยบายทั้ง 2 ส่วนมีการสอดประสานกันอย่างดี ก็เชื่อว่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว ซึ่งสุดท้ายเชื่อว่าจริง ๆ แล้วไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นผู้ว่าการ ธปท. ก็จะต้องคิดถึงประโยบชน์ของประเทศเป็นหลัก ซึ่งไม่ต่างจากรัฐบาล เพราะถ้าโจทย์คือประชาชน และประเทศชาติ ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างมันก็จะผสานไปด้วยกันอย่างราบรื่น” นายจุลพันธ์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน