เช็กด่วน กพท.คุมเข้มห้ามบินโดรนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดน-พื้นที่ความมั่นคง

กพท.ออกประกาศฉบับที่ 7 ยังคงห้ามบินโดรนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดน และพื้นที่ความมั่นคง ผ่อนคลายบางพื้นที่รอบสนามบิน ถึงวันที่ 15 ต.ค. 68

30 ก.ย. 2568-รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ออกประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง “ห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Drone) ในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา” โดยยังคงห้ามบินโดรนในพื้นที่จังหวัดชายแดน และพื้นที่ความมั่นคง มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2568 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

สำหรับพื้นที่ที่ยังคงห้ามบินเด็ดขาด ได้แก่ 5 จังหวัดชายแดนที่ประกาศกฎอัยการศึกหรือมีกองกำลังภาคพื้น ได้แก่ สระแก้ว บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี  พื้นที่อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี, อำเภอเมืองระยอง จ.ระยอง, อำเภอพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ และอำเภอเมืองราชบุรี จ.ราชบุรี พื้นที่รัศมี 9 กิโลเมตรรอบสนามบินที่กำหนด ได้แก่ สนามบินเชียงใหม่ สนามบินพิษณุโลก สนามบินอุดรธานี สนามบินน้ำพอง สนามบินตาคลี สนามบินอุบลราชธานี สนามบินโคราช สนามบินวัฒนานคร สนามบินกำแพงแสน สนามบินดอนเมือง สนามบินโคกกระเทียม สนามบินประจวบ สนามบินสุราษฎร์ธานี และสนามบินหาดใหญ่ และ พื้นที่ที่หน่วยงานด้านความมั่นคงประกาศเพิ่มเติมเป็นการเฉพาะ

ทั้งนี้ โดยมีเงื่อนไขในการทำการบิน ดังนี้ ผู้ใช้งานต้องขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรนและอากาศยานกับ CAAT ให้ถูกต้องครบถ้วน ยื่นคำขออนุญาตและแจ้งรายละเอียดพื้นที่ วันเวลา และวัตถุประสงค์การบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ผ่านระบบ UAS Portal (uasportal.caat.or.th) และแจ้งต่อศูนย์บังคับและต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินฯ (ศบตอ.น.) อีเมล: [email protected] สามารถบินได้ในเวลา 06.00–18.00 น. หากต้องการบินนอกช่วงเวลาดังกล่าว ต้องขออนุญาตจาก CAAT แต่ห้ามบินในช่วงเวลา 00.01–04.00 น. ทุกกรณี การปฏิบัติการบินที่แตกต่างจากเงื่อนไขที่กำหนด ต้องยื่นคำขออนุญาตเพิ่มเติมต่อ CAAT ผ่าน UAS Portal

สำหรับโดรนของราชการทหาร ตำรวจ ศุลกากร กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรฯ และสำนักข่าวกรองฯ สามารถปฏิบัติการได้ตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้เฉพาะโดรนของศุลกากร กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรฯ หากมีการบินในพื้นที่ห้ามบิน ต้องแจ้งข้อมูลต่อ CAAT ล่วงหน้าผ่านอีเมล [email protected] และต่อ ศบตอ.น. รวมถึงหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ที่รับผิดชอบ

กพท ระบุว่า การออกประกาศฉบับนี้เป็นไปตามข้อเสนอของหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อเสริมสร้างมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยของประเทศให้รัดกุมมากที่สุด ขณะเดียวกัน CAAT ตระหนักถึงความจำเป็นในการใช้งานโดรนในหลากหลายด้าน จึงเร่งพัฒนาระบบ UAS Portal และปรับปรุงขั้นตอนการขออนุญาตให้สะดวก รวดเร็ว และสอดคล้องกับการใช้งานจริง เพื่อให้การใช้โดรนในประเทศไทยสามารถดำเนินไปอย่างสมดุล ทั้งในด้านความปลอดภัย ความมั่นคง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทบ.สอบโดรนไทยขาดสัญญาณปอยเปต พบหลักฐานทุ่นระเบิดดัดแปลง!

ทบ. รอสอบ “โดรนไทย” สัญญาณหายทางปอยเปต ถูกโจมตีหรือไม่ พบบันทึกพิกัด-ทุ่นระเบิดดักรถถังดัดแปลงสังหารบุคคล เช่นเดียวกับที่บ้านสาม

'บิ๊กเล็ก' สั่งคุมเข้ม! รับเขมรอาจจ้องก่อวินาศกรรม 'แท่นขุดเจาะน้ำมัน'

'รมว.กห.' ยอมรับกัมพูชาอาจพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน หลังพบโดรนบินอ่าวไทย สั่งทุกเหล่าทัพเพิ่มความเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัย ชี้เขมรทำลายโดรน D-20 เป็นเรื่องน่าเสียดาย

เขมรยังไม่หยุด! บุกตีคืนบ้านสามหลัง ไทยยิงปืนใหญ่หนีกระเจิง

กัมพูชายังไม่หยุด นำกำลังตีคืนบ้านสามหลัง เจอ 'นย.ตราด' ระดมปืนใหญ่แตกกระเจิง ส่วนพื้นที่บ่อไร่-คลองใหญ่ ชาวบ้านกลับบ้านได้แล้ว หลังไร้เหตุปะทะนานกว่า 7 วัน

ชายแดนตราดระอุ แนวหน้ายิงปะทะดุเดือด พบโดรนบินป่วนทั่วเมือง

ชายแดนตราด ทหารไทยแนวหน้ายังปะทะดุเดือด ปืนใหญ่ยิงสนับสนุน ขณะโดรนบินป่วนทั่วเมือง ประชาชนสับสนกังวลเป็นโดรนทิ้งระเบิด 

กอ.รมน.ยกระดับเฝ้าระวัง 'โดรนสอดแนม-พลีชีพ' พื้นที่ 7 จังหวัด

พลตรี ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษก กอ.รมน. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พลเอก ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เลขาธิการ กอ.รมน. ได้สั่งการให้ รอง