กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฟื้นตัว! ฐานะติดลบต่ำสุดในรอบ 3 ปี

กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฟื้นตัว! ฐานะติดลบต่ำสุดในรอบ 3 ปี มั่นใจฟื้นเป็นบวกสิ้นปีนี้ พร้อมชำระหนี้เงินกู้เสร็จปี 72 คาดสถานการณ์น้ำมันยังดี ปีหน้าอยู่ในกรอบ 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

5 พ.ย. 2568 – นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุน น้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในปีงบประมาณ 2568 (1 ต.ค. 2567 – 30 ก.ย. 2568) สำหรับการบริหารสภาพคล่อง และฟื้นฟูฐานะกองทุน มีความก้าวหน้าในการฟื้นฟูฐานะทางการเงินอย่างชัดเจน จากเดิมวันที่ 29 ก.ย.2567 ติดลบ 99,067 ล้านบาท และมีเจ้าหนี้เงินกู้ยืมอยู่ที่ 105,333 ล้านบาท ล่าสุด ณ วันที่ 2 พ.ย.25668 กองทุนติดลบเหลือเพียง 13,274 ล้านบวท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันบวก 27,965 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจีติดลบ 41,239 ล้านบาท และมีหนี้เงินกู้ยืมอยู่ที่ 31,804 ล้านบาท ถือเป็นระดับ ต่ำสุดในรอบ 3 ปี

“ปี 2568 ถือเป็นจุดเปลี่ยนของกองทุน ฐานะการเงินฟื้นตัวชัดเจน และดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และความมุ่งมั่นในการรักษาเสถียรภาพราคาพลังให้ประชาชน ซึ่งในปี 2568 นี้ หากราคาน้ำมันตลาดโลกยังทรงตัวในระดับปัจจุบัน คาดว่ากองทุนจะมีฐานะเป็นบวกได้ภายในสิ้นปี และเชื่อมั่นว่าจะสามารถชำระหนี้เงินกู้ธนาคารทั้งหมดได้ตามระยะเวลาที่กำหนดภายในปี 2572 อย่างแน่นอน หรืออาจจะเร็วกว่าที่กำหนดหากราคาน้ำมันในตลาดโลกไม่ผันผวนมากจนเกินไป”นายพรชัย กล่าว

ทั้งนี้ ยังได้ประเมินทิศทางราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในปี 2569 มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่าปี 2568 โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันดีเซลเฉลี่ยอยู่ที่ 75-85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันเบนชินเฉลี่ยอยู่ที่ 70-80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) เฉลี่ยอยู่ที่ 460-500 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ความต้องการใช้เชื้อเพลิงในช่วงฤดูหนาวในต่างประเทศไม่สูงมากนัก เพราะอุณหภูมิไม่หนาวมาก ขณะที่กำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก พลัส ที่ยังล้นตลาด ประกอบกับความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะกรณีอิสราเอล-อิหร่าน และความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครนที่ยังไม่สงบ

เพิ่มเพื่อน