'สมาคมแบงก์รัฐ' อัด3มาตรการอุ้มภาคใต้ ชูพักต้น-ยกดอกเบี้ย เข็นสินเชื่อฟื้นฟู-เยียวยา

สมาคมแบงก์รัฐ’ ลุยประกาศ 3 โครงการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ชูพักเงินต้น-ยกดอกเบี้ย รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท นาน 12 เดือน พร้อมอัดสินเชื่อเยียวยารายละไม่เกิน 1 แสนบาท และสินเชื่อฟื้นฟู รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท เคาะอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือนแรก

3 ธ.ค. 2568 – นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (สงร.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน เสริมสภาพคล่องฉุกเฉินในการดำรงชีพ ต่อเติมซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือสถานประกอบการหรือฟื้นฟูการประกอบอาชีพ ของประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็วนั้น สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) หรือ เอสเอ็มอี ดี แบงก์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือไอแบงก์ ได้ประกาศโครงการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยจากสถานการณ์ดังกล่าว จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย

1. โครงการช่วยเหลือ : พักเงินต้น ยกดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ช่วยให้กลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว โดยพักชำระเงินต้นและยกเว้นดอกเบี้ย รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นเวลา 12 เดือน โดยระหว่างพักชำระหนี้ ดอกเบี้ย 0% สำหรับบัญชีลูกหนี้สถานะบัญชีปกติ และบัญชีลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างปรับปรุงโครงสร้างหนี้และสามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ ยังคงชั้นหนี้เดิมตลอดระยะเวลาการพักชำระหนี้ ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ได้เข้าร่วมมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้จากมาตรการอื่นๆ ของสถาบันการเงินของรัฐแล้ว สามารถเปลี่ยนมาใช้โครงการช่วยเหลือฯ ได้  โดยสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 31 ม.ค. 2569

2. โครงการสินเชื่อเพื่อเยียวยา : เพื่อให้ลูกหนี้เดิมมีสภาพคล่องฉุกเฉินในการดำรงชีพ มีเงินทุนในการประกอบอาชีพ หรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือสถานประกอบการ  โดยให้ลูกหนี้เดิมกู้เพิ่มภายใต้วงเงินกู้เดิมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ รายละไม่เกิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี  12 เดือนแรก ระยะเวลากู้และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 2 เป็นต้นไปเป็นไปตามที่ธนาคารแต่ละแห่งกำหนด สำหรับบัญชีลูกหนี้สถานะบัญชีปกติ ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ได้เข้าร่วมมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ของสถาบันการเงินของรัฐแล้ว  สามารถเปลี่ยนมาใช้โครงการสินเชื่อเพื่อเยียวยาได้ โดยสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 31 มี.ค. 2569

3. โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู : เพื่อให้ผู้ประสบอุทกภัยมีเงินทุน เพื่อต่อเติมหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย  หรือฟื้นฟูการประกอบอาชีพ วงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาท  อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี 12 เดือนแรก ระยะเวลากู้และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 2 เป็นต้นไปเป็นตามที่ธนาคารแต่ละแห่งกำหนด โดยผู้กู้ต้องมีสถานะบัญชีปกติ ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ได้เข้าร่วมมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ของสถาบันการเงินของรัฐแล้ว สามารถเปลี่ยนมาใช้โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูได้ โดยสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2569

ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ดังกล่าวต้องมีภูมิลำเนาหรือสถานประกอบการหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัยตามประกาศกองอำนวยการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และมีหลักฐานว่าได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติอุทกภัย หลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่สถาบันการเงินของรัฐแต่ละแห่งกำหนด

อย่างไรก็ดี สามารถลงทะเบียนยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทาง Mobile Application หรือช่องทางอื่นๆ ของสถาบันการเงินของรัฐแต่ละแห่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center  Line Facebook Website Mobile Application และช่องทางอื่นๆ ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง หมายเลข Call Center ของสถาบันการเงินของรัฐ ธนาคารออมสิน 1115, ธ.ก.ส.  0 2555 0555, ธอส.  0 2645 9000, เอ็กซิมแบงก์ 0 2271 3700, เอสเอ็มอี ดี แบงก์ 1357 และ ไอแบงก์ 1302

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

#TOAไม่ทิ้งกัน รวมพลัง ‘ทีโอเอ อาสา’ เดินหน้าฟื้นฟูชาวใต้หลังน้ำลด ส่งมอบถุงยังชีพ – สิ่งของบรรเทาทุกข์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้เต็มสูบ

บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีความห่วงใยและเข้าใจถึงความยากลำบากของพี่น้องประชาชนชาวใต้ที่ต้องเผชิญวิกฤตการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่