
16 มี.ค.65- อาคารกองบังคับการปราบปราม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานครฯ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดี กรม สบส.ร่วมแถลงข่าวการบุกทลายเครือข่ายผลิต และจำหน่ายใบรับรองผลตรวจโควิดปลอม
นพ.ธเรศฯ เปิดเผยว่า ตามที่ กรม สบส.ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีเครือข่ายกระทำการจำหน่ายเอกสารใบรับรองผลตรวจโรคโควิด 19 ปลอม จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (กก.4 บก.ปคบ.) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยพบว่ามีเครือข่ายผู้กระทำผิดอยู่ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครฯ และต่างจังหวัด ดังนั้น กรม สบส.และตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.จึงได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมจนนำไปสู่การออกหมายจับ ผู้กระทำผิด 3 ราย ซึ่งอาศัยอยู่ใน จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานครฯ ซึ่งแต่ละคนจะมีการแบ่งหน้าที่กันดำเนินการ เช่น จัดทำเว็บไซต์ โฆษณาเชิญชวนประชาชน จัดหาบัญชีของผู้อื่น (บัญชีม้า) มารับเงิน/ยักย้ายถ่ายเงิน และปลอมแปลงเอกสารตรวจรับรองผลการตรวจโรคโควิด 19 ฯลฯ โดยพฤติการณ์การกระทำผิดของผู้ต้องหาจะมีการจัดทำเว็บไซต์ซึ่งแอบอ้างชื่อห้องปฏิบัติการ หรือแลปตรวจคัดกรองโรคโควิด 19 ที่ถูกต้องตามกฎหมายมาโฆษณาหลอกลวงประชาชนว่า สามารถออกเอกสารรับรองผลตรวจรับรองโรคโควิด 19 ให้กับประชาชนได้ภายใน 15 นาที เพื่อนำไปใช้ยืนยันตนในการเดินทางหรือสมัครงาน โดยที่ประชาชนไม่ต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคแต่อย่างใด
จึงได้แจ้งข้อหาการกระทำผิดเบื้องต้น 4 กระทง แก่ผู้กระทำผิดโดยทันที ประกอบด้วย 1.ร่วมกันปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม 2.ร่วมกันใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้มีความรู้ ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพแพทย์สาขาต่างๆ 3.ร่วมกันให้บริการหรือเสนอให้บริการที่ใช้เครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง หรือปลอมเครื่องหมายของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร และ 4.ร่วมกันประกอบวิชาชีพนักเทคนิคการแพทย์โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน และไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกันนี้จะมีการประสานไปยังกรมควบคุมโรค เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดผู้ต้องหาตามกฎหมายโรคติดต่ออีกด้วย
ด้าน นพ.ภานุวัฒน์ฯ กล่าวต่อว่า การปลอมแปลงเอกสารการเอกสารรับรองผลตรวจโรคโควิด 19 เป็นการสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแพร่กระจายของโรคติดต่ออันตราย ซึ่งนอกจากจะเป็นการสูญเสียเงินทองโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และยังส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในวงกว้าง อีกทั้งบุคคลใกล้ชิดก็อาจจะเกิดอันตรายจากโรคโควิด 19 ไปด้วย โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ซึ่งเป็นผู้ที่มีอาการรุนแรงหากติดเชื้อโควิด 19 ก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยปัจจุบันภาครัฐก็จัดสรรวัคซีนให้เพียงพอต่อประชาชน จึงขอแนะนำให้ประชาชน หรือบุคคลในครอบครัวที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเอง และบุคคลใกล้ชิดให้ห่างไกลจากโรคโควิด 19 ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็น หรือมีเบาะแสการลักลอบจำหน่าย หรือปลอมแปลงเอกสารทางการแพทย์โดยบุคคล หรือสถานพยาบาล สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1426 กรม สบส.เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บึ้มสนั่น! หนุ่มโรงงานลอบทำพลุขายปีใหม่ พลาดเจ็บสาหัส
ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบนจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเกิดเหตุพลุระเบิด ที่ห้องเช่าเป็นห้องแถว หมู่ที่ 3 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ 'นายพล' 17 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ
'บิ๊กต่าย' แจงแล้ว! เหตุสั่งเด้ง 'ผกก.หาดใหญ่'
'ผบ.ตร.' แจงเหตุสั่งเด้ง 'ผกก.หาดใหญ่' ขาดภาวะผู้นำ น้ำท่วมไม่อยู่ในพื้นที่ ผู้ใต้บังคับบัญชาติดบนแฟลตต้องอดข้าวอดน้ำ
กก.ดส. บุกจับคู่รักขายหัวจ่าย 'พอตซอมบี้' ยึดของกลางเพียบ
ชุดปราบปรามยาเสพติด กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) นำโดย พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา สว.กก.ดส.บช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชปส.ดส. ร่วมกับ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.กทม.
ผบ.ตร. โต้ 'โจ๊ก-อัจฉริยะ' จับมือถล่มแต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่น นรต.41 ไปทำเลทอง
ผบ.ตร.ยันไม่ปวดใจ แม้ "บิ๊กโจ๊ก-อัจฉริยะ" จับมือโจมตีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยันไม่ได้แต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่น 41 หาผลประโยชน์ ย้ำข้อมูลเว็บพนันที่ร้องเรียน ‘ไม่ใช่ยุคของผม’ พร้อมเร่งตรวจสอบโปร่งใส


