'สมรักษ์ คำสิงห์' โต้กดดันเรื่องหนี้จนก่อเหตุฆ่ายกครัว 4 ศพ

กรณีเหตุสลด นายธวัชชัย ทองอ่อน อายุ 48 ปี หรือ อดีต ส.จ.ดำ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของร้านเสบียงทิพย์ อาหารปักษ์ใต้ย่านหลัง ม.รามคำแหง ก่อเหตุยิงภรรยา ลูกสาว 2 คน และตัวเอง เสียชีวิตรวม 4 ศพ ภายในห้องนอนชั้น 2 ของตัวบ้าน โดยเพื่อนบ้านเผยว่าได้ยินเสียงปืนดังออกมาหลายนัดจากในบ้าน

ขณะที่ สมรักษ์ คำสิงห์  ได้ปรากฏอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว โดยเผยว่าสจ.ดำนัดให้มารับเงินเพื่อเคลียร์หนี้บางส่วนที่ร้านอาหาร แต่ตนไม่สามารถติดต่อได้ ต่อมาตำรวจแจ้งว่าได้เกิดเหตุร้ายที่บ้านของผู้ตาย จึงได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ

ล่าสุด สมรักษ์ คำสิงห์  ยอมรับผ่านรายการผ่านรายการโหนกระแสว่ารู้จัก ส.จ.ดำ มานานกว่า 10 ปี “ผมกับส.จ.ดำเป็นเพื่อนกัน 10 กว่าปี สมัยก่อนทำบุญที่นครศรีธรรมราช ช่วยอบต. เยอะแยะมาก แกก็เป็นคนดีคนหนึ่ง  (สรุป ส.จ.ดำติดเท่าไหร่) ประมาณ 10 ล้าน ผมมีหลักฐานการโอน สลิปคุยกันทุกอย่าง

(เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น) เมื่อวาน สี่โมงเช้า ส.จ.โทรมาหาผม บอกว่าบาสเพื่อนรัก วันนี้เคลียร์จบเรียบร้อยแล้วนะ วันนี้จะจ่ายให้ชาวบ้านก่อน 2.5 ล้าน ช่วยไปคุยกับชาวบ้านก่อนได้ไหม อีกวันสองวันจะตามไปอีก 2.5 ล้าน ผมก็บอกว่าได้ ยังไงก็ได้ เพราะชาวบ้านรอมานานแล้ว ตอนโทรมาหัวเราะเลย ร่าเริง บอกบาสเพื่อนรักเลย บ่ายสองให้ไปหาที่ร้านแก เสบียงทิพย์ หลังรามฯ ผมก็ครับๆ บ่ายโมงผมไปถึงร้าน ระหว่างขับรถไปโทรหา แต่โทรไม่ติดเลย พอไปถึงร้านก็ถามพนักงานที่ร้าน ว่าเขามาหรือยัง ผมโทรหลายรอบแล้วไม่ติด พนักงานบอกเดี๋ยวหนูลองโทร แล้วก็บอกโทรติดอยู่ สักพักแกจะเข้ามา

บ่ายโมง สัก 10 นาที มีตำรวจสายตรวจเข้ามาคุยกับพนักงาน และสะกิดไปนอกร้าน ผมก็งงว่าเป็นไร ก็เดินไปถาม ตำรวจว่ามีเรื่องอะไร เขาบอกว่าเพื่อนบ้านแจ้งว่ามีเสียงปืน 7-8 นัดที่บ้านเจ้าของร้าน เราถามว่ารู้ได้ไงว่าร้านนี้ เขาบอกดูจากทะเบียนรถ จนรู้ว่าเป็นของส.จ.ดำ มีร้านอยู่ที่นี่ เขาเลยมาหาเจ้าของร้าน มาหาเบอร์โทรศัพท์ ผมก็ถามว่าบ้านอยู่ไหน เขาบอกอยู่ใกล้ๆ ผมเลยถามว่าผมไปดูได้ไหม ก็ขับรถไปดู ไปถึตำรวจเต็มแล้ว กั้นหมดแล้ว

          เรื่องสาเหตุการตายยังไม่ทราบ พอไปถึงก็เกิดเหตุไปแล้ว แต่พอไปถึงเราถามตำรวจ เขาบอกว่า 4 ศพ ตำรวจถามว่ามาทำอะไร รู้จักคนตายไหม ก็บอกว่าเป็นเพื่อนผม แกนัดผมไปนั่งรอที่ร้าน (ตอนนั้นจำนวนเงินเท่าไหร่ที่จะให้คุณ) 2.5 ล้าน ให้ผมขอร้องชาวบ้านให้ ขอจ่ายก่อน 2.5 ล้าน ผมก็บอกว่าได้ มีตามมาอีกคนนึง แต่เขาไม่ได้ซื้อกับผม เขาไปที่บ้านนั้นด้วย เป็นเจ้าหนี้เหมือนกัน มีการนัดจะชำระให้คนนั้นด้วย พอเสร็จอะไร มีจากนครศรีธรรมราช โทรมาปรึกษาผมว่าโดนเหมือนกัน ผมก็บอกว่าอย่าเพิ่งคิดเรื่องตังค์เลย ตอนนี้ครอบครัวเขาสูญเสียอยู่แล้ว เราก็สงสารครอบครัว ตอนนี้ทำใจก่อน ตั้งสมาธิก่อน

(มีบางคนบอกว่ามีการกดดันจากเจ้าหนี้ คุณไปกดดันอะไรเขาไหม) ผมยิ่งเป็นตัวกลาง บอกชาวบ้านซึ่งส่วนมากเป็นพวกผมอยู่แล้ว ก็บอกใจเย็นครับ เงินเราอยู่กับเขา ก็สันติวิธีค่อยๆ คุยเพื่อเอาตังค์ อีกอย่างเชื่อว่าส.จ.ดำเป็นคนดี รู้จักมาเป็นสิบๆ ปี เขาชอบช่วยเหลือชาวบ้าน ใจเย็น เขาคงติดปัญหานิดหน่อย เดี๋ยวเขาก็แก้ไขได้ (คิดว่าก่อเหตุเพราะอะไร) ก็น่าจะเรื่องนี้แหละ น่าจะเครียดเรื่องเงินนี่แหละ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน

(เขาทำโควตาลอตเตอรี่กับใครอีก) ผมไม่ทราบ แต่พอเกิดเหตุ มีชาวบ้านโทรมาปรึกษาผมด้วยว่าเขาจะได้ตังค์คืนไหม เราก็บอกใจเย็น อย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้ สงสารครอบครัวเขา (เงินที่แบกไว้ 10 ล้าน จะทำยังไง) ตั้งสติก่อน แล้วผมว่าจะไปบวช ห่มขาว 3 วัน 7 วัน เพื่ออุทิศส่วนบุญไปให้เขา เพราะเหตุที่เขาก่อตรงนี้เป็นเพราะเราหรือเปล่า เราก็นอนไม่หลับเหมือนกัน เพราะพอเขามาถามเราก็ต้องถามต่อ เราบาปหรือเปล่า มันไม่สบายใจ ก็อยากไปตั้งหลักก่อน“