'กุ้ง สุธิราช' เผยเหตุผลไม่ต่อสัญญาอาร์เอส

มีผลงานร่วมกันจนพ่อยกแม่ยกสงสัย ว่าสรุปแล้วพวกเขาเป็นอะไรกัน สำหรับนักร้องลูกทุ่งคู่ขวัญ กุ้ง สุทธิราช กับ จิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ และน้องสาว วิ วิรดา เพราะไม่ว่าจะเป็นผลงานลิเก หรือผลงานเพลง ทุกคนทำเต็มที่เลยดูออกมาเสมือนจริง จนหลายคนมองว่าน้าหลานหรือพี่น้องคู่นี้ พวกเขาจะเป็นแฟนกันจริงได้เหรอ ล่าสุด กุ้ง สุธิราช ออกมาเปิดใจเคลียร์ถึงประเด็นนี้ในรายการโต๊ะหนูแหม่ม พร้อมเผยเหตุผลที่ไม่ต่อสัญญาค่ายเก่าอย่างอาร์สยาม

ตัดสินใจนานไหมไม่ต่อสัญญา?

คิดนานเหมือนกันนะครับกับการไม่ต่อสัญญา เพราะเราอยู่อาร์สยามมา 15 ปี และก่อนที่เราจะไปอยู่อาร์สยาม เราเป็นศิลปินที่อยู่ค่ายเล็กๆ ซึ่งเราก็เติบโตมาด้วยตัวเองดูแลตัวเองมาตลอด จนวันนึงได้มีโอกาสเข้ามาในอาร์สยามซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของเราเหมือนกันอย่างหนึ่ง เพราะเมื่อก่อนรูปแบบการเป็นศิลปินมันต้องอยู่ค่ายใหญ่ๆ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วผมอยากไปอาร์เอสมาก เพราะเราชอบศิลปินในยุคนั้น คือมันก็เป็นความฝันที่ครั้งหนึ่งเราอยากไปอยู่บ้านหลังใหญ่ แล้วมันก็รู้สึกภูมิใจ

วันที่มาถึงเวลาเราคิดนานไหม?

คิดนานนะครับ เพราะว่าด้วยเรามีโอกาสในหลายโอกาสกับการเป็นศิลปินในนี้ค่ายแล้ว ก็มีเพลงหลายเพลงในอาร์สยาม ซึ่งหลายเพลงก็ทำให้เรากลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งนึงเรื่อยๆ รวมไปถึงผู้ใหญ่ทุกท่านทางอาร์เอสและอาร์สยามคือมันเหมือนพี่น้องกันไปแล้วอยู่กันเป็นครอบครัว ทำงานทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นพิธีกรก็ได้โอกาส รวมไปถึงละคร เหมือนชีวิตส่วนหนึ่งเราอยู่ในอาร์เอส

คิดนานไหม?

ก็คิดนานอยู่นะครับ เพราะเราเองก็มีคณะลิเกอยู่แล้ว ซึ่งช่วงนั้นเราก็ไม่ค่อยได้ทำเพลงเท่าไหร่ ก็เลยคิดว่าลองออกมาดูสิ เพื่อที่เราจะได้มีโอกาสกว้างขึ้น รับงานมากขึ้น

ใจหายไหม?

ใจหายนะครับ เพราะเหมือนเรามีญาติอยู่ในนั้นทั้งนั้นเลย มันรู้สึกว่าเราอาจจะไปแต่ชื่อแต่กับตัว แต่ใจเรายังอยู่เรายังรู้สึกว่ายังเป็นคนของอาร์สยามหรืออาร์เอส ล่าสุดทางช่อง 6 ก็ยังให้โอกาสกลับมาเล่นงานละคร และได้กลับไปที่ตึกแต่เป็นตึกใหม่ ซึ่งก็เจอพี่น้องที่ดูอบอุ่น

มีความฝันอยากเป็นนักร้องก่อนเป็นลิเก?

มันรู้สึกเกินความคาดหมายของเรา ส่วนตัวก็แอบคิด เพราะพ่อแม่เป็นอะไรที่สนับสนุนทุกอย่าง เป็นอะไรก็ได้แต่ต้องไม่ทิ้งลิเก เราต้องเป็นลิเกงานหลัก ซึ่งตอนเด็กก็เคยถูกในห้างดังดูถูกว่าเราคงทำไม่ได้ ใจเรานี่แป้วเลยคิดว่าไม่มีโอกาสได้เป็นนักร้อง ซึ่งกลับมาด้วยความผิดหวัง จนรู้สึกว่าคงไม่มีโอกาสแล้ว ซึ่งพ่อก็บอกว่าถ้าไม่มีใครทำเดี๋ยวพ่อทำให้ เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ

เป็นลิเกมีความรักได้ไหม และเราปิดไหม?

ถามว่ามีได้ไหมเราก็มีได้ และเราก็ไม่ได้ปิดเรื่องความรัก แต่หน้าที่ของเราในการที่ต้องซัพพอร์ตแฟนๆ ของเรา ซึ่งมันก็ไม่ได้ปิดแล้วมันก็ไม่ได้เปิดมันแค่เหมือนกลับบ้านเราก็มีความรักได้ เราก็คือคนปุถุชนคนธรรมดา เพียงแต่ว่าเราก็ยังต้องทำหน้าที่นี้ต่อไป

เป็นมายังไงทำไมไปเป็นข่าวกับน้า และน้องสาวตัวเอง?

ในยุคนั้นเราเป็นพระเอกนางเอกคู่กันซึ่งคนดูอินมาก เพราะเราเล่นจริงหอมจริงจบจริง กอดกันถึงเนื้อถึงตัวแบบนั้นซึ่งหลังเวทีก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แฟนคลับเค้าก็สังเกตว่าเป็นผัวเมียกันแน่เลย ซึ่งน้าจิ้งหรีดเค้าก็เคยถูกคนเอายาคุมไปให้หน้าเวที หลายคนเค้าก็ไม่รู้และมันดูเหมือนเป็นวัยใกล้เคียงกัน ซึ่งจริงแล้วมันเป็นพระเอกนางเอกนั้น ส่วนน้องสาวมันเป็นในยุคใหม่ที่เรามาทำเพลงด้วยกัน และก็ปล่อยเพลงไปเป็นเพลงเกี่ยวกับความรัก พอไปลงติ๊กต๊อกโซเชียลเค้าก็เลยสงสัยว่าเป็นอะไรกัน คู่นี้เป็นแฟนกันเหรอร้องเพลงด้วยกัน พอเราทำคลิปขำๆ ว่าสรุปแล้วเป็นอะไรกัน เราก็เลยตอบไปว่า ..อ๋อเป็นผัวเมียกัน มันก็เลยไม่จบ

เป็นไปได้ไหมวันนึงเราต้องมีครอบครัว?

เมื่อถึงเวลานะผมว่า มันก็เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าสักวันมันต้องมีครอบครัว เพราะเราเติบโตมาเราก็เห็นพ่อแม่ของเราก่อน เรารู้สึกว่าวันนึงเมื่อถึงวันนั้นมันก็ต้องมาเป็นครอบครัว