'เกริก' เผชิญวิกฤตโรคซึมเศร้า คิดโดดตึก-ผูกคอตาย

อีกหนึ่งปัญหาหนักของคนไทยที่กำลังเผชิญกันมากมาย คงต้องมีเรื่องของ โรคซึมเศร้าอยู่ในลำดับต้นๆ แน่นอน ล่าสุดนักแสดงอารมณ์ดี เกริก ชิลเลอร์ เปิดใจผ่านรายการโต๊ะหนูแหม่ม ถึงสาเหตุที่ต้องเบรคงานในวงการไปนานพอสมควร เพราะต้องเข้ารักษาอาการโรคซึมเศร้า ช็อกหนักถึงขั้นตัดสินใจดิ่งชีวิตหวังฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง

“หลายคนอาจจะเห็นว่าผมเป็นคนร่าเริงตลอดเวลา แล้วตอนเล่นละครผมก็จะแบบว่าเป็นคนที่มีพลังเยอะ ผมเคยถามหมอเรื่องนี้ว่าทำไมผมเล่นละคร ผมทำงานได้ หมอเค้าบอกว่าหนึ่งลูกฮึด สองพื้นที่หน้าฉากมันคือพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผม คือเซฟโซน ผมรู้ว่ากล้องอยู่ตรงโน้นตรงนี้ เราควบคุมได้ ผมเลยไม่รู้สึกว่าตื่นเต้น  (อาการโรคซึมเศร้านี้เป็นมานานหรือยัง) รักษามาได้ 7-8 เดือน ผมก็ถามหมอว่าผมเป็นนานหรือยัง หมอเค้าบอกว่าเท่าที่ฟังคุณเกริกมา คุณเกริกเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว

ผมก็คิดและภาพรีมายด์ตอนเด็กมาเลย มันย้อนกลับมาทั้งหมด ครั้งแรกเลยที่เป็นหนักๆ คือตอนที่เราอยู่อเมริกาสมัยที่เราเป็นวัยรุ่น เรานอนซมอยู่บนโชฟาเอาผ้าห่มคลุมและเราไม่ยอมออกไปทำงาน อยู่อย่างนั้นสามเดือน ที่หนักๆ เลยเราคิดกระโดดตึกตายทีหนึ่ง เพราะว่าเราเฟล มันย้อนกลับมาหมดเลย แล้วเรื่องราวเราเคยไปออกฤทธิ์ออกเดชกับใคร ใครเคยทำกับเรามันกลับมาหมด

เมื่อก่อนมันไม่มีคำว่าโรคซึมเศร้า ผมเพิ่งได้ยินโรคนี้ผ่านๆ เมื่อ 4-5ปีเอง แล้วผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นด้วย ผมจะซึมเศร้าได้ไงเมื่อผมแอคทีฟอยู่ตลอดเวลา แต่มันจะมีบ้างช่วงที่แบบว่าชีวิตผมที่ผมจะบอกภรรยาว่า ขอเวลาพ่ออยู่ในห้องแปบนึงนะ แปบนึงเนี้ยแบบว่าเป็นอาทิตย์ เดี๋ยวพอหลุดจากตรงนี้ได้เดี๋ยวพ่อจะมีแรงเอง คือมันเป็นความเคยชินที่เดี๋ยวสภาวะนี้มาปุ๊บ มันถึงจะมีแรงแอคทีฟออกไปเอง

(อะไรที่ทำให้เราเผชิญโรคนี้หนักสุดและเลือกไปหาหมอ) วางแผนฆ่าตัวตาย เมื่อเกิดความรู้สึกดาวน์ เมื่อเกิดเวิร์ดดิ้งที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกแย่ ถ้าเกิดความรู้สึกไม่ได้ดั่งใจอย่างที่เราคาดหวังเอาไว้ เราก็จะมีความรู้สึกว่าฉันอยู่ไปเพื่ออะไร คิดถึงขั้นนั้นแล้ว (แล้วผ่านเหตุการณ์ตอนนั้นมาได้ยังไง) ลูกครับ เราทำแบบนั้นไม่ได้ คือมันเคยวางแผนแบบว่าต้องผูกคอตาย ตอนนั้นคิดว่าจะผูกตรงไหน กลัวลูกเห็น กลัวลูกเห็นแล้วเป็นภาพจำ คือเราไม่อยากให้ลูกเห็น “