'มันนี่ กิจจำนง' ดาวดวงใหม่ 7HD รับกดดัน เรื่องแรกฟาดฟันรุ่นใหญ่เพียบ!

“มันนี่-กิจจำนง จำนงกิจ” นักแสดงน้องใหม่ ช่อง 7HD ภูมิใจ ผลงานการแสดงเรื่องแรก “สองทระนง” แฟน ๆ ให้การตอบรับที่ดี ดีใจได้ร่วมงานนักแสดงรุ่นใหญ่เพียบ พร้อมเผยกว่าจะมีวันนี้ได้ไม่ง่ายเลย

เป็นนักแสดงน้องใหม่ของ ช่อง 7HD

“ผมเป็นนักแสดงน้องใหม่ของ ช่อง 7HD จากการประกวด 7HD New Stars ครับ ตอนนี้กำลังมีผลงานละครเรื่องแรก เป็นละครแนวดราม่าเรื่อง สองทระนง ซึ่งผลิตโดยค่าย ปภัสรา โปรดักชั่น ของผู้จัด กบ-ปภัสรา เตชะไพบูลย์ ครับ

สองทระนง เป็นโอกาสสำคัญมาก ที่ทำให้ผมได้มารับบท ไซ น้องชายของ เล้ง ที่รับบทโดย พี่เมฆ (จุติ จำเริญเกตุประทีป) ครับ ผมทำการบ้านหนักมาก เพราะใคร ๆ ก็บอกว่าบท ไซ เป็นบทที่ยาก ช่วงแรกผมยังไม่รู้อะไร เพราะเรายังใหม่กับการแสดงมาก ค่อย ๆ เรียนรู้ พัฒนาตัวเองไป จนเข้าใจในตัวละคร และแสดงได้ดีขึ้นครับ สำหรับบท ไซ คาแรกเตอร์จะเป็นคนแข็งกระด้าง โผงผาง อารมณ์ร้อน สู้คน ปากจัด พร้อมบวก ตรงข้ามกับเล้งพี่ชาย ที่จะใจเย็นกว่า เรียกว่าเป็นตัวละครสองพี่น้องที่คาแรกเตอร์ต่างกันมาก เรื่องวุ่นวายหลายอย่างที่เกิดขึ้นในเรื่อง บางครั้งเกิดจากไซ ที่ใจร้อน เพราะเขามองว่าพวกเขาสองพี่น้อง ไม่ใช่หลานรักของญาติผู้ใหญ่ในตระกูล ดังนั้นละครเรื่องนี้ก็ จะเป็นเรื่องราวการต่อสู้ชีวิตของสองพี่น้อง ที่มีความทระนง มีศักดิ์ศรี ต่อสู้เอาชนะอุปสรรคจนได้ดี และเป็นที่ยอมรับครับ”

ตัวละคร “ไซ” เป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญของ “สองทระนง” กดดันไหม

“กดดันมาก และเครียดมาก หนึ่งเลย ละครเรื่องนี้มีความดราม่า ถ้าน้ำตาไม่ออก มันดราม่าไม่ได้ ทุกครั้งที่ผมทำการบ้าน ผมจะทำการบ้านด้วยการทำความเข้าใจความรู้สึกของตัวละครในแต่ละฉาก และไปถึงจุดสูงสุดในอารมณ์นั้น ๆ ของตัวละครให้ได้ ผมต้องร้องไห้ให้ได้ ทำอย่างนี้ทุกครั้งก่อนที่จะมีการถ่ายทำจริง โดยเฉพาะเวลาที่มีซีนดราม่า แล้วผมจะชอบอัดคลิปในโทรศัพท์ทิ้งไว้ทุกครั้งที่ทำการบ้าน ดูตัวเองว่าเราเข้าถึงบทไหม เวลาเราไปอยู่หน้ากองละครแล้ว จะทำให้ผมทำงานง่ายขึ้น ผลักดันตัวเองได้มากขึ้น ว่าเราเคยทำการบ้านไปถึงจุดที่ต้องการแล้วนะ พอถ่ายทำจริง ทำไมเราจะทำไม่ได้ ซึ่งตอนที่ทำการบ้านช่วงแรก ๆ ผมจะคิดเรื่องเศร้าในชีวิต แล้วเอามาแสดงไปตามบท แต่ตอนหลัง ๆ ผมรู้สึกว่ามันยังไม่ถูกต้อง เพราะผมคิดว่าถ้าเราเอาเรื่องเศร้าของตัวเองมาใช้บ่อย ๆ มันจะทำให้เราดาวน์มาก ผมเลยเปลี่ยนแนวคิดใหม่ ไปเรียนการแสดงเพิ่มในระหว่างที่ถ่ายทำ โดยเรียนเรื่องการร้องไห้โดยเฉพาะ ทำความเข้าใจว่าเราต้องคิดยังไง คุณครูเขาก็สอนให้เราทำความเข้าใจตัวละคร  แล้วอินเนอร์มันจะออกมาเอง ซึ่งหลัง ๆ ผมทำตามที่ครูบอก การแสดงออกมันก็ดีขึ้น และดีต่อสุขภาพจิตตัวเองมาก

ใน “สองทระนง” ต้องฟาดฟันกับนักแสดงรุ่นใหญ่ โดยเฉพาะ “ป้าจิ๊-อัจฉราพรรณ” รู้สึกยังไง

“จะมีต้องฟาดฟันกับ ป้าจิ๊ (อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ) ครับ มีลงไม้ลงมือกันด้วย แต่เป็นป้าจิ๊นะครับที่ลงไม้ลงมือ (ยิ้ม) คือจะมีฉากที่ป้าจิ๊ตบผม ผมบอกป้าจิ๊ว่า ตบจริงได้เลยนะครับ แม่กบบอกว่าซีนนั้นไม่ต้องใส่ซาวด์เลย เสียงตบคือได้ยินกันทั่วถึงมาก พอตบจริงแล้วอารมณ์มันถึง มันเลยทำให้เราเล่นต่อในฉากนั้นได้ด้วยความรู้สึกอินจริง ๆ อีกอย่างป้าจิ๊เป็นนักแสดงที่เก่งมาก เป็นคนที่เล่นแล้วอารมณ์ถึง ช่วยส่งอารมณ์ให้ได้อีก เวลามีฉากที่ต้องเข้ากับป้าจิ๊ ผมหายห่วงเลย รู้สึกได้รับอารมณ์ที่เขาส่งให้จริง ๆ และพาผมไปจนถึงจุดสูงสุดของบทที่ต้องแสดงในฉากนั้น ๆ ได้ ถ้าถามว่าการปะทะกับป้าจิ๊มันอยู่ในเลเวลไหน ก็ต้องบอกเลยว่าแรงมาก ๆ ในหลาย ๆ ผมชอบตัวเองเวลาที่ได้เล่นกับนักแสดงรุ่นใหญ่มาก มันทำให้รู้สึกว่าผมมีพลัง มีเอนเนอร์จีล้นเหลือมาก แล้วมันสามารถทำให้ผมจูนเข้าหากันกับนักแสดงทุกคนได้ คือผมได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างจากนักแสดงรุ่นใหญ่ที่ร่วมงานในละครเรื่องนี้หลายท่านมาก ๆ จริง ๆ”

การร่วมงานกับ “กบ-ปภัสรา เตชะไพบูลย์” ทั้งในฐานะนักแสดง และผู้จัดละคร

“ในฐานะนักแสดง เรื่องนี้ผมกับแม่กบจะมีการปะทะกัน ทะเลาะกันเยอะมากเหมือนกันครับ มันจะเป็นการที่ผมต้องการเอาคืนเขา เพื่อความสะใจ การปะทะกันของผมกับแม่กบในเรื่อง จะไม่ดราม่าเหมือนกับการเข้าฉากกับป้าจิ๊ ที่แสดงเป็นอาม่าของผมในเรื่องเท่าไหร่ กับแม่กบจะมีความรุนแรง มีการตะคอกใส่กัน ค่อนข้างที่จะใช้พลังพอสมควร ส่วนในฐานะผู้จัด แม่กบดูแลผมดีมาก ผมจะเรียกแม่กบว่าแม่ตลอด เวลาแม่กบมากองถ่าย แล้วมีฉากดราม่า ผมก็จะไปหาแม่กบ และบอกว่าแม่ครับ ต่อไปมีซีนร้องไห้อีกแล้ว แม่ช่วยผมหน่อย อะไรอย่างนี้ แม่กบก็จะมายืนกอดผมไว้ แล้วแม่ก็จะไล่บทให้ผมว่าซีนนี้มันเป็นยังไง ความรู้สึกของตัวละครต้องเป็นยังไง ซึ่งมันเป็นความรู้สึกอบอุ่น และอุ่นใจมาก ที่แม่กบลงมาดูแลเอาใจใส่ทุกอย่าง”

ฟีดแบ็กจากครอบครัว และแฟนละคร เป็นอย่างไรบ้าง หลังจากละครออกอากาศ

“ที่บ้านดีใจ และให้กำลังใจมาก คุณแม่บอกว่าภูมิใจในตัวผมมาก เพื่อน ๆ หรือคนรู้จักของคุณพ่อก็มาถามไถ่ ว่าลูกชายเป็นยังไงบ้าง กลับมาบ้านหรือยัง อยากถ่ายรูปด้วย คุณพ่อบอกว่ารอดูทุกวัน ญาติ ๆ ทุกคนตั้งตารอดูละคร พอหลายคนได้ดูแล้ว ฟีดแบ็กที่ได้รับก็ดีมาก ๆ ทุกคน รวมถึงแฟนละคร ช่อง 7HD บอกว่า ไซ เล่นดีมาก เล่นไม่แข็งเลย แต่อาจจะมีเรื่องของโอเวอร์แอ็กติ้งไปนิดหนึ่งนะ ซึ่งผลตอบรับก็คือทุกคนแฮปปี้ และชอบ ฟีดแบ็กเป็นไปในทางที่ดี รู้สึกดีใจ และขอบคุณมาก ๆ ครับ ทุกคนให้กำลังใจ ทำให้รู้สึกว่าเราอยากทำงานตรงนี้ต่อไปเรื่อย ๆ แล้วก็มีแฟน ๆ ไปตั้งกระทู้พันทิป มีชื่อมันนี่ กิจจำนง อยู่ในการค้นหา ทุกคนคอมเมนต์ว่ามันนี่สอบผ่าน น้องเล่นดีมากเลย สามารถไปต่อเป็นนักแสดงที่ดีได้เลยนะ เห็นแล้วมันรู้สึก โอ้โห หายเหนื่อยนะ ”

เล่าถึงชีวิตส่วนตัว และไลฟ์สไตล์ยามว่าง ให้แฟน ๆ ได้รู้จักตัวตนมากยิ่งขึ้น

“ชีวิตส่วนตัวจริง ๆ สมัยเรียน ผมค่อนข้างเป็นเด็กเรียนมาก ๆ ใส่แว่นหนา ๆ ได้เกรด 4 มาเกือบตลอด และสอบเข้าสถาบันต่าง ๆ ที่คุณพ่อ คุณแม่อยากให้เราสอบเข้าได้เกือบหมด คุณพ่อคุณแม่ขอเกรด 4 ผมก็ทำให้ ถ้าถามว่าสมัยเด็ก ผมเครียด และกดดันไหม ก็ต้องยอมรับว่ากดดันนะ เพราะทำให้ผมไม่ได้สังคมกับเพื่อน ไปช่วงหนึ่ง โดยเฉพาะตอนมัธยม เพราะผมอยากทำให้คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจ และผมก็อยากเห็นภาพตัวเองว่าจะต้องมาอยู่กรุงเทพให้ได้ เพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเอง ในการใช้ชีวิตอยากมีเป้าหมายหลาย ๆ ผมเลยตั้งใจเรียน สอบเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยคนเดียว ที่กรุงเทพฯ แต่ช่วงเข้ามหาวิทยาลัย ก็เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเหมือนกัน เพราะที่บ้านเริ่มมีปัญหาทางการเงิน มีภาระหนี้สิน แต่ผมก็รู้ว่าอะไรผิดถูก ไม่ได้ทำตัวเหลวไหลให้คุณพ่อคุณแม่ต้องหนักใจ และทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ไปแคสติ้ง รับงานถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณาต่าง ๆ ประกวดเวทีต่าง ๆ เงินที่ได้มาก็โอนเงินไปให้คุณแม่ไว้ใช้ แล้วก็สอบชิงทุนได้ และเรียนจนจบปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ครับ”

เข้าวงการเต็มตัวแล้ว วางเป้าหมายในอนาคต ให้กับชีวิตตัวเองไว้ยังไง

“ถ้าให้มองงานในวงการ โดยไม่เกี่ยวกับเรื่องรายได้ ผมก็อยากจะไปให้สูงที่สุด เป็นนักแสดงที่เก่ง ทุกคนรู้จัก นึกหน้าออก นึกผลงานออก ไม่ยึดติดว่าจะต้องเป็นพระเอกเลย ผมอยากเป็นนักแสดงที่ทุกคนยอมรับ แสดงแล้วปากบิดปากเบี้ยว น้ำมูก น้ำหู น้ำตาไหล ดูแล้วไม่หลอก แต่ทุกคนยอมรับว่านี้แหละ คือนักแสดง นี่คือเป้าหมายในวงการที่ผมอยากจะอยู่ในจุดนั้น

แต่ถ้าเป้าหมายในเรื่องที่ต้องมองถึงรายได้ ตอนนี้ในแต่ละเดือน ผมทำงานหาเงินใช้เอง โดยที่ไม่ขอคุณพ่อ คุณแม่ นอกจากงานแสดง ผมก็มีงานอื่น ๆ ที่ไม่ผิดกฎของ ช่อง 7HD ทำด้วย คือไปช่วยรุ่นพี่ที่ทำบริษัท ออแกไนซ์ ชื่อบริษัท คิด ก่อน พูด ซึ่งรับทำอีเวนต์เต็มรูปแบบ ทำทั้งโปรดักชันเฮ้าส์ และงานพีอาร์ ผมไปช่วยทำงานเบื้องหลัง เป็นครีเอทีฟ คิดงาน และไปเสนองานลูกค้า ซึ่งการได้ทำงานเบื้องหลัง ทำให้ผมเข้าใจการทำงานในวงการมากขึ้น นอกจากนี้ก็อยากดูแลครอบครัวให้ดี และร่วมลงทุนทำธุรกิจไปอีกสเต็ปหนึ่ง อยากทำรีสอร์ตต่อยอดธุรกิจ ที่จังหวัดชัยภูมิ  เพราะญาติผมมีที่ดินอยู่ที่นั่นด้วย”

เรื่องของหัวใจ

“โสดสนิทครับ จริง ๆ ผมเป็นคนที่ไม่เคยคิดเรื่องการมีความรักเลย คิดแต่เรื่องการทำงานเป็นหลัก เคยมีฟีลปั๊ปปี้เลิฟตอนมัธยม เห็นเพื่อนมี เลยอยากมีบ้าง เลยลองคุย ๆ คบ 7 วัน แล้วก็เลิก เพราะรู้สึกว่า เราไม่ได้ต้องการมีแฟน ๆ ตอนนั้นเราตั้งใจเรียนอย่างเดียวจริง ๆ พอเข้ามหาวิทยาลัย ก็ทำแต่งาน มาจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้สึกมีความคิดอยากมี เพราะผมว่าผมยังไม่พร้อม การมีความรัก คบหาใครสักคนเป็นพิเศษ คือเรายังทำให้คุณพ่อคุณแม่อยู่สบายไม่ได้ อย่างที่เราต้องการเลย เคยมีความคิดว่า หรือว่าเราจะอยู่เป็นโสด เลี้ยงน้องหมาคอร์กี้สักตัวเป็นเพื่อนดีนะ อะไรแบบนี้ แต่ถ้าจะต้องมีใครสักคน ผมชอบคนที่อายุมากกว่า หรือมีความคิดที่โต มีความเป็นผู้ใหญ่ อบอุ่น ดูแลเทคแคร์กันได้ พากันไปเติบโต ช่วยกันทำงาน”

ฝากผลงาน

“ฝากติดตามละคร สองทระนง ด้วยนะครับ เหลืออีกไม่กี่ตอนแล้ว ละครจะมีความเข้มข้นขึ้น จนทุกคนจะต้องเตรียมทิชชู่ไว้ข้างตัวเยอะมาก เพราะเป็นละครดราม่าที่ลึกมาก เรื่องราวเดาทางไม่ได้ สนุกน่าลุ้น ไปจนถึงตอนจบเลย แล้วก็มีละครอีกเรื่องที่กำลังถ่ายทำ ภูเขาเงาพยัคฆ์ เป็นละครแอ็กชั่นที่มีคิวบู๊หนักมาก ต้องไปเรียนคิวบู๊ ใช้ความแข็งแรงของร่างกาย เป็นละครอีกเรื่องที่แตกต่างกันมาก ฝากติดตามให้กำลังใจด้วยนะครับ”     

เรียกว่าเป็นนักแสดงน้องใหม่ของช่อง 7HD มาแรง ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และน่าจับตาอย่างมากเลยทีเดียว ฝากแฟน ๆ ให้กำลังใจกันเยอะ ๆ นะจ๊ะ