กว่าจะมาเป็นคู่ 'เจมส์-กาด' เกือบมีคนโดนปลดจากซีรีส์

ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว สำหรับงาน Bad Guy My Boss Final EP. Fan Meeting  ที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคมที่จะถึงนี้  ณ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ งานแฟนมีตครั้งแรกของหนุ่มฯ จากซีรีส์ Bad Guy My Boss เจ้านายร้ายรัก ทางช่อง 8 ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ซึ่งกว่าจะมีวันนี้ ที่ซีรีส์และ 2 นักแสดงนำอย่าง เจมส์ เพรสคอท ในบทบอสเอรีส และ กาด พลอยสุภา ในบทเลขาปัถย์ จะประสบความสำเร็จแบบถล่มทลาย แต่ใครจะรู้บ้างว่ามีคนหนึ่งเกือบโดนปลดจากซีรีส์

จุดเริ่มต้นของคู่ เจมส์-กาด

เจมส์ : ช่วงนั้นว่างพอดีก็เลยเข้ามาแคสซีรีส์ ซึ่งผมก็ไม่ได้หวังว่าจะได้หรือเปล่า แต่เหมือนทางช่องเขาเห็นเป็นว่าคาแรคเตอร์เราตรงกับบทเอรีส พอวันรุ่งขึ้นเขาก็โทรมาบอกว่าได้นะ เราก็นึกในใจตายละทำยังไงดี มันรู้สึกกดดัน แต่ว่าตอนนั้นผมไม่ได้มีใครดูแล เซ็นกับช่อง 8 ก็น่าจะโอเค แต่พอเข้ามากว่าจะได้ถ่ายทำก็ต้องทำการบ้านเยอะมาก ด้วยบทที่โตกว่าผม ภาษาไทยก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ แต่พี่กาดก็ช่วยผมได้เยอะมาก แล้วมีช่วงที่ผมเหลวไหล ไม่ค่อยตั้งใจที่จะไปเวิร์คช็อป จนผ่านเวลามาสักแป๊บหนื่งก็มีคนรอบข้างเข้ามาคุย มาเตือน

กาด :  เจอน้องครั้งแรก ความรู้สึกผมไม่แย่เลย เพราะว่าน้องหล่อ แต่บุคคลิคไม่ดี ดูเป็นเด็ก แล้วความคิดเราในหัวคือ ตัวละครมันโตมากน้องมันจะทำได้เหรอ ตอนช่วงเวิร์คช็อปผมก็พยายามจี้ทุกอณู แล้วไม่ใช่เขาทำไม่ได้ แต่เขาไม่ทำ แตกต่างจากพระเอกคนอื่นๆ มั้ยล่ะ ตอนที่ผมมาแคสติ้งแล้วก็ผ่าน ได้เซ็นสัญญากับช่อง 8 ตามระบบ แต่กว่าจะได้เล่นก็นานเหมือนกัน เพราะมาตรฐานของช่องที่ค่อนข้างสูง เราเลยต้องเวิร์คช็อปกันเป็นเวลานานมากๆ ด้วยที่น้องเป็นลูกครึ่ง พูดไทยไม่ค่อยชัดและไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทยเท่าไหร่ แล้วยิ่งบทคุณเอรีส น้องอายุแค่ 20 บทมันโตกว่าเขามากๆ เลยอาจต้องเข้มงวดสักหน่อย

อะไรที่ทำให้เจมส์เหลวไหนในตอนแรก

กาด : พระเอกคนอื่นเวลาที่เขาได้บท เขาจะมีความตื่นเต้น เอเนอร์จี้เยอะมาก อยากจะทำโน้นทำนี่  แต่น้องกลับพลิกเลย เป็นพระเอกที่ไม่เอาอะไรเลย งอแง เวิร์คข็อปก็มาบ้างไม่มาบ้าง มาสาย บทไม่เอามา ถามอะไรไปก็ไม่ก็ไม่รู้เรื่อง

เจมส์ : ตอนแรกที่เข้ามาแคสผมอายุแค่ 19 ยอมรับว่าตอนมาแคสไม่คิดว่าจะได้ด้วยซ้ำ  ว่าจะได้บทนี้ อ่านคาแรคเตอร์ ลองเล่นแล้วมันห่างไกลจากตัวเรามาก ด้วยอายุ หน้าที่การงาน ความเข้มงวดมันต่างจากตัวเรามากเลย แล้วด้วยตอนแรกผมมีแข่งบาส เรียนด้วย เลยเบี่ยงเบนไปทางโน้นมากกว่า แต่พอเราเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ คนในซีรีส์ก็เริ่มที่จะอยากปลดเจมส์ออกจากซีรีส์แล้วนะ  ช่วงแรกยอมรับไม่ได้เต็มที่ขนาดนั้น คิดแค่ว่าทำๆ ไปเถอะ  ถึงเวลาก็ไปเล่น  (เกี่ยวมั้ยเพราะเป็นซีรีส์วาย) ไม่เลย ตรงนั้นผมไม่ติด ผมโอเคมาก  ยอมรับว่าลักษณะภายนอกของตัวละครเอรีส มันตรงกับผมมากๆ  ต้องเป็นลูกครึ่ง ต้องสูงกว่านายเอก ลักษณะภายนอกได้แต่อินเนอร์ต่างๆ มันต่างจากตัวเราไปหมดเลย มันเลยยังมีความต่อต้านเล็กๆ อยู่ในใจ แต่สุดท้ายผมคิดว่า เราเข้ามาขนาดนี้แล้ว ทุกคนก็หวังกับเรามาก แต่เราทำให้ความหวังเขาลดลงไปมาก จุดปลดล็อกก็โอเค ไหนๆ จะปีใหม่ล่ะ เราเป็นเจมส์คนใหม่ดีกว่า พอกลับมาวันแรกก็ถือบทมาซ้อม และเริ่มที่จะพยายามพัฒนาตัวเองเพื่อจะได้เป็นเอรีสในแบบที่ทุกคนต้องการ

ตอนน้องเกเรเรารู้สึกยังไง

กาด :  ผมก็เข้าใจเขานะ ตอนเด็กๆ เราก็เคยเป็นแบบนี้ แล้วเราก็ค่อย ๆ ปรับตัว ผมก็เลยให้ข้อคิดกับน้อง พูดอะไรไปบางอย่างให้เขาไปคิดต่อ แล้วเหมือนน้องเขากลับไปทำการบ้าน กลับมาอีกทีเขาก็ทำได้ คือผมเคยเห็นตอนน้องมาแคสติ้ง เห็นเขาทำได้ แต่พอมาต้องเล่นจริงผมว่าเขาทำได้นะ แต่เขาไม่ทำ เขาดื้อ ดื้อมาก บอกอะไรไปก็ฟ้งนะแต่เหมือนฟังผ่านๆ ให้มันจบ

พอมันผ่านจุดปลดล็อกแล้วการทำงานร่วมกันเป็นยังไงบ้าง

กาด : ระหว่างทำงานเจมส์ไม่มีงอแงเลย เหมือนพอมันผ่านมาสักระยะ เราได้มีการพูดคุยกันในหลายๆ เรื่อง เขาก็เริ่มสบายใจที่ทำงานกับเรา

เจมส์ : เวลาเล่นกันพี่กาดจะมีความมั่นใจ สบายใจ จุดไหนที่เราไม่เข้าใจก็ถาม ตรงนี้ต้องสื่อสารอะไร เรื่องจังหวะการพูดที่จะเป็นปัญหาสำหรับผม จะพูดยังไงให้มันรู้สึก ตัวผมเองภาษาไทยบางทีคำไม่เข้าใจ เวลาสื่อสารออกไปอาจจะไปเปลี่ยนความหมาย พี่กาดก็จะสอนผมเยอะมาก

กาด :  เราเป็นคู่จิ้นแม่นกกับลูกนก แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ ก็เติบโตมาด้วยกัน เราเองมีประสบการณ์มาก็จริง แต่ไม่เคยมารับบทหลักเต็มๆ ขนาดนี้ ต้องโฮซีรีส์ทั้งเรื่อง ก็ใหม่และยากสำหรับผมเหมือนกัน ผมอาจจะผ่านงานมาบ้างพอจะรู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง แล้วก็มาถ่ายทอดให้น้องๆ ไปปรับใช้ หาวิธีใหม่ๆ มีการแชร์ทริคกัน

เรื่องนี้ฉากเลิฟซีนมีกระแสชื่นชมเยอะ

กาด : ผมว่าคนนี้เขาเลิฟซีนเก่ง เรื่องสายตาผมยอมเขานะ ผมว่าเขาเล่นสายตาได้ดี เลิฟซีนต้องเปิดใจเข้าหากันมากๆ ผมเองก็เอ็กซ์โทรเวิร์ตมากๆ  ก็เลยเจ๊าะแจ๊ะเขาไปเรื่อย มันเลยทำให้เราสนิทและเปิดใจให้กันได้เร็ว พอต้องมาเข้าฉากด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเลิฟซีนหรือดราม่าการทำงานมันเลยง่าย

เจมส์ : ผมเป็นคนอินโทรเวิร์ตครับ แต่พอเราสนิทแล้วไว้ใจใคร มันจะเปิดตัวเองให้เขา เหมือนเขาเป็นเซฟโซนให้เรา รู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับเขา พี่กาดทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ แต่ยอมรับว่าเล่นเลิฟซีนแรกๆ ก็มีเขินเหมือนกัน แต่ก็กล้าที่จะเล่นตามบทที่เราได้มา

ให้คะแนนตัวเองสำหรับการเล่นซีรีส์เรื่องนี้

เจมส์ : ถ้าเอาจากตอนแรกที่เราเล่นผมให้สัก 6.5 แล้วกัน รู้สึกว่าถ้าได้เล่นเรื่องต่อๆ ไป เริ่มจับจุดได้ล่ะ ซีนแบบนี้เราต้องทำยังไง หรือแสดงยังไง ท่าทางไหนที่แสดงแล้วมันโอเค ภาพมันสวย สายตาต่างๆ เราอาจจะแสดงได้มากกว่านี้ แต่ที่ให้ 6.5 สำหรับผมคือให้เยอะแล้วนะ แต่ตอนแรกไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ดีขนาดนี้ ทำให้บทเอรีสมันสมบูรณ์ในแบบของเรา ในแบบที่นักเขียนและผู้กำกับอยากได้ ถ้าเทียบจากวันแรกที่ผมมาผมติดลบเลยนะ วันนี้ก็ถือว่าผมมาได้เยอะ

กาด : ส่วนตัวผมเองให้สิบกับทุกคนเลย ด้วยความที่สุดคนก็ใหม่ด้วย ผมรู้สึกว่าทุกคนทำเต็มที่แล้ว แล้วตัวละครที่เราแสดงไปก็ออกมาได้เต็มที่ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้ว ถ้ามีผลงานเรื่องต่อๆ ไป ผมค่อยเพิ่มคะแนนให้ไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน

เข้ามาเป็นนักแสดงเต็มตัวตั้งรับกับเสียงวิจารณ์ยังไง

เจมส์ : ผมเข้าไปดูนะพวกคอนเมนต์ต่างๆ ตอนที่ซีรีส์ออนคอมเมนต์ต่างๆ ก็เข้ามาแบบรัวๆ เลย ทั้งแฟนๆ คนไทยทั้งอินเตอร์แฟน ดีใจที่สุดคนอิงตามกับเนื้อเรื่องของเรา มันเป็นกำลังใจที่ทำให้เราอยากผลิตผลการต่อในฐานะนักแสดงเพื่อให้ทุกคนได้รับชม ส่วนคำติก็มีเราก็เอามาปรับปรุงตัวเอง เวลาเจอคอนเมนต์ไม่ดีผมไม่นอยซ์นะ แต่ผมอยากจะพิสูจน์ให้เขาเป็นมากกว่านายคิดผิด ผมเป็นนักกีฬาครับไม่ชอบแพ้เหมือนกัน

กาด : ผมชอบอ่านคอมเมนต์ที่เขาติชมนะ คำติชมที่ให้เหตุผลด้วย เพราะมันเก็บไปพัฒนาได้ ผมชอบอยู่แล้วเวลาที่มีคนมาว่า มันทำให้เราพัฒนาขึ้น แต่ถ้ามาแบบด่าเสียมาเลยมันก็อาจจะรู้สึกนอยซ์หน่อย อาจจะรับมือยาก แต่ตอนนี้ยังไม่มีนะครับคอนเมนต์แย่ๆ แบบนั้น

แพลนต่อไปขอคู่เรา

กาด : เดี๋ยวจะมีแฟนมีตที่ต่างประเทศครับ น่าจะเริ่มปีหน้า มีหลายๆ ประเทศ แต่เดี๋ยวให้ทางค่ายประกาศอีกทีดีกว่า ส่วนซีรีส์เรื่องต่อไปสำหรับคู่เราก็อยากให้รอติดตามกันครับ

เจมส์ : อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้คู่เราด้วยนะครับ ครับ