'ดิเรกฤทธิ์' คาด ส.ว.งดออกเสียง เลื่อนโหวตนายกฯ รอศาลรธน.วินิจฉัยพิธาก่อน

"ดิเรกฤทธิ์" เล็งหารือขอเลื่อนวาระเลือกนายกฯ13 ก.ค. แต่ถ้าไม่เลื่อน คาดส.ว.ส่วนใหญ่ใช้สิทธิ์งดออกเสียง มองเป็นเรื่องดีส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความก่อนโหวตนายกทำให้กระจ่างชัด ห่วงส.ส.-ส.ว.เลือกไปขัดรัฐธรรมนูญ

10 ก.ค.2566 - นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. ย้ำจุดยืนเดิมในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีภายใต้ 3 เงื่อนไข คือต้องเป็นผู้ถูกเสนอจากเสียงข้างมาก มีคุณสมบัติไม่มีลักษณะต้องห้ามและไม่ทำให้ประเทศเกิดความขัดแย้ง ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ส่งศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบสถานภาพของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ว่าสมาชิกรัฐสภามีหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรี ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ แต่ปัญหาคือในกรณีของนายพิธา มีคุณสมบัติ ณ วันที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งองค์กรที่จะวินิจฉัยคือศาลรัฐธรรมนูญ โดยที่ผ่านมามีผู้ไปยื่นร้องเรียนต่อกกต. จึงทำหน้าที่เป็นผู้กลั่นกรองเบื้องต้น คล้ายกับพนักงานสอบสวนในคดีอาญา ดังนั้นเมื่อกกต.รับเรื่องไว้แล้วต้องตรวจสอบหลักฐานว่าครบถ้วนหรือไม่ จากนี้ต้องรีบส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนมองว่า เป็นเรื่องของการให้ความเป็นธรรม นายพิธา จะถูกหรือผิดจะมีคุณสมบัติครบถ้วนไม่มีลักษณะต้องห้ามหรือไม่ ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ให้ชัดโดยเร็ว เพราะมิเช่นนั้นเมื่อเปิดประชุมรัฐสภาวันที่ 13 ก.ค. คงจะมีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง

“มีการหยิบยกมาตรา272 ซึ่งมีการพูดถึงคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อ ไปโยงกับมาตราอื่นๆ นำไปสู่ข้อสงสัยว่าข้อยุติคืออะไร หากเลือกไปจะขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ เช่นเดียวกับ โครงสร้างทางคดีอาญาตามมาตรา151 ที่ทราบว่าขาดคุณสมบัติแต่ยังลงสมัครเลือกตั้ง ในทำนองเดียวกันหากสมาชิกรัฐสภารู้อยู่แล้วว่านายพิธา ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามแล้วยังเลือก อาจจะขัดกับรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งก็มีโทษทางอาญาด้วย เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ ต่อหลักการ พิจารณาในวันที่ 13 กรกฎาคม สรุปคือเมื่อคุณสมบัติของนายพิธา เป็นหัวใจสำคัญที่สมาชิกรัฐสภาจะต้องพิจารณา ประกอบการลงมติให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบ ฉะนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องแล้ว จะต้องมีคำสั่งที่เกี่ยวข้องโดยด่วนเช่น หากถูกร้องว่ามีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งทางเมืองจะต้องมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่อย่างไร

เพราะเมื่อดำรงตำแหน่งส.ส.ไม่ได้ จะมีผลย้อนหลังไปจนถึงวันเลือกตั้ง ดังนั้นวิธีการของศาลอาจจะต้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน เพราะในทางปฏิบัติหาก นายพิธาชนะ ก็จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ แต่ถ้าแพ้ เป็นรัฐมนตรีตำแหน่งส.ส. รวมถึงหากได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีของนายพิธา ก็จะเป็นโมฆะทั้งหมด ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ศาลควรสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน เหมือนกับกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

สำหรับการยื่นวินิจฉัยคุณสมบัติ ของนายพิธาส่งผลต่อการพิจารณาของส.ว. ที่ตั้งใจจะสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่าตนเคยได้ประกาศเจตนารมณ์ต่อสาธารณชนไว้ ว่าจะประคับประคองระบอบรัฐสภาไว้ คือส.ส.เสียงข้างมากมีหน้าที่ในการจัดตั้งรัฐบาล ส.ว.ก็ควรสนับสนุน รวมถึงผู้ที่ถูกเสนอจะต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม แต่เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้วมีการร้องกล่าวโทษ นายพิธา ตนจึงได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัด และให้ไปความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา เพราะถ้านายพิธาไม่มีคุณสมบัติตนก็เลือกไม่ได้ และถ้าเลือกไปก็สุ่มเสี่ยงจะเกิดปัญหาทำผิดรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงเงื่อนไขที่ 3 ว่านายพิธาจะขับเคลื่อนประเทศให้ เกิดความสงบเรียบร้อยได้หรือไม่

"เรื่องการโหวตไม่ใช่ส่งผลแค่การพิจารณาของส.ว.แต่ส่งผลต่อการพิจารณาของทั้งส.ส.และส.ว เพราะมาตรา 272 ห้ามเลือก คนที่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม หากไปเลือกเขา ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติ จะเป็นการทำผิดรัฐธรรมนูญเสียเอง และต้องรับโทษ ในเรื่องที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่ และเรื่องนี้เป็นไปตามกลไกของกฎหมายที่ต้องเคารพ องค์กรที่เกี่ยวข้องต้องทำให้กระจ่าง ไม่มีเงื่อนตายเงื่อนล็อค เพียงแค่ต้องมีความชัดเจน"

 

ส่วนความจำเป็นต้องเลื่อนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่าวาระการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องของรัฐสภา อยู่ที่คน750 คนที่จะมองว่าหากเลือกไปแล้วจะไม่มีปัญหาตามมาก็สามารถดำเนินการได้ แต่หากมีบางคนมองว่าสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิด ก็สามารถใช้มติของรัฐสภาในการเลื่อนวาระออกไปได้ ซึ่งจะต้องรอวันที่ 13 กรกฎาคม และส่วนตัวอาจจะยกมือขอหารือในที่ประชุมในประเด็นนี้ด้วย แต่หาก ในวันดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำสั่ง ให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ และไม่มีการเลื่อนวาระลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ส.ว.หลายคนอาจใช้วิธีงดออกเสียงเพื่อเป็นทางออกในการเลื่อนวาระดังกล่าว และกลับมาโหวต ในครั้งต่อไปได้

 

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จตุพร' ฟันธงเลือกตั้งวนลูปสับปลับ 'สงคราม-เงินเทา' ตัดสินชะตาบ้านเมือง

'จตุพร' ชี้เลือกตั้งแข่งกันสับปลับแล้วอ้างจำเป็นกอดคอตั้ง รบ. คาดพรรคใหญ่ปล่อยของซัดกันนัว ระบุ 3 ปัจจัยทั้งสงคราม เงินเทาสแกมเมอร์ และขุดดิจิทัลฟุตพริ้นท์ซ้ำเติมพูดแล้วลืมทำ ฟาดกันน่วม ชี้ ปชน.-พท.-ภท. กวาดเสียง แย่งชิงพรรคกลาง-เล็กตั้ง รบ.กลับกลอก

'กก.บห.ปชป.' รับรองจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาล 'กล้าธรรม' พร้อมมัด 'อภิสิทธิ์' เป็นหัวหน้ายาว 4 ปี

'กก.บห. ปชป.' รับรองจุดยืนพรรคไม่ร่วมรัฐบาล 'พรรคกล้าธรรม' พร้อมมัด 'อภิสิทธิ์' เป็นหัวหน้ายาว 4 ปี ไม่ว่าผลเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรก็ตาม จ่อเปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ ศุกร์นี้

'แม่ยกปชป.' ชื่นชม 'อภิสิทธิ์' นักการเมืองที่ดีต้องกล้าพูดชัดเจน ไม่ใช่มัวแต่กลัวจะไม่ได้เป็นรบ.

นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ ติ๊งต่าง เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับและแกนนำกลุ่ม แม่ยกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ·

'อดีต สว.' ปรบมือให้ 'นายกฯหนู' แนะลุยต่อยกเลิก MOU 43-44

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ประกาศระหว่างลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ

'วรชัย' ซัดเดือด ปชน. ไม่คิดถึงประเทศชาติ ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือหวังเป็นใหญ่

เดือด! ซัด ปชน.ไม่เคยพูดถึงปัญหาประเทศชาติและประชาชน ดีแต่พูดยืนหยัดฝ่ายประชาธิปไตย ตั้งข้อเรียกร้องยุบสภา เลือกตั้งใหม่จะได้คะแนนเสียงถล่มทลายเป็นรัฐบาลพรรคเดียว โหวต "อนุทิน" โดยไม่เข้าร่วมรัฐบาล หวังโชว์หล่อ เชื่อ ปชน. เกิดวิกฤติศรัทธาแน่นอน

6ก.ย.ทูลเกล้าฯอนุทิน 311สส.เลือกเป็น‘นายกฯ’ เพื่อไทยกัดฟันนั่งฝ่ายค้าน

ท่วมท้น! มติสภา 311 เสียง เห็นชอบ "อนุทิน ชาญวีรกูล" เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 "ชัยเกษม" แคนดิเดตเพื่อไทยได้ 152 คะแนน งดออกเสียง 27 คะแนน หลังสภาเดือดตั้งแต่เริ่ม