รามระอุ! ศาลฯนัดตรวจพยานหลักฐาน อธิการบดีม.ราม ฟ้อง กรรมการสภาม.ราม


5 พ.ย.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ส่งหมายนัดตรวจสอบพยานหลักฐาน คดีที่ หมายเลขดำที่ อท 7/2565 ที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมบูรณ์ สุขสำราญ กับพวกรวม 16 คน ในฐานะกรรมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นจำเลย พร้อมส่งสำเนาฟ้องตามที่ได้ถูกกล่าวหาให้จำเลยได้รับทราบ

โดยศาลได้มีคำสั่งนัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานโดยเจ้าพนักงานคดีในวันที่ 11 มกราคม 2566 เวลา10.00 น. และวันที่ 27 มกราคม 2566 เวลา 10.00 น. และนัดพร้อมเพื่อกำหนดแนวทางการไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.30 น. และนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 28 มีนาคม 2566 เวลา 09.30 น.

สำหรับการกระทำที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยทั้ง 16 คน กระทำความผิดอันเป็นมูลคดีนี้ กล่าวคือ

1.เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ในการประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 15/2564 จำเลยทั้งสิบหกในฐานะกรรมการสภามหาวิทยาลัย ร่วมกันมีมติถอดถอนโจทก์ออกจากตำแหน่งอธิการบดี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากจำเลยทั้งสิบหกมีอำนาจหน้าที่เพียงพิจารณาเสนอชื่อเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งและถอดถอนอธิการบดีเท่านั้นแต่จำเลยทั้งสิบหกกลับมีมติถอดถอนโจทก์โดยออกคำสั่งที่ 128/2564 จำเลยทั้งสิบหกกระทำการดังกล่าวโดยมีมูลเหตุจูงใจมาจากการที่โจทก์ใช้อำนาจตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยการสรรหานายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ.2541 ซึ่งเป็นอำนาจของอธิการบดีเพียงผู้เดียว เสนอชื่อบุคคลนอกกลุ่มของจำเลยให้ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย สร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มของจำเลย

และต่อมาในการประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงครั้งที่ 13/2564 จำเลยกับพวกเสนอขออนุมัติร่างข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยการสภามหาวิทยาลัย พ.ศ.2564 เพื่อขยายอำนาจให้กับสภามหาวิทยาลัยในการเสนอชื่อบุคคลให้เข้ารับคัดเลือกเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยซึ่งเป็นพรรคพวกของตนเอง และลิดรอนอำนาจของโจทก์ในการเสนอชื่อของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าว และจำเลยที่ 11 เสนอหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบการกระทำของโจทก์ เพื่อกลั่นแกล้งให้โจทก์พันจากตำแหน่ง

2.เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 โจทก์ได้รับคำสั่งที่ 131/2564 เรื่องเพิ่มเติมคำสั่งที่ 128/2564 โดยการออกคำสั่งที่131/2564 ไม่ชอบเนื่องจากเป็นการออกคำสั่งโดยมีได้มีการประชุมกันจริง เนื่องจากในการประชุมสภามหาวิทยาลัยครั้งที่ 15/2564 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ที่ประชุมมีมติให้มีการออกคำสั่งที่ 128/2564 เรื่อง ถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เท่านั้น

โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อฟ้องคดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางฟ้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 มาตรา 15 เห็นควรรับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้อง และสำเนาฟ้องให้จำเลยทั้งสิบหก พร้อมแนบหนังสือแจ้งสิทธิตามกฎหมายในการต่อสู้คดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้องต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เปรมศักดิ์' ยื่นกระทู้ถามเรื่องมาตรฐานรับรองวุฒิการศึกษาต่างประเทศ!

'สว.เปรมศักดิ์' ฉะ 'กพ.-อว. ' ไร้มาตรฐานรับรองวุฒิการศึกษาต่างประเทศ ยื่นกระทู้ถามนายกฯ ยกกรณี 'สืบพงษ์ ปราบใหญ่' อดีตอธิการบดีรามคำแหง ห่วงอำนาจมืดใช้ระบบตรวจสอบวุฒิฯ เป็นเครื่องมือทางการเมือง

‘ฮุนเซน’ หยามม.รามฯ เพิกถอนปริญญาไปก็ไร้ค่า-โยนทิ้งชักโครกตั้งแต่ปี 2551

สมเด็จฮุนเซน โพสต์ข้อความหลังมหาวิทยาลัยรามคำแหงมีมติถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ หยามไม่ต้องถอน เพราะโยนทิ้งชักโครกตั้งแต่ปี 2551 พร้อมประกาศไม่เคยภาคภูมิใจในปริญญาจากไทย

รามคำแหง เพิกถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ‘ฮุนเซน’ มีพฤติกรรมเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐไทย

สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงมีมติเอกฉันท์ เพิกถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ของสมเด็จฮุนเซน หลังพบพฤติกรรมสวนทางเกียรติคุณ สนับสนุนความรุนแรง-รุกล้ำอธิปไตยไทย ขัดเจตนารมณ์การมอบปริญญากิตติมศักดิ์

รามคำแหงจัดแข่งสุนทรพจน์วันรพี ปั้นนักกฎหมายรุ่นใหม่เข้าใจวิชาชีพ

สมาคมนิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง จัดงานสัปดาห์วันรพี ประจำปี พ.ศ. 2568 แข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ สร้างนักกฎหมายรุ่นใหม่เข้าใจวิชาชีพกฎหมาย

ศิษย์เก่ารามฯจี้ 'อธิการบดี' เพิกถอนดุษฎีบัณฑิต 'ฮุน เซน' นัดประชุมสภามร. ลบชื่อ 18 ส.ค.นี้

นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ยื่นหนังสือถึง ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญรัตน์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 'วีระพล' นั่งนายกสภารามคำแหง 'ไชยันต์' ติดโผกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศแต่งตั้ง “วีระพล ตั้งสุวรรณ” ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงต่ออีกวาระ ขณะเดียวกันมีชื่อ “ไชยันต์ ไชยพร” นักวิชาการชื่อดัง ติดหนึ่งใน 7 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่ มีผลตั้งแต่ 20 มีนาคม 2568