โฆษกรัฐบาล เผยการขนส่งสินค้าท่าเรือกลับมาคึกคักยอดการส่งออกไทย 9 เดือนแรกขยายตัว 15.5 % เป็นไปตามข้อสั่งการนายกฯ
18 พ.ย.2564 - นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การท่าเรือแห่งประเทศไทยได้เผยแพร่ผลการดำเนินงานของในรอบปีงบประมาณ 2564 (ตุลาคม 2563 – กันยายน 2564) มีเรือเทียบท่าที่ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง รวม 13,840 เที่ยว เพิ่มขึ้น 1.9% สินค้าผ่านท่า 111.630 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6.9% และตู้สินค้าผ่านท่า 9.857 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 8.6% รวมรายได้ 15,613 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,023 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.99% ซึ่งการเติบโตของตู้สินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น มาจากการที่ไทยสามารถส่งออกได้มากขึ้นต่อเนื่อง อีกส่วนหนึ่งมาจากข้อสั่งการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่สั่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนตู้สินค้าในภาคธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเลทันที ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านโดยรัฐบาลมีการมาตรการต่างๆ อาทิ กรมเจ้าท่าออกประกาศให้เรือที่มีความยาวมากกว่า 300 เมตร แต่ไม่เกิน 400 เมตรเข้าเทียบท่า ปรับลดภาระตู้สินค้าเปล่าขาเข้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ ชดเชยค่ายกตู้ขนส่งสินค้าให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชนที่ท่าเรือแหลมฉบับ เป็นต้น ช่วยบรรเทาการขาดแคลนตู้สินค้า สนับสนุนให้ค่าระวางเรือขนส่งจากไทยลดลง ส่งผลให้บริการสินค้าและตู้สินค้าผ่านท่าสูงขึ้นด้วย
นายธนกร กล่าวว่า ที้งนี้ ผลการดำเนินงาน เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกับปีที่ผ่านมา ดังนี้ 1.ท่าเรือกรุงเทพ เรือเทียบท่า 4,170 เที่ยว เพิ่มขึ้น 9.1% ตู้สินค้าผ่านท่า 1.438 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 0.2%
2.ท่าเรือแหลมฉบัง เรือเทียบท่า ลดลง 1.0% ตู้สินค้าผ่านท่า 8.419 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 10.2%
3.ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน เรือเทียบท่า 2,231 เที่ยว ลดลง 10.5% ตู้สินค้าผ่านท่า 5,064 ที.อี.ยู. ลดลง 32.3%
4.ท่าเรือเชียงของ เรือเทียบท่า ลดลง 96.6% สินค้าผ่านท่า ลดลง 98.9%
5.ท่าเรือระนอง เรือเทียบท่า เพิ่มขึ้น 15.9% ตู้สินค้าผ่านท่า เพิ่มขึ้น 53.0%
โดยในปีงบประมาณ 2565 นี้ ยังประมาณการตู้สินค้าผ่านท่าที่ท่าเรือกรุงเทพ 1.43 ล้าน ที.อี.ยู. และท่าเรือแหลมฉบัง 8.243 ล้าน ที.อี.ยู. ด้วย
นายกรัฐมนตรีผลักดันการส่งออกไทยให้เป็นเครื่องจักรสำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเร่งแก้ไขปัญหาภาคส่งออกทั้งระบบ สั่งแก้ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคการส่งออกด้วยมาตรสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) ส่งเสริมภาคการผลิตของไทยกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น ประกอบกับอุปสงค์จากตลาดต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น สนับสนุนให้การส่งออกของไทย 9 เดือนแรกของปี 2564 มีมูลค่า 199,997.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 15.5% ล่าสุด คณะรัฐมนตรียังมีมติ (9 พ.ย. 2564) รับทราบผลการคัดเลือกผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F มีมูลค่าการลงทุนรวม 79,200 ล้านบาท โดยคาดว่า ท่าเรือ F1 จะเปิดบริการได้ภายในปี 2568 รองรับสินค้าได้เพิ่มขึ้น 2 ล้านตู้ต่อปี เตรียมความพร้อมต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการส่งออกของประเทศด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้ประกอบการชายแดนตราด ข้องใจ 'ท่าเรือแหลมฉบัง' ส่งสินค้าไปกัมพูชาได้
ครบ 4 เดือน ปิดด่านชายแดนตราด หาดเล็กเป็นเมืองร้างเงียบสงัด ร้านค้า ห้องพัก ยังปิดตัว ชาวบ้านปรับตัว หาปลาเลี้ยงชีพ แหล่งข่าวแฉ! แหลมฉบัง ส่งสินค้าไปกัมพูชา แต่ตราดจันท์ห้าม
สโมสรการท่าเรือ จับมือชุดแข่ง'Mizuno' ลงนามสัญญายาว3ปี
FPS เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยพร้อมประสบการณ์ระดับโลก พร้อมดึง Mizuno กลับคืนถิ่นสิงห์ท่าเรือ หลังห่างหายไปนานกว่า 10 ปี
'การท่าเรือ'ลงนามต่อMOU 'อวิสป้า ฟูกูโอกะ'อีก2ปี วางแผนเตะกระชับมิตร
"สิงห์เจ้าท่า"การท่าเรือ เอฟ.ซี. ตอกย้ำความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับ อวิสป้า ฟูกูโอกะ สโมสรจากศึกเจลีก 1 ญี่ปุน หลังลงนามเป็นพันธมิตรร่วมกันต่อเนื่องอีก 2 ปีอย่างเป็นทางการ ภายใต้กรอบความร่วมมือ ทั้งในส่วนของทีมชุดใหญ่ และ ทีมชุดเยาวชน เหมือนที่ผ่านมา
อดีต ผบ.สงครามพิเศษ ร่วมคณะ 'ทวี' ลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตรวจเยี่ยมสำนักงานศุลกากร
สุนัย ประภูชะเนย์ ร่วมคณะทวี สอดส่อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสำนักงานศุลกากร ท่าเรือแหลมฉบัง มุ่งควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดในอาเซียน


