
18 เม.ย.2566 - ผศ.ดร.ธร ปีติดล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความเหลื่อมล้ำและนโยบายสังคม คณะเศรษฐศาสตร์ (CRISP) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า นโยบายที่พรรคการเมืองใช้หาเสียงอยู่ในขณะนี้ ส่วนใหญ่เน้นด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤตโควิด-19 เป็นเหตุให้พรรคการเมืองต่างพยายามเสนอนโยบายเรื่องปากท้องซึ่งประชาชนจับต้องได้ที่สุด
สำหรับนโยบายด้านสวัสดิการ ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา พบว่าพรรคการเมืองได้เน้นเรื่องการสร้างระบบสวัสดิการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าพัฒนาการของระบบสวัสดิการไทยจะชะลอตัวลงในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา แต่ในการเลือกตั้งปี 2566 นี้ พบว่าพรรคการเมืองได้กลับมาให้ความสำคัญกับการสร้างระบบสวัสดิการอีกครั้ง เนื่องจากยังมีความต้องการจากประชาชนในด้านนี้อยู่มาก
ผศ.ดร.ธร กล่าวว่า นโยบายที่เกี่ยวข้องกับด้านสวัสดิการที่พรรคการเมืองใช้หาเสียงอยู่ในขณะนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การสร้างระบบบำนาญสำหรับผู้สูงอายุ และยังมีนโยบายอื่นๆ อีก เช่น เงินช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย ตลอดจนนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเพื่อยกระดับรายได้ของคนทั่วประเทศ ซึ่งโดยส่วนตัวอยากเสนอว่านโยบายเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่ต้องทำให้ครอบคลุมเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับมิติเชิงคุณภาพของนโยบาย และควรบริหารจัดการอย่างเป็นระบบด้วย
ผศ.ดร.ธร กล่าวอีกว่า การใช้งบประมาณเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนถือเป็นเรื่องปกติของการจัดทำนโยบาย แต่ประเด็นที่ต้องตั้งคำถามคือสุดท้ายจะใช้ได้มากเพียงใด แนวทางการจัดสรรเงินให้นโยบายต่าง ๆ เหมาะสมหรือไม่ และถึงแม้ว่านโยบายของแต่ละพรรคการเมืองจะมีการแข่งขันกันโดยมีจำนวนเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่คงไม่สามารถเหมารวมว่าทุกนโยบายเป็น ‘ประชานิยม’ ได้ โดยเฉพาะกับนโยบายที่เน้นการพัฒนาระบบสวัสดิการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
“นโยบายที่ช่วยขยายระบบสวัสดิการของรัฐเป็นสิ่งที่ดี เพราะหากเทียบกับประเทศอื่นๆ ในระดับสากลแล้ว ประเทศไทยยังลงทุนเรื่องสวัสดิการค่อนข้างน้อย และยังมีนโยบายที่สามารถทำได้อีกหลากหลายรูปแบบ ที่สำคัญคือปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาสังคมผู้สูงอายุ มีสัดส่วนของผู้สูงอายุที่ยากจนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก จึงจำเป็นต้องมีสวัสดิการมารองรับ” ผศ.ดร.ธร กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายที่อยากให้พรรคการเมืองควรดำเนินการ เช่น นโยบายเรื่องการจำกัดอำนาจของทุนผูกขาด รวมถึงการทำให้ค่าแรงเหมาะสมทันตามค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น การสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา การเพิ่มการดูแลเด็กเล็กที่ขาดโอกาส ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความเหลื่อมล้ำและนโยบายสังคม มธ. กล่าวอีกว่า พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนสูงที่สุด ก็ยังต้องเผชิญกับด่านต่อไปในการทำนโยบายให้ออกมาได้จริง ได้แก่ 1. งบประมาณ ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับการทำได้ครบทุกนโยบายตามที่มีการหาเสียงไว้ 2. ระบบราชการและการเมือง โดยเฉพาะระบบเลือกตั้ง จากการที่มีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 250 คน มีสิทธิในการเลือกนายกรัฐมนตรี จนทำให้เกิดความไม่แน่นอน เพราะพรรคที่ชนะการเลือกตั้งก็อาจจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
“อันดับแรกคือเราต้องช่วยกันกดดัน สว. ให้มากที่สุด ถ้าพรรคการเมืองที่ประชาชนเลือกมาได้อันดับ 1 ชัดเจนแล้วต้องการจัดตั้งรัฐบาล สว.ไม่ควรจะมีบทบาทไปสนับสนุนคนจากพรรคการเมืองอื่นเข้ามาแทน เรื่องนี้ผมว่าเป็นหลักการสำคัญ แล้วยังมีปัญหาที่ควรตระหนักอีกว่า กรณีที่หากมีการเลือกนายกฯ ที่เป็นเสียงข้างน้อยขึ้นมา ก็จะมีปัญหาทางเสถียรภาพของรัฐบาลมากๆ และอาจจะกลายเป็นวิกฤตการเมืองที่ต้องไปแก้กันนอกระบบอีก ส่งผลให้ประเทศเกิดปัญหาทางการเมืองไม่จบสิ้น” ผศ.ดร.ธร กล่าว
ผศ.ดร.ธร ยังกล่าวด้วยว่า หนทางของการปรับปรุงทิศทางนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในประเทศหลังจากนี้ ในกรณีที่ได้รัฐบาลใหม่ อาจต้องเริ่มจากการรื้อมรดกบางประการจากรัฐบาลเก่า โดยเฉพาะข้อผูกมัดในหลายรูปแบบที่รัฐบาลเดิมวางไว้ มิฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ถึงได้รัฐบาลใหม่มาก็อาจยังเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้มากในระยะสั้น เพราะยังมีกลไกที่ถูกวางเอาไว้ที่ไม่เอื้อให้พรรครัฐบาลใหม่สามารถบริหารจัดการทุกอย่างได้ง่าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เพื่อไทยแปดริ้ว ดัน ‘โจ๊ะ’ พันธุ์พงศ์ ชิง สส.เขต 2
สนามเลือกตั้ง เพื่อไทยแปดริ้ว “เฮียเน้า” สมชัย อัศวชัยโสภณ ดันลูกชาย “โจ๊ะ” พันธุ์พงศ์ ชิงพื้นที่ เขต 2 จ.ฉะเชิงเทรา อ้อนคนในพื้นที่ขอชนะใจด้วยการทำงาน เชื่อได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ไม่ประมาทคู่แข่ง
พปชร.ดัน ‘ตรีนุช’ แคนดิเดตนายกฯอันดับ 1 หลัง ‘ลุงป้อม’ ถอนตัว
พปชร.ขยับตัวก่อนเลือกตั้ง ดัน “ตรีนุช เทียนทอง” ขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯอันดับ 1 หลัง “พล.อ.ประวิตร” ขอถอนตัวเหตุสุขภาพ พร้อมวาง “ธีระชัย” อันดับ 2 เตรียมส่งผู้สมัคร สส.เขตกว่า 200 เขต ยืนยันหัวหน้าพรรคยังไม่วางมือ
‘แรมโบ้’ ผวา ‘ลุงป้อม’ วางมือ ลา พปชร. ซบโอกาสใหม่ทันที
"แรมโบ้" ผวาข่าว"ลุงป้อม" วางมือ ยื่นขอลาออกเช้านี้ ก่อนวิ่งซบ "โอกาสใหม่" ทันที ยอมรับกังวลกลัวถูกทิ้งกลางทาง หลัง"พล.อ.ประวิตร"ไม่เป็นแม่ทัพนำศึกเลือกตั้ง
นักวิชาการ มธ. วิเคราะห์กระแสเลือกตั้ง ชี้ผลโพล ‘คนกรุงเกือบครึ่งยังลังเล’ พบได้ไม่บ่อย
นักวิชาการธรรมศาสตร์ ระบุพบไม่บ่อย กรณีโพลสะท้อนกระแสการเมือง “คนกรุง” เกือบครึ่งยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใคร-พรรคใด เชื่อจุดตัดสำคัญอยู่
ครม. เห็นชอบงบเลือกตั้ง-ทำประชามติ 8,978 ล้าน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป
‘กล้าธรรม’ คึกคัก เปิดเวที Primary Vote เคาะทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ ครบ 8 เขต
พรรคกล้าธรรมจัดประชุม Primary Vote จังหวัดสมุทรปราการ สมาชิกพรรคลงมติเห็นชอบว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 8 เขต เตรียมลุยศึกเลือกตั้ง 8 กุมภาพันธ์ 2569

