ปลื้ม 'ยูเอ็น' ยกไทยครองอันดับ 1 ในอาเซียน ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน

นายกฯยินดีองค์การสหประชาชาติจัดอันดับความยั่งยืนไทยดีขึ้นและเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ตอกย้ำผลสัมฤทธิ์กำหนดเป็นเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาประเทศทุกระดับ

25 มิ.ย. 2566 – น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบรายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี 2566 หรือ Sustainable Development Report 2023 ขององค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น และมีความยินดีที่การพัฒนาของประเทศไทยดีขึ้น โดย SDG Index ของไทยขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 43 จากประเทศที่ได้รับการจัดอันดับทั้งหมด 166 ประเทศ ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากอันดับที่ 44 ในปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผลคะแนน SDG Index ที่ 74.7 คะแนน ในปี 2566 ทำให้ไทยมีคะแนนการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ซึ่งนับเป็นการตอกย้ำผลสัมฤทธิ์ที่รัฐบาลได้พยายามขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม โดยกำหนดให้ความยั่งยืนเป็นเป้าหมายการพัฒนาประเทศ และเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และแผนการพัฒนาประเทศในทุกระดับ เช่น แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทั้งฉบับที่ 12 และ ฉบับที่ 13

“พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ชีวิตความเป็นอยู่คุณภาพชีวิตของประชาชน และทั้งหมดถูกทำให้ชัดเจนขึ้นเมื่อถูกบรรจุให้อยู่ในยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาประเทศระดับต่างๆ และแนวทางการพัฒนาของไทยก็เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เห็นผลได้จากการจัดอันดับ SDG Index ของยูเอ็นในปีล่าสุดนี้ด้วย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ยูเอ็น ได้จัดทำ Sustainable Development Report มาตั้งแต่ปี 2559 เพื่อเป็นการรายงานประเมินความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(SDGs)ของประเทศสมาชิกยูเอ็นทั้ง 193 ประเทศ ซึ่งในแต่ละปีจะมีการประเมินการพัฒนาตาม SDGs ทั้งหมด 17 ด้าน และประมวลผลเป็น SDG Index ของแต่ละประเทศ ประกอบด้วย 1.การขจัดความยากจน 2.การขจัดความหิวโหย 3.การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี 4.การศึกษาที่มีคุณภาพ 5.ความเท่าเทียมทางเพศ 6.การเข้าถึงน้ำสะอาดและสุขาภิบาลที่ดี 7.การมีพลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้ 8.การมีงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

9.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรมและอุตสาหกรรม 10.การลดความเหลื่อมล้ำ 11.การพัฒนาเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน 12.การผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน 13.การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ 14.การอนุรักษ์ทรัพยากรทะเล 15.การรักษาระบบนิเวศบนบก 16.การมีสังคมสงบสุข ยุติธรรมและมีสถาบันที่เข้มแข็ง และ 17.ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไทยเบฟ'หนุนช้างศึกชิงเจ้าอาเซียน เปิด'อะคาเดมี่'เป็นสนามซ้อม ตั้งเป้าคว้าทองซีเกมส์2025

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ “ไทยเบฟ” ผู้สนับสนุนหลักวงการฟุตบอลไทยมากว่า 25 ปี มุ่งมั่นสร้างรากฐานความยั่งยืนของกีฬาในทุกมิติ ตั้งแต่ระดับเยาวชน ผ่านโครงการต่างๆ พร้อมถ่ายทอดแนวคิด Sportsmanship เพราะ มากกว่ากีฬา คือ น้ำใจนักกีฬา พร้อมส่งทัพช้างศึกฟุตบอลทีมชาติไทยชุด U-23 และสนับสนุนสนามซ้อม “ไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี่” ตั้งเป้าทวงบัลลังก์แชมป์ในการแข่งขันมหกรรมกีฬา “ซีเกมส์” ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดย “ไทยเบฟ” ร่วมผลักดันและพัฒนาวงการกีฬาของไทยบนเวทีนานาชาติ ในฐานะ Official Bronze Sponsor

'นักวิชาการ' ชี้นายกฯป้องอธิปไตย ไม่ทำไทยเสี่ยง 'รัฐบริวาร'

รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไทยไม่ใช่ “รัฐบริวาร”!

อดีตบิ๊กศรภ. ชี้เหตุผลสำคัญไม่ต้องกลัว 'สหรัฐ' ทิ้ง 'ไทย' แนะรัฐบาลมีจุดยืนมั่นคง

สำหรับพี่ไทยนั้น แม้จะไม่ยอมให้สหรัฐ เข้ามาตั้งฐานทัพ แต่สหรัฐ ก็หวงแหนประเทศไทยมาก เพราะภูมิศาสตร์ที่ตั้งของไทย สหรัฐยังใช้ประโยชน์ได้อีกหลายเรื่อง

นั่นไง! ‘รัศม์‘ ชี้เปรี้ยง ‘อนุทิน’ พูดท้าทายสหรัฐก่อน ทำให้เกิดผลเสียต่อประเทศ

นายรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างประเทศในรัฐบาลแพทองธาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า