14 มี.ค.2567 - ที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.ขอนแก่น พญ.จิรา ศักดิ์ศศิธร รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้จะมีโรคระบาดในเนื้อวัวหรือโรคแอนแทรกซ์ ซึ่งประเทศไทยได้รับการยืนยันว่าปลอดเชื้อแอนแทรกซ์ และปัจจุบันไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อหรือมีผู้ติดเชื้อแอนแทรกซ์แต่อย่างใด ซึ่งโรคแอนแทรกซ์เป็นโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน เกิดจากเชื้อแบคที่เรีย บาซิลลัส แอนทราชิส (Bacillus anthracis) สามารถเกิดโรคได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด โดยเฉพาะในสัตว์เคี้ยวเอื้องที่กินหญ้าเป็นอาหาร การติดต่อในสัตว์สามารถติดต่อจากการกิน และเข้าทางบาดแผลการติดต่อในคนสามารถติดต่อจากการสัมผัสสัตว์ที่มีเชื้อทางผิวหนัง จากการรับประทานผลิตภัณฑ์สัตว์ที่ติดเชื้อ และทางการหายใจเอาสปอร์ของเชื้อเข้าไป
"เชื้อแอนแทรกซ์ในประเทศไทยนั้นปัจจุบันยังไม่มีการแพร่ระบาดหรือมีการติดเชื้อในประเทศไทยแต่อย่างใด แต่จะมีในประเทศเพื่อนบ้าน คือที่ แขวงจำปาสัก สปป.ลาว โดยเชื้อแอนแทรกซ์นั้นจะสามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ 3 ช่องทาง ทั้งทางการสัมผัส จากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร และจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยการติดเชื้อทางการสัมผัสนั้น จะมีตุ่มแดงที่ผิวหนัง กลายเป็นถุงน้ำ ก่อนจะบวมน้ำแตกออกเป็นแผลเนื้อตาย เหมือนรอยบุหรี่จี้ หากไม่รักษาเชื้อก็จะเข้าสู่กระแสเลือด และทำให้ถึงตายได้ ซึ่งเป็นช่องทางการติดต่อของโรคที่พบว่าเกิดขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร เกิดจากการที่เรากินเนื้อวัวดิบที่มีเชื้อ ก็จะมีแผลที่ลำคอกระเพาะอาหารลำไส้ และจะมีอาการปวดท้อง อาเจียน ถ่ายเป็นเลือด และการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากแต่ก็มีอัตราการเสียชีวิตที่สูงที่สุดหากติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งผู้ที่ติดเชื้อติดเชื้อจะมีอาการหายใจติดขัด แน่นหน้าอก ตัวเขียว หน้าเขียว และ เสียชีวิตไม่เกิน 5 วัน
พญ.จิรา กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการป้องกัน การติดเชื้อแอนแทรกซ์ที่ดีที่สุด คือไม่ทานเนื้อสัตว์ดิบทุกชนิด เนื่องจากไม่ใช่เฉพาะเชื้อแอนแทรกซ์ที่มากับเนื้อวัว แต่ยังมีโรคหูดับที่มากับหมู พยาธิชนิดต่างๆ ที่จะมากับเนื้อสัตว์ดิบเรานี้และเข้ามาฝังไข่ชอนไชตามร่างกาย เมื่อพยาธิขึ้นสมองก็จะชอนไชเนื้อหายไปจนกลายเป็น อัมพฤกษ์อัมพาต ซึ่งก็มีปรากฏให้เห็นในข่าว และโรคอื่นๆจากสัตว์ ทั้ง เนื้อวัว หมู ไก่ และสัตว์ทุกชนิดที่สามารถกินได้ ซึ่งในเรื่องนี้ก็อยากให้ทุกๆคนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการชอบรับประทานเมนูอาหารดิบ หรือเมนูครึ่งสุกครึ่งดิบ ให้รับประทานอาหารที่สุกร้อยเปอร์เซ็นต์ เพื่อไม่ให้ร่างกายติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆที่อยู่ในเนื้อสัตว์ดิบ
"และจากข้อมูลพบว่า เคยมีคนไทยเคยติดเชื้อแอนแทรกซ์ครั้งแรกในรอบ 17 ปี เมื่อช่วงเดือน พ.ย.60 และหลังจากนั้นผ่านมา 7 ปี ถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อแอนแทรกซ์ในประเทศไทยอีกเลย โดยในครั้งนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบทราบว่า เชื้อเกิดขึ้นหลังจากที่ชาวบ้านในพื้นที่ ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก ลักลอบชำแหละแพะที่นำข้ามฝั่งมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนเริ่มมีอาการป่วยและตรวจสอบพบติดเชื้อแอนแทรกซ์จริง 2 ราย โดยเป็นการนำสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านมาชำแหละ และแบ่งกันรับประทาน โดยเชื้อแอนแทรกซ์ส่วนใหญ่มักพบในแพะ แกะ วัว และควาย ซึ่งหากพบสัตว์เหล่านี้ตายผิดธรรมชาติให้รีบแจ้งปศุสัตว์ ส่วนวิธีทำลายที่ดีที่สุด คือการเผา ไม่ควรฝังลงพื้นดิน เพราะเชื้อสามารถอยู่ได้เป็นสิบๆ ปี และไม่ควรนำเนื้อสัตว์เหล่านี้มารับประทานเด็ดขาด แม้จะทำให้สุกก็ตาม"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ดิเรกฤทธิ์' ถามพรรคด่าหมอไร้มนุษยธรรม ยินดีจ่ายค่ารักษาให้ชาวเขมรหรือไม่
พรรคที่ด่าหมอไร้มนุษยธรรม ให้รักษาชาวกัมพูชาและเมียนมา ที่ไม่ใช้สถานพยาบาลประเทศตัวเอง พรรคนี้ยินดีใช้เงินพรรคมาจ่ายค่ารักษาให้หรือไม่
แจงทักษิณป่วย10โรค! จ่อไต่สวน2หมอรพ.ตร.
ศาลไต่สวนพยานกลุ่มแพทย์-พยาบาล 5 ปาก พบ "ทักษิณ" ใส่ชุดนักโทษ เป็น 10 โรค หมอราชทัณฑ์ยันเอง หัวใจปกติ แค่เหนื่อยเพราะขึ้นบันได อนุญาตส่งตัวออกจากเรือนจำเพราะพยาบาลบอก
ศาลฎีกาไต่สวน 5 หมอ 'คดีชั้น 14' ทนายหอบประวัติรักษา 'ทักษิณ' ฉบับสมบูรณ์
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
แพทยสภายืนมติลงโทษ 3 หมอ ไม่หวั่นอิทธิพลการเมือง-ยันรักษาจรรยาบรรณ
เปิดถ้อยแถลงชัด ศ.นพ.ประสิทธิ์ ย้ำกรรมการยึดวิชาชีพ ไม่สนว่าใครคือผู้ป่วย สวนแรงกดดัน-ชี้หมอทุกคนรู้หน้าที่ ยึดหลักจริยธรรมไม่ใช่ผลประโยชน์ ลั่นไม่ใช่แค่รักษาคน แต่ต้องรักษามาตรฐาน
‘ศิริราช90’ กว่า 65 คน ลงชื่อส่งพลังใจ ‘กรรมการแพทยสภา’ ทำหน้าที่พิทักษ์ศักดิ์ศรีเกียรติยศวิชาชีพ
พวกเราขอให้กำลังใจ ความมั่นใจและศรัทธาต่อแพทยสภา ในการยืนยันมติเดิมของแพทยสภาในวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 โดยยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่หนึ่ง ประโยชน์ส่วนตนเป็นเรื่องรอง
'โฆษกสธ.' แจงยิบเหตุ 'สมศักดิ์' วีโตแพทยสภา ฟาดกลับกลุ่มเกลียด 'ทักษิณ'
'โฆษกสธ.' ป้อง 'สมศักดิ์' ใช้สิทธิตามกฎหมายวีโตมติแพทยสภาปมชั้น 14 โต้เรียงแถวพวกเกลียดอาฆาตแค้น 'ทักษิณ' ทั้งฝ่ายค้าน สว. นักวิชาการในคราบนักเคลื่อนไหว

