ไทย-ซาอุดีอาระเบีย กระชับความสัมพันธ์ ด้านกฎหมายและงานยุติธรรม

8 มิ.ย.2567 - นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ไทยและซาอุดีอาระเบียฟื้นฟูความสัมพันธ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศได้ผลักดันความร่วมมือด้านต่าง ๆ จนมีผลคืบหน้าเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ดียังมีความร่วมมือที่มีศักยภาพอีกมาก ซึ่งความร่วมมือด้านกฎหมายและยุติธรรมเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายมุ่งเสริมสร้าง โดยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างกันผ่านเยือน การประชุม การสัมมนา และการฝึกอบรมหลักสูตรด้านงานกฎหมายและการยุติธรรม

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านกฎหมายและยุติธรรมระหว่างกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย โดยมีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในมิติความร่วมมือด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อาทิ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ การจัดการประชุม และการฝึกอบรมทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับกิจการด้านกระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย เป็นต้น

นอกจากนี้ ร่างบันทึกความเข้าใจฯ ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ความเข้าใจ และความร่วมมือระหว่างคู่ภาคีผ่านการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญ และการแบ่งปันข้อมูลในสาขาที่เกี่ยวข้องกับกิจการด้านกระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย โดยจะร่วมมือกันในสาขาต่าง ๆ เช่น สาขากฎหมาย กระบวนการยุติธรรม วิธีการปฏิบัติงานด้านกฎหมายและยุติธรรม ซึ่งประเทศไทยสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาประกอบการพัฒนาการดำเนินงานด้านกฎหมายและงานยุติธรรมที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามมาตรฐานและแนวปฏิบัติที่ดีของสากล

“ความร่วมมือด้านกฎหมายและยุติธรรมระหว่างไทยกับซาอุดีฯ ผ่านร่างบันทึกความเข้าใจฯ นี้เป็นไปเพื่อการพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญแก่บุคลากรเฉพาะด้าน และเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ ความเข้าใจ และความร่วมมือระหว่างกันในสาขาที่เกี่ยวข้องกับกิจการด้านกระบวนการกฎหมายและยุติธรรม ถือเป็นการสานต่อและตอกย้ำความสำคัญกับการพัฒนาความร่วมมือระหว่าง ไทย-ซาอุ ในทุกมิติ หลังจากที่ได้มีการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างกัน” รองโฆษกฯ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กองทัพภาคที่ 2 แจ้ง ไร้ปะทะหนัก แต่ เขมรยัง ส่งกำลังบำรุง–ปล่อยโดรนถี่ยิบตามแนวชายแดน

องทัพภาคที่ 2 ได้รายงานสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา วานนี้ (29 ธ.ค. 68 ) พบว่า ภาพรวมยังไม่มีการปะทะด้วยอาวุธหนัก อย่างไรก็ตาม ยังคงตรวจพบความเคลื่อนไหวทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะการส่งกำลังบำรุงและการใช้อา

ครบ 72 ชั่วโมงเที่ยงนี้! ‘นันทิวัฒน์’  จับตารอบ 3 หากเขมรกล้าเปิด ไทยต้องจัดหนักจัดเต็ม

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์

'จีน-ไทย-เขมร' เปิดฉากไตรภาคี นานาชาติร่วมยินดีหยุดยิง

'จีน-ไทย- กัมพูชา' หารือไตรภาคี หลังหยุดยิง นานาชาติร่วมยินดีไทย กต. ยืนยันยังคงรวบรวมหลักฐานทุ่นระเบิด เสนอตามกรอบออตตาวา ในฐานะรัฐภาคีที่รับผิดชอบต่ออนุสัญญา

เฝ้าระวัง72ชม. จับตา‘กัมพูชา’ เบี้่ยวเจอสวน!

ผอ.ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ แจงเฝ้าระวังหยุดยิง 72 ชั่วโมง ชี้ตัวเลขที่เหมาะสม-ระดับมาตรฐานสากลใช้กันทั่วโลก ชี้บทเรียนฉีกข้อตกลงไทยพร้อมตอบโต้ป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติข้อ

หยุดยิงเขมรกระอัก ลงนาม16ข้อยึดตรงไหน‘ทหารไทย’ปักหลักตรงนั้น!

ไทย-เขมรเห็นพ้องหยุดยิงทันทีเที่ยงวัน 27 ธ.ค. ยึดปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ เปิดแถลงการณ์ร่วมยาวเหยียด 16 ข้อ เขมรกระอักเลือด พื้นที่ไทยยึดได้ยึดเลย การวางกำลังทหารในปัจจุบันโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม