'จิราพร-จุลพันธ์' ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมหนองคาย ย้ำรัฐบาลเร่งเยียวยาให้เร็วที่สุด

21 ก.ย.2567 - นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์ กรมศุลกากร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงพื้นที่ จ.หนองคาย เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบสิ่งของช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ โดยมีนายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นางสาวชนก จันทาทอง สส. จ. หนองคาย เขต 2 นายเอกธนัช อินทร์รอด สส. จ.หนองคาย เขต 3 นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ อดีต สส. จ. หนองคาย ร่วมให้การต้อนรับ

โดยคณะได้เดินทางไปยัง 4 พื้นที่เป้าหมายที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ประกอบด้วย 1.วัดยอดแก้ว ต.เวียงคุก อ.เมือง 2.ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ 3.โรงเรียนเทศบาล 5 มีชัยวิทยา ต.มีชัย อ.เมือง และ 4.วัดพุทธไสยาสน์ ต.บ้านเดื่อ อ.เมือง โดยนางสาวจิราพร และนายจุลพันธ์ และคณะ ได้พบปะและให้กำลังใจผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.หนองคาย ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ ถือเป็นการบูรณาการความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และสำนักนายกรัฐมนตรี ในการผนึกกำลังช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยนำถุงยังชีพ และของใช้จำเป็นสำหรับการอุปโภคบริโภคมามอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.หนองคาย

นางสาวจิราพร กล่าวว่า รัฐบาลนำโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยภายหลังจากที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมด่วนและกำชับให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างสุดความสามารถ พร้อมได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ทันที เพื่อรับมือกับภัยพิบัติที่กำลังเกิดขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินกว่า 3,045 ล้านบาท เพื่อใช้ในการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 โดยรัฐบาลจะได้เร่งการเบิกจ่ายงบกลางดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด ซึ่งการลงพื้นที่ จ.หนองคายในวันนี้ ได้นำเอาความห่วงใยของรัฐบาลและนำพาความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนมายังผู้ประสบภัย ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชน

ทั้งนี้ สำหรับประชาชนผู้ที่ประสงค์จะบริจาคสิ่งของ และเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย สามารถบริจาคได้ที่ “กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี” บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ชื่อบัญชี “กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี” เลขที่บัญชี 067-0-06895-0

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

อวยไส้แตก! สิ่งที่เท้งทำตอนน้ำท่วม ถ้าได้บริหารประเทศ จะตอบโต้สถานการณ์น้ำท่วมได้

ตอนน้ำท่วมแม่สาย เชียงราย ปีก่อน เท้งมาแบบคนที่ตาใสเลย นับ 1 จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่มีความตั้งใจ มาแต่ตัวจริงๆ ไม่มีแม้อุปกรณ์ล้างบ้าน ตั้ง

อุตุฯ เตือนใต้ฝนตกหนักถึงหนักมาก เหนือ-อีสาน-กลางอุณหภูมิลดลง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล

“น้ำท่วมหาดใหญ่” สสส. ไม่ทอดทิ้ง! ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดโมเดล 3 เฟส ช่วยทันที-ฟื้นบ้าน-สร้างภูมิคุ้มกันภัยพิบัติ

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่

‘อรรถพล’สั่งระดมกำลังเร่งฟื้นฟูน้ำท่วมใต้ยันขนส่งน้ำมันไม่กระทบ

‘อรรถพล’ ยังคงติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณภาพน้ำมันในปั๊มและการขนส่งน้ำมัน-ก๊าซหุงต้มอย่างใกล้ชิด เร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้า ส่งมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ฟื้นฟูระบบไฟฟ้าแก่อาคารและบ้านเรือนประชาชน และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองรถยนต์และรถจักรยานยนต์