สทนช. อัปเดตสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ เตือนรับมือฝนตกหนัก 30 ก.ย.-1 ต.ค.

26 ก.ย.2567 - สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 26 ก.ย. 67 เวลา 7.00 น. ดังนี้

1.ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงใหม่ (159 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.ศรีสะเกษ (50 มม.) ภาคกลาง : จ.ลพบุรี (74 มม.)  ภาคตะวันออก : จ.นครนายก (68 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (99 มม.) ภาคใต้ : จ.สงขลา (81 มม.)

สภาพอากาศวันนี้ : มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีลมฝ่ายตะวันออกพัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทย และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง

คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 27 – 29 ก.ย. 67 บริเวณประเทศไทยตอนบน มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมทางตอนบนของประเทศไทย

และช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 1 ต.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาวตอนบน ประเทศเวียดนามตอนบน และทะเลจีนใต้ ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนและอ่าวไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยบริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 71% ของความจุเก็บกัก (57,448 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 57% (33,263 ล้าน ลบ.ม.)

3. ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ :

1. สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศ เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังแม่น้ำวัง ช่วงวันที่ 24 กันยายน - 3 ตุลาคม 2567 เนื่องจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำวัง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและชุมชนริมแม่น้ำวัง ขอให้เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ดังนี้

จ.ลำปาง ระดับน้ำมีแนวโน้มล้นตลิ่ง บริเวณที่ลุ่มต่ำ อ.เถิน ประมาณ 0.2 - 0.5 ม. ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค. 2567 จ.ตาก ระดับน้ำมีแนวโน้มล้นตลิ่ง บริเวณที่ลุ่มต่ำ อ.สามเงา ประมาณ 1.0 - 1.3 ม. ในช่วงวันที่ 24 ก.ย. - 3 ต.ค. 2567

2. สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศ เฝ้าระวัง น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังแม่น้ำปิง ช่วงวันที่ 25 – 30 กันยายน 2567 เนื่องจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงและแม่น้ำสาขาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงมีแนวโน้มล้นตลิ่ง ในพื้นที่ ต.ช้างคลาน ป่าแดด หายยา ช้างม่อย วัดเกต ช้างเผือก หนองหอย ท่าศาลา ฟ้าฮ่าม ป่าตัน สันผีเสื้อ และหนองป่าครั่ง อ.เมือง ต.หนองผึ้ง และท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำมีแนวโน้มล้นตลิ่ง โดยจะมีระดับน้ำสูงสุด ในวันที่ 26 - 27 ก.ย. 2567 ประมาณ 1.0 – 1.5 ม. จึงขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้น เตรียมรับมือจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังบริเวณริมแม่น้ำปิงและแม่น้ำสาขา รวมทั้งแจ้งเตือนล่วงหน้าให้แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

4. แนวทางการบริหารจัดการน้ำ : เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 67 นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ โดยได้มีการคาดการณ์และเฝ้าระวังฝนที่จะตกลงมาเพิ่มในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 1 ต.ค. 67 บริเวณพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก

ทั้งนี้ สทนช. ร่วมบูรณาการข้อมูลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนเตรียมความพร้อมคาดการณ์ฝนล่วงหน้า ประเมินปริมาณน้ำในพื้นที่หน่วงน้ำ เร่งซ่อมแซมอาคารชลศาสตร์ เครื่องจักรเครื่องมือ และคันกั้นน้ำที่พังทลายในช่วงที่ผ่านมา เฝ้าระวังและบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% เร่งระบายน้ำในแม่น้ำต่าง ๆ ทบทวนเกณฑ์การแจ้งเตือนสถานี Early-Warning บริเวณที่มีความลาดชันสูงให้รัดกุมและทันต่อสถานการณ์ ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์เส้นทางสัญจรที่ถูกน้ำท่วม

5. สถานการณ์น้ำท่วม : วันที่ 25 ก.ย. 67 ในพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.แม่สาย เวียงป่าเป้า และเมืองฯ) จ.เชียงใหม่ (อ.แม่ริม และเมืองฯ) จ.ลำพูน (ป่าซาง บ้านธิ ทุ่งหัวช้าง แม่ทา และอ.เมืองฯ) จ.สุโขทัย (อ.ศรีสำโรง) จ.น่าน (อ.นาน้อย นาหมื่น และเวียงสา) จ.ลำปาง (อ.งาว เมืองฯ เกาะคา ห้างฉัตร แม่พริก สบปราบ เถิน แม่เมาะ วังเหนือ แม่ทะ และแจ้ห่ม) จ.แพร่ (อ.ลอง และวังชิ้น) จ.พิษณุโลก (อ.พรหมพิราม บางระกำ และเมืองฯ) จ.เพชรบูรณ์ (อ.หนองไผ่ และบึงสามพัน) จ.อุดรธานี (อ.เมืองฯ และสร้างคอม) จ.หนองคาย (อ.ศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ เมืองฯ และโพนพิสัย) จ.ชัยภูมิ (อ.เมืองฯ และคอนสวรรค์) จ.ขอนแก่น (อ.แวงใหญ่ แวงน้อย และบ้านไผ่) จ.พระนครศรีอยุธยา (อ.บางบาล บางปะอิน ผักไห่ เสนา บางไทร และพระนครศรีอยุธยา) และ จ.ปราจีนบุรี (อ.ประจันตคาม นาดี และกบินทร์บุรี)