
26 พ.ย.2567-น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างเตรียมการออกประกาศกระทรวง 2 ฉบับ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 67 เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวตามนโยบายรัฐบาล ดูแลสิทธิและโยชน์ของแรงงาน ลดปัญหาการถูกเลือกปฏิบัติตลอดจนการตกเป็น เหยื่อการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน และได้ดูแลครอบคลุมไปถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของแรงงานให้ได้รับการคุ้มครองตามหลักมนุษยธรรม
“ประกาศกระทรวงมหาดไทยทั้ง 2 ฉบับ ยังจะมีส่วนช่วยตอบสนองความต้องการแรงงานของผู้ประกอบการให้มีกำลังแรงงานที่เพียงพอ สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยคำนึงถึงถึงความสมดุลทั้งทั้งทางด้านเศรษฐกิจสังคม และความมั่นคงประเทศ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขั้นตอนล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทยได้ลงนามในร่างประกาศกระทรวงทั้ง 2 ฉบับแล้ว อยู่ระหว่างการนำเสนอให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลงนาม ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ทั้งนี้เนื่องจากเป็นประกาศกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ต้องลงนามโดยนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย
สำหรับฉบับแรก ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักร เป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 มีสาระสำคัญให้แรงงานทั้ง 4 สัญชาติ ที่การอนุญาตให้อยู่หรือทำงานอยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมาย, ที่ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยได้รับอนุญาต แต่ทำงานกับนายจ้างโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สามารถอยู่ในประเทศไทยได้เป็นการชั่วคราว ถึง 30 ธ.ค. 67 เพื่อดำเนินการขออนุญาตอยู่และทำงานตามที่ประกาศกระทรวงแรงงานกำหนด
เมื่อดำเนินการตามที่กำหนดและคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ทำงานแล้ว ให้สามารถอยู่ในประเทศไทยได้เป็นกรณีพิเศษเพื่อทำงานได้จนถึงวันที่ 31 มี.ค. 69 และการอนุญาตนี้ให้ครอบคลุมถึงผู้ติดตามคนต่างด้าวซึ่งเป็นบุตรมีอายุไม่เกิน 18 ปี แต่หากผู้ติดตามมีอายุครบ 18 ปี ตั้งแต่วันประกาศมีผลบังคับและประสงค์จะอยู่ในประเทศไทยต่อไป จะต้องทำงานกับนายจ้างโดยต้องยื่นคำขออนุญาตทำงานตามที่กระทรวงแรงงานกำหนดต่อไป
ประกาศฯ ฉบับนี้ เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วจะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 67 เป็นต้นไป
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ฉบับที่ 2 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 มีสาระสำคัญ กำหนดให้คนต่างด้าว 4 สัญชาติ ที่ได้รับอนุญาตตามมติ ครม. ให้อยู่ทำงานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้ามาตาม MOU ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลทั้ง 4 ประเทศ สามารถขออนุญาตอยู่ในประเทศไทยต่อได้อีก 2 ปี ถึง 13 ก.พ. 70 และสามารถต่ออายุได้อีก 1 ครั้งเป็นเวลา 2 ปี ถึง 13 ก.พ. 72 รวมแล้วเป็นการขยายระยะเวลาให้ขออยู่เพื่อทำงานในประเทศไทยได้อีก 4 ปี และการอนุญาตดังกล่าวให้ครอบคลุมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวที่อายุไม่เกิน 18 ปีด้วย แต่หากผู้ติดตามอายุเกิน 18 ปีแล้ว และประสงค์จะอยู่ในประเทศไทยจะต้องทำงานกับนายจ้าง โดยต้องยื่นคำขออนุญาตทำงานต่อไป
สำหรับประกาศฯ ฉบับนี้ เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 67 เป็นต้นไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปภ. ยืนยันผู้ประสบภัยน้ำท่วมสงขลา ยื่นขอรับเงินเยียวยา 9,000 บาทโดยไม่ใช้เอกสาร
ปภ. ยืนยัน เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมสงขลา 9,000 บาท ยื่นคำร้องโดยไม่ต้องใช้เอกสาร รัฐอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนปฏิบัติ ท้องถิ่นจะใช้ฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์และการยืนยันจากพื้นที่
'อนุทิน' นำ 'ราชสีห์-สมาชิกราชสกุลดิศกุล' วางพวงมาลา เนื่องในวันดำรงราชานุภาพ
นายกรัฐมนตรี นำราชสีห์ และสมาชิกราชสกุลดิศกุล วางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เนื่องในวันดำรงราชานุภาพ พร้อมมอบรางวัลนายอำเภอแหวนเพชร ปลัดอำเภอแหวนทองคำ ประจำปี 2568
นายกฯ เปิดประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ตอกย้ำความเป็นผู้นำปราบปรามสแกมเมอร์ในภูมิภาค
ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นปร
‘ธรรมนัส’ ไม่ติดใจ ‘ชาดา’ พูด ‘ตั้งโจรปราบโจร’ เพราะเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน
ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความรู้สึกกรณีที่นาย
เลขาธิการนายกฯ แจง ครม. ไม่สั่งห้ามกิจกรรมรื่นเริง เพียงขอปรับรูปแบบให้เหมาะสม
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธาน ได้มีมติให้ภาคเอกชนงดกิจกรรมรื่นเริงเป็นเวลา 30 วัน
“รองโฆษกรัฐบาล“ นำคณะลงพื้นที่กระบี่ ติดตามความสำเร็จชุมชนท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ - ถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น
ที่จังหวัดกระบี่ น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะลงพื้นที่ จ.กระบี่ โดยนายสมศักดิ์ กิตติธรกุล หรือ “โกหงวน” นายก อบจ.กระบี่ และนายกิตติ กิตติธรกุล สส.กระบี่


