เลขาฯศาลยุติธรรม ห่วงใยช่วงปีใหม่ เมาเเล้วขับ อาจใช้ดุลพินิจยึดรถไม่รอลงอาญาได้

27 ธ.ค.2567 นายรัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 นี้ ศาลยุติธรรมมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนที่กำลังเดินทางกลับภูมิลำเนาและไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามพื้นที่ต่างๆ ขอให้ทุกท่านเดินทางด้วยความปลอดภัย ใช้รถใช้ถนนด้วยความถ้อยทีถ้อยอาศัย และเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น  โดยช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ศาลยุติธรรมยังคงเปิดทำการในวันหยุดตามประกาศของศาลในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

เพื่อการอำนวยความยุติธรรมแก่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว การพิจารณาคำร้องขอออกหมายจับ-หมายค้น หรือการพิจารณาพิพากษาคดีในบางกรณี ที่จำเป็นจะต้องตัดสินภายในกรอบระยะเวลาของกฎหมาย โดยข้อหาที่มีการนำมาฟ้องมากที่สุดในช่วงเทศกาลปีใหม่คือ ความผิดฐานเมาแล้วขับ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(2) ซึ่งศาลสามารถใช้ดุลยพินิจลงโทษ ตามมาตรา 160 ตรี ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 43 (2) ต้องระวางโทษจำคุก
ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ถ้าการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ถ้าการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-6 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000-120,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ถ้าการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ทั้งนี้ ในความผิดฐานเมาแล้วขับ แม้ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าเกิดความเสียหาย แต่หากศาลเห็นว่าเป็นการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนที่ร่วมใช้ถนนสัญจรไปมา และเห็นว่ารถที่ขับขณะเมาสุราเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง ศาลอาจใช้ดุลพินิจ
สั่งริบรถดังกล่าวได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) เช่นเดียวกับการรอการลงโทษ
และการคุมประพฤติ ที่เป็นดุลพินิจของศาลในการพิจารณาพิพากษาคดีตามเงื่อนไขของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56

โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวย้ำว่า บทบัญญัติของกฎหมายมีไว้เป็นบรรทัดฐานเพื่อให้ทุกคนในสังคมปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องและอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข มั่นคง ปลอดภัย ขณะที่ศาลใช้ดุลยพินิจตามพยานหลักฐานที่ปรากฏอย่างเหมาะสมตามพฤติการณ์เพื่อคุ้มครองทุกคน ดังนั้น ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวก็ให้ทุกคนตระหนักเป็นอย่างยิ่งเคารพกฎจราจรและผู้ที่ใช้ถนนร่วมกัน เพื่อไม่ต้องเสียทรัพย์สิน หรือเสียเวลาในการถูกดำเนินคดี โดยเดินทางกลับบ้านร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลกับครอบครัวได้อย่างมีความสุข.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โสภณ​' นั่งหัวโต๊ะถก คกก.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ​ ​

'โสภณ' หัวโต๊ะถก คกก.นโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ​ ​ บอกใกล้ช่วงปีใหม่​ ต้องสางปัญหาจำหน่าย-ดื่มสุรา​ รับ​ รบ.มีเวลาจำกัด​ แต่ไม่เป็นอุปสรรค​ ขอวางรากฐานให้รัฐบาลอื่น​หรือ​เผื่อได้กลับมา​

โฆษกศาลเปิดข้อบังคับ 'ปธ.ศาลฎีกาใหม่' เปิดช่องประกันตัวหากมีเหตุพิเศษ

นายรัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล โฆษกศาลยุติธรรมให้ความเห็นกรณีราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการปล่อยชั่วค

'นิกร' แนะรัฐถอดบทเรียน ยอดตายบนถนนพุ่ง 8% ชี้ประเด็นสำคัญ ขับเร็ว ไม่ใช่เมาแล้วขับ

นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนแห่งรัฐสภา และประธานคณะอนุกรรมการด้านประสานงาน บริหารจัดการ รณรงค์ และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุเ

5 วันอันตรายสังเวยแล้ว 215 ชีวิต 'กทม.-นนทบุรี' ครองแชมป์

ศปถ.กำชับด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัด จุดบริการ รองรับการเดินทางกลับของประชาชน บังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง - ดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนอย่างต่อเนื่อง