นักวิชาการธรรมศาสตร์ กังวลและไม่เห็นด้วยกับท่าที “ทักษิณ” หลังประกาศจะจัดการว้าแดงเอง หากผู้นำเมียนมาไม่ดำเนินการขจัดยาเสพติด หวั่นอาจถูกตีความว่าไทยจะละเมิดอำนาจอธิปไตยเพื่อนบ้าน ส่งผลต่อความไม่ไว้วางใจ-กระทบภาพลักษณ์ และบทบาทไทยในการเจรจายุติความขัดแย้งในเมียนมา เสนอใช้กลไก TBC – การทูตกับจีน เป็นทางเลือกแรกก่อนคิดจะใช้ความรุนแรง
28 พฤษภาคม 2568 - จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประธานอาเซียน ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ "ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน" ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ตอนหนึ่งว่าแหล่งผลิตยาเสพที่ติดที่สำคัญอยู่ในพื้นที่ของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธว้าแดง เขตรัฐฉาน อีกภายใน 1 – 2 เดือน รมว.การต่างประเทศ จะต้องเข้าไปพบปะกับผู้นำเมียนมาให้จัดการ หากทำไม่ได้ ประเทศไทยคงต้องขออนุญาตจัดการด้วยตนเอง และหากยังผลิตจะถือว่าเป็นศัตรู
รศ. ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ บริพัตร ภาควิชาการระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองและการต่างประเทศเมียนมา เปิดเผยว่า เห็นด้วยในหลักการว่าต้องมีการจัดการกับกลุ่มว้าแดงเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในประเทศไทย แต่ต้องเป็นการทำงานอย่างรัดกุมและคำนึงถึงประเด็นระหว่างประเทศที่มีความอ่อนไหวด้วย ส่วนตัวรู้สึกกังวลและไม่ค่อยเห็นด้วยกับการสื่อสารของคุณทักษิณที่พูดว่า หากรัฐบาลทหารเมียนมาจัดการไม่ได้จะขอเป็นฝ่ายเข้าไปจัดการด้วยตนเอง ตรงนี้อาจจะก่อให้เกิดการตั้งข้อสังเกตได้ว่าเป็นสัญญาณที่ออกมาจากรัฐบาลไทยหรือไม่ หรือเป็นสัญญาณที่ออกมาจากฝ่ายความมั่นคงไทยหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์ในหลายๆ เรื่อง
รศ. ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ กล่าวว่า การใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตามที่คุณทักษิณกล่าวอ้างนั้นอาจทำให้ผู้ฟังคาดเดาไปว่า ไทยอาจจะแทรกแซงโดยส่งกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของไทยเข้าไปปราบปรามยาเสพติดหรือไม่ เรื่องนี้ควรต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะอาจเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของเมียนมา และสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอาจทำให้กองทัพเมียนมารู้สึกไม่ไว้วางใจ และหวาดระแวงว่า ทางการไทยจะมีนัยทางการเมืองในการเข้าไปสนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมากลุ่มใดหรือไม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยที่พยายามจะเข้าไปมีบทบาทในการเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพระหว่างกลุ่มต่อต้านกับรัฐบาลทหาร
รศ. ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการผลิตยาเสพติดของกลุ่มว้าแดงอย่างมีนัยสำคัญมาราว 20 ปีก่อน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีหน่วยงานติดตามและดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับรัฐบาลและระดับท้องถิ่นที่ผู้บัญชาการกองกำลังต่างๆ เป็นผู้ดูแล รวมไปถึงบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศในการเรียกร้องกับรัฐบาลเมียนมาให้ช่วยบรรเทาและแก้ไขปัญหายาเสพติด ก็มีการทำมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ทว่า รัฐบาลทหารเมียนมาก็มีข้อจำกัดในการเข้าไปบริหารจัดการ ด้วยรูปแบบการปกครองพื้นที่ของว้าแดงซึ่งมีความอิสระในการปกครองตนเอง เพราะได้ทำข้อตกลงหยุดยิงและมีการแบ่งสรรทางอำนาจต่างๆ กับรัฐบาลทหารเมียนมาอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 1990 มากไปกว่านั้นคือมิติของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย จึงทำให้กองทัพไม่อยากเข้าไปกดดันหรือแทรกแซงว้าแดงมากนัก ยังไม่นับว่าภายหลังจากการรัฐประหารในปี 2021 เป็นต้นมา ได้ทำให้อิทธิพลของกองทัพลดน้อยถอยลงไปอย่างมากในบริเวณพื้นที่ชนกลุ่มน้อยต่างๆ ขณะที่กองกำลังติดอาวุธอย่างว้าแดงกลับมีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ช่องทางหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยทำมาโดยตลอดในทางการทูต คือการคุยกับรัฐบาลจีน โดยเฉพาะรัฐบาลท้องถิ่นซึ่งอยู่ในพื้นที่ยูนนาน ให้ช่วยดูแลและจัดการเรื่องยาเสพติดร่วมกัน และร้องขอรัฐบาลจีนให้หยุดส่งสารเคมีที่เป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบในการผลิตยาเสพติดให้กับกลุ่มว้าแดง
มากไปกว่านั้น คือการบริหารจัดการพื้นที่ภายในประเทศในเรื่องการป้องปรามการเสพ การซื้อ และการลักลอบขนย้ายยาเสพติด และการใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการปราบปรามยาเสพติดบริเวณแนวชายแดนของกลุ่มผู้ค้ายา จะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการเยียวยา บรรเทาผู้เสพยาเสพติด
รศ. ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตัวแสดงที่สำคัญในการจัดการและแก้ไขปัญหายาเสพติดคือชนกลุ่มน้อยที่เป็นเครือข่ายของฝ่ายความมั่นคงไทย หรือเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทยบริเวณตามแนวชายแดน ควรจะเป็นอีกหนึ่งกลไกที่สำคัญในการติดต่อประสานงาน และขับเคลื่อนร่วมกันเป็นเครือข่ายในการสนับสนุนการป้องปรามยาเสพติด รวมไปถึงการใช้กลไกที่สำคัญอย่างคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย - เมียนมา (TBC) ซึ่งเป็นเวทีในการหารือเรื่องความมั่นคง ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการพูดคุยแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติด
“สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ สิ่งที่คุณทักษิณพูดเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยดำเนินการมาโดยตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะต้องดำเนินการให้มีความเข้มแข็ง จับต้องได้ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการดำเนินการความสัมพันธ์ทางการทูตกับทั้งรัฐบาลกลางเมียนมา รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นของจีน สิ่งเหล่านี้ควรจะเป็นตัวเลือกในเบื้องต้นก่อนที่จะคิดถึงการใช้ความรุนแรง ที่อาจจะก่อให้เกิดการละเมิดอำนาจอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน” รศ. ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อิ๊งค์-ปอ’ เข้าเยี่ยม ‘ทักษิณ’ คุยแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ฝากกำลังใจยศชนัน
“อิ๊งค์-ปอ” ตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยม “ทักษิณ ชินวัตร” ครั้งที่ 26 ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เผยมีการพูดถึงแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย พร้อมส่งกำลังใจให้ “ศ.ยศ
ยังไม่ใช่เวลาเจรจาสันติภาพ นักวิชาการ มธ. ชี้ต้องปกป้องอธิปไตยก่อน แนะวิธีสื่อสารเชิงรุกสู้กัมพูชา
นักวิชาการธรรมศาสตร์ ระบุขณะนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการพูดคุยเจรจาสันติภาพกับกัมพูชา แต่ปลายทางคือต้องเจรจาบนโต๊ะ ชี้ไทยต้องปกป้องอธิปไตยไปจนสถานการณ์กลับสู่ปกติก่อนแล้ว
'หมอวรงค์' มองภาพ 'เบนสมิธ' ร่วมวง 'ทักษิณ-ธรรมนัส' น่ามีผลต่อปท. มากกว่ารูปเก่า 'อนุทิน'
ภาพที่มีเบน สมิธกับทักษิณ และมีธรรมนัส น่าจะมีน้ำหนักสร้างผลกระทบต่อประเทศชาติมากกว่า เมื่อเทียบกับภาพเมื่อ 10 ปีที่แล้วของนายอนุทิน แต่สิ่งที่นายอนุทินต้องพิสูจน์ อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างผ่านมาทางธรรมนัสก็ได้
ห่วง! น้ำลด แต่ความเครียดยัง 'วิกฤต'
นักวิชาการ มธ. ชี้ ระดับน้ำหาดใหญ่ลด แต่ระดับความเครียดยังวิกฤต เสนอบูรณาการจัดระบบช่วยเหลือด้านจิตใจเร่งด่วน แนะเฝ้าระวังผู้ประสบภัย 3 กลุ่ม ห่วงประชาชนเสพข่าวมากอาจเข้าสู่โหมด Survivol Guilt รู้สึกผิดที่ตัวเองรอดแต่คนอื่นไม่รอด ขณะที่ “ธรรมศาสตร์” จับมือวุฒิสภา-หน่วยงานรัฐ-เอกชน จัดทำฐานข้อมูลน้ำท่วมอย่างเป็นระบบระดับประเทศ
‘เสรีพิศุทธ์’ จัดเต็ม ‘ทักษิณ’ ยังไม่สิ้นกรรม แฉลึก...ศึกสีกากี
กลายเป็นเรื่องที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมาก กับการออกเปิดโปง-แฉข้อมูลเรื่องตำรวจรับผลประโยชน์ รับส่วยจากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
'ภูมิใจไทย'โชว์พร้อมยุบสภา 'ทักษิณ'ถูกสกัด-'พท.แพแตก'
การเมืองเวลานี้ต้องจับตาว่าจะมีการเลือกตั้งตาม MOA ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ที่กำหนดวันเลือกตั้งไว้วันที่ 31 มกราคม 2569 เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งใหญ่หรือไม่

