
3 ส.ค.2568-ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง มาตรการป้องกันคอร์รัปชันเชิงรุก สำคัญอย่างไร? เนื้อหาระบุว่า มีผลงานหลายอย่างที่ ป.ป.ช. ทำไปแล้วแต่ดูเหมือนไม่เกิดประโยชน์อะไร เช่น จัดทำมาตรการป้องกันคอร์รัปชันเสนอให้ ครม. พิจารณาตั้งแต่ปี 2557 – 2567 รวม 93 เรื่อง โดยหวังว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปแก้ไขร่วมกัน เช่น แปะเจี๊ยะ โกงนมโรงเรียน ส่วยทางหลวง ทุจริตยา สินบนแรงงานข้ามชาติ สินบนใบอนุญาตก่อสร้าง การรุกล้ำลำน้ำและที่ดินสาธารณะ เป็นต้น
กลายเป็นว่าที่ประชุม ครม. มีเพียงมติ “รับทราบ” แล้วแจ้งหน่วยราชการทั่วไปเช่นปรกติ ดังนั้น ด้วยความไม่ใส่ใจของรัฐมนตรีและระบบตัวใครตัวมันของราชการไทย ทำให้มาตรการที่ศึกษามาดีแล้วนี้แทบไม่มีผลบังคับให้ใครต้องปฏิบัติตาม ซ้ำถูกมองเป็นเรื่องยุ่งยาก เสียอำนาจ เสียผลประโยชน์ ผู้นำหน่วยงานรัฐส่วนใหญ่จึงนิ่งเฉยไม่นำพา ไม่ติดตามเรื่อง ใครจะทำหรือไม่ก็ได้ ไม่รายงานผลต่อต้นสังกัดหรือรัฐมนตรีก็ได้
ไม่แปลกใจใช่ไหม… ว่าทำไมประเทศไทยจึงจัดการปัญหาคอร์รัปชันไม่ได้เสียที
มีบางเรื่องที่ ป.ป.ช. ผลักดันเองทำให้ “หยุดปัญหาได้ก่อนเหตุการณ์ลุกลามหรือเกิดความเสียหายขั้นวิกฤต” เช่น ออกหนังสือเตือน จี้ให้ทบทวนหรือให้ชี้แจงรายละเอียด ให้ความรู้แก่สื่อและสังคมได้เข้าใจว่าความจริงคืออะไร หลักสากลเป็นอย่างไร อย่างเช่นกรณีจำนำข้าว การแจกเงินดิจิทอล เป็นต้น
มาตรการเหล่านี้คือ “การป้องกันคอร์รัปชันเชิงรุก” (Proactive Corruption Prevention) ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพฤติกรรมคอร์รัปชันที่ดำรงอยู่ โดยมีลักษณะสำคัญคือ
1. ทำให้คนไม่กล้าทำผิด เช่น มีกลไกบังคับเปิดเผยข้อมูลให้มากโดยไม่อ้างโน่นนี่มาปฏิเสธ ทำให้คนรู้เห็นเยอะ มีบันทึก/หลักฐานมัดตัวพร้อมเอาผิดย้อนหลังได้ไม่ยาก หากใครพบข้อพิรุธแล้วร้องเรียนเปิดโปงจะได้รางวัลก้อนโต แม้คนที่สมรู้ร่วมคิดหรือจ่ายสินบนไปแล้วหากภายหลังมาแฉก็ถือว่าพ้นผิด
2. ทำโดยไม่ต้องรอให้มีใครร้องเรียนหรือร้องขอ เช่น ศูนย์ CDC ของ ป.ป.ช. ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของเทศบาล ทันทีเมื่อเห็นข่าวชวนสงสัยบนโลกโซเชียล
3. ทำให้สังคมตระหนักรู้ว่าพฤติกรรมคอร์รัปชัน เช่นใดกำลังเป็นภัยร้ายแรง หรือแพร่ระบาด จนไม่สามารถหยุดยั้งได้ด้วยกลไกตามกฎหมายปรกติได้ จำต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชนมากขึ้น เช่น การสำรวจข้อมูลอาคารราชการที่ทิ้งร้างสร้างไม่เสร็จมูลค่านับแสนล้านบาท
4. ทำให้แก้ปัญหาคอร์รัปชันได้รวดเร็วขึ้น หรือทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง เช่น กรณีรัฐอนุมัติงบบูรณาการแก้ปัญหาคอร์รัปชันก้อนหนึ่งให้กรมทางหลวง นำไปซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่สำหรับชั่งรถบรรทุกที่วิ่งในเมืองหรือใกล้พื้นที่ก่อสร้างขนาดใหญ่
มาตรการเชิงรุกจึงจำเป็นและต้องทำให้มากขึ้นในยุคที่เขาโกงกันซึ่งๆ หน้า เยี่ยงทุกวันนี้
ปัจจุบันมีหลายหน่วยงานภาครัฐและประชาชนที่มีส่วนผลักดันแก้ปัญหาคอร์รัปชัน แต่การใช้มาตรการป้องกันเชิงรุกเห็นมีเพียง ป.ป.ช. เท่านั้น โดยผลงานล่าสุดคือออกกฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก (Anti – SLAPP Law) ควบคู่กับการให้สินบนรางวัลนำจับแก่ทุกคนที่แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน
“การต่อสู้เอาชนะคอร์รัปชันไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน” สิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือ ทักท้วงและทวงถามรัฐบาลและผู้นำภาครัฐที่ถือกฎหมายในมือ ดึงให้พวกเขาหันมารับผิดชอบบ้านเมืองให้มากกว่าเป็นอยู่ครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
โอนเงินเยียวยาน้ำท่วม สำเร็จแล้ว 4.9 พันล้าน 5 แสนครัวเรือน
'ภราดร' เผยยอดโอนเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ช่วง 1-4 ธ.ค. โอนสำเร็จแล้ว 548,126 ครัวเรือน วงเงินรวม 4.9 พันล้านบาท
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'
นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568


