สทนช. ยันชาวกทม. วางใจได้ น้ำไม่ท่วมใหญ่เหมือนปี 54 แม้จะมีพายุอีก 5 ลูก

เลขาฯ สทนช. ยัน ชาว กทม.วางใจได้สถานการณ์ปีนี้ไม่รุนแรงเท่าปี 54 แต่ต้องระวังพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ ชี้น้ำทะเลหนุนส่งผลระบายน้ำช้า ต้องแก้ทั้งระบบ พร้อมเผยศุกร์นี้ “ภราดร” ตรวจเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อลดการระบายน้ำแล้วสถานการณ์จะดีขึ้น

8 ตุลาคม 2568 - เมื่อเวลา 12.40 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครขณะนี้ ว่าการพัฒนาริมแม่น้ำเปลี่ยนไป เพราะฉะนั้นประชาชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำก็จะได้รับผลกระทบ ก็ต้องช่วยกันดูแล ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพมหานครอย่างเดียว รวมถึงพระนครศรีอยุธยาด้วย

โดยในวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคมนี้ นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำที่จังหวัดชัยนาท ซึ่งตนจะเดินทางไปด้วย ซึ่งเมื่อวันจันทร์(6 ต.ค.)ที่ผ่านมา ในการประชุม คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ได้มีการติดตามสถานการณ์ฝนที่ประมาณการณ์ในวันนั้น เป็นแบบนึง แต่หลังจากนั้นฝนที่คาดว่าจะตกจากพายุแมตโมในจังหวัด เชียงราย น่าน ไม่ได้มากนัก โดยสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา ที่จังหวัดชัยนาท กรมชลประทานจะลดระดับการปล่อยน้ำลงระดับหนึ่ง ก็น่าจะดีขึ้น

ส่วนกรณีที่จะมีพายุอีก 5 ลูกเข้ามา จะทำให้ปริมาณน้ำเทียบเท่าปี 2554 เลยหรือไม่ นายดนุชากล่าวว่าปริมาณน้ำฝนไม่เท่ากัน ซึ่งปริมาณของปีนี้ต่างกับปี 2554 ค่อนข้างมาก ครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งในปี 2554 มีปริมาณมากกว่าปกติถึงร้อยละ 20 แต่ปีนี้มากกว่าค่าปกติร้อยละ 9 และปริมาณน้ำเข้าที่ผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในปี 2554 ประมาณ 4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ในปีนี้อยู่ที่ 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

เมื่อถามว่าชาวกรุงเทพมหานครสามารถไว้วางใจสถานการณ์ได้หรือไม่ นายดนุชากล่าวว่าวางใจได้ แต่กลุ่มประชาชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำก็ต้องเตรียมตัว ระมัดระวัง เพราะได้รับผลกระทบเป็นประจำอยู่แล้ว

ส่วนสถานการณ์น้ำทะเลหนุนจะส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหน นายดนุชา กล่าวว่าน้ำทะเลหนุนจะทำให้การระบายน้ำช้าลง ซึ่งการแก้ปัญหาต้องแก้ทั้งระบบ จุดที่สามารถควบคุมน้ำได้คือเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนภูมิพล แต่ที่แม่น้ำยมยังไม่สามารถควบคุมได้ ยังไม่สามารถสร้างเขื่อนใหญ่ได้ ซึ่งจะต้องดูวิธีการ พร้อมยอมรับว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นทุกปี และมีแนวโน้มจะถี่ขึ้น เพราะภาวะโลกร้อน ซึ่งการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่จึงจำเป็นต้องทำเป็นระบบ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลโอนเยียวยาน้ำท่วมใต้ครั้งที่ 6 'สงขลา-ตรัง' 40,935 ครัวเรือน กว่า 300 ล้านบาท

โฆษกเผยการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 แบบเหมาจ่ายในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท ใน 4 รูปแบบ

สมาคมสถาบันการเงิน ผนึกกำลังแบงก์รัฐ ผุด 3 โครงการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ขานรับนโยบายรัฐบาล ผนึกกำลังแบงก์รัฐประกาศช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ผุด 3 โครงการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู

'อนุทิน' ยกคณะบินหาดใหญ่ บิ๊กคลีนนิ่งหลังน้ำลด เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย-มอบถุงยังชีพชาวสตูล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร2 กองบิน6 (บน.6) ดอนเมือง เพื่อตรวจราชการจังหวัดสงขลาและจังหวัดสตูล

กรมอุตุฯ เผยพายุลูกใหม่กำลังก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ขณะนี้หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อนได้ และมีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มอบเงินให้สภากาชาดไทย ช่วยน้ำท่วมภาคใต้

รศ.นายแพทย์พินิจ กุลละวณิชย์ ประธานกรรมการมูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มอบเงินบริจาคจำนวน 306,000 บาท (สามแสนหกพันบาทถ้วน) ให้นายเตช บุนนาค เลขาธิการ สภากาชาดไทย รับมอบ เพื่อ “รวมน้ำใจ ช่วยภัยน้ำท่วมภาคใต้ กับสภากาชาดไทย” ช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา พี่น้องผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมภาคใต้