ระทึก! น้ำเหนือจ่อเข้า กทม. เขื่อนภูมิพลใกล้ล้น รัฐจับตา 3 วันชี้ชะตา

สถานการณ์น้ำเหนือพุ่งต่อเนื่อง เขื่อนภูมิพลมีน้ำเกือบเต็มความจุ รัฐบาลเตรียมแผนระบายน้ำเพิ่มภายใน 2-3 วัน ส่งผลน้ำเหนือจ่อถึงเจ้าพระยา-ปริมณฑล ขณะนนทบุรี-ปทุมฯ เริ่มได้รับผลกระทบ จับตาไม่ให้ “ซ้ำรอยปี 54” ย้ำยังควบคุมได้แต่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดทุกพื้นที่ริมแม่น้ำ

10 พฤศจิกายน 2568 - เวลา 15.30 น. ที่กระทรวงการคลัง นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์บริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยมีผู้แทนจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมชลประทาน และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เข้าร่วม

ภายหลังการประชุมเวลา 16.45 น. นายภราดร เปิดเผยว่า ขณะนี้เขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำถึง 99% ของความจุ มีน้ำไหลเข้าเฉลี่ยวันละ 90 ล้านลูกบาศก์เมตร และปล่อยออกวันละ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อเนื่องอีกไม่เกิน 3 วัน เขื่อนจะเต็มความจุและต้องประเมินการระบายน้ำแบบวันต่อวัน ซึ่งอาจต้องเพิ่มการปล่อยน้ำเพื่อรักษาความปลอดภัยของเขื่อน

นายภราดร ระบุว่า ปริมาณน้ำจากเขื่อนภูมิพลจะไหลมาสมทบที่จังหวัดนครสวรรค์และเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งขณะนี้มีการระบายน้ำที่ระดับ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และอาจเพิ่มขึ้นเมื่อมวลน้ำจากเหนือมาถึง โดยจะบริหารให้น้ำไหลออกทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกเข้าสู่พื้นที่เกษตรกรรม เพื่อบรรเทาผลกระทบกับบ้านเรือนประชาชนให้ได้มากที่สุด

สำหรับเขื่อนสิริกิติ์มีแนวโน้มลดการระบายน้ำจากวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือเพียง 5 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อช่วยชะลอมวลน้ำลงสู่ภาคกลาง ขณะเดียวกัน ปภ. ได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วราว 70% และจะจ่ายครบ 100% ภายในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงผลกระทบในกรุงเทพมหานคร นายภราดร กล่าวว่า ขณะนี้บางพื้นที่อย่างนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการเริ่มได้รับผลกระทบจากระดับน้ำสูงขึ้น แต่ยืนยันว่าไม่รุนแรงเท่าปี 2554 เพราะปีนั้นมีน้ำมากกว่านี้และเกิดอุบัติเหตุที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ซึ่งปีนี้ยังไม่มีเหตุลักษณะนั้น

ทั้งนี้ กรมอุทกศาสตร์แจ้งว่าหลังเทศกาลลอยกระทง ปริมาณน้ำทะเลหนุนจะลดลง ทำให้สามารถระบายน้ำได้สะดวกขึ้น โดยรัฐบาลจะพยายามควบคุมการปล่อยน้ำไม่ให้เกินระดับ 2,800–3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเน้นระบายออกด้านตะวันตก–ตะวันออกเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อชุมชน

นายภราดร ทิ้งท้ายว่า รัฐบาลติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าทุกหน่วยงานทำงานเต็มที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 อีกครั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

PORCELA (พอร์ซเซล่า) ปันสุข ผนึกกำลังพันธมิตรดีลเลอร์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หาดใหญ่

บริษัท ร่วมพัฒน์เซรามิค จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมกระเบื้องเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ แบรนด์ PORCELA (พอร์ซเซล่า) เดินหน้าดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ “โครงการ PORCELA ปันสุข ปีที่ 6” เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย สะท้อนบทบาทองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG)

ธปท.-สมาคมแบงก์ออกมาตรการเพิ่มเติม ช่วยลูกหนี้น้ำท่วมใต้

‘ธปท.’ และ ‘สมาคมธนาคารไทย’ ร่วมผลักดันมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ชูพักชำระเงินต้น-ยกเว้นดอกเบี้ย ไม่เกิน 12 เดือน ในพื้นที่สาธารณภัยร้ายแรง (ระดับ4)

ประกาศฉบับ 26 เตือน 7 จ.ใต้ ฝนตกหนักมาก เรือเล็กงดออกฝั่ง

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2568) ฉบับที่ 26 โดยมีใจความว่า

อุตุฯ เตือนอากาศเย็นลมแรง อุณหภูมิลด 1-2 องศา ใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

’สิริพงศ์‘ เผยโอนเงินเยียวยาน้ำท่วมใต้แล้วกว่า 1.07 ล้านครัวเรือน

โฆษกรัฐบาลระบุ ปภ.ร่วมธนาคารออมสิน โอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้แล้ว 11 ครั้ง ครอบคลุม 9 จังหวัด รวมกว่า 9.6 พันล้านบาท อยู่ระหว่างเร่งจ่ายส่วนที่โอนยังไม่สำเร็จ

เทศบาลเมืองคอน ขึ้นธงเหลือง เตือนประชาชนเฝ้าระวังน้ำท่วม

เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ภายใต้การนำของ ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายและปักธงสัญลักษณ์แจ้งเตือนภัยบริเวณสะพานข้ามคลองในเขตเทศบาล เพื่อให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์และเตรียมพร้อมป้องกันน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง