'นายกฯ' เปรียบ อสม.เป็นฝีพายชั้นดี ช่วยยกระดับสาธารณสุขไทย หวังให้เป็น 'สมาร์ทอสม.'

'นายกฯ' เปรียบ อสม.เป็นฝีพายชั้นดี ช่วยยกระดับสาธารณสุขไทย หวังให้เป็น 'สมาร์ทอสม' ใช้เทคโนโลยีข่วยดูแลประชาชน บอก หน้าบานเป็นกระด้งทุกครั้งที่ไปต่างประเทศ เพราะมีอสม. ขณะประเทศอื่นไม่มี เผยเคยทำงานร่วมกันนาน 4 ปี รู้พิษสงดีว่าไม่หมูถ้าใครทำให้ชาวบ้านเจ็บป่วย

21พ.ย.2568 - เมื่อเวลา 09.30 น. ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สู่สาธารณสุขยุคพัฒนา โดยมีนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บุคลากรสาธารณสุข และตัวแทนอสม. จากทั่วประเทศเข้าร่วม

โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า วันนี้รู้สึกปลาบปลื้ม และยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมงานนี้ ที่สำคัญคือได้มาพบปะพี่น้องอสม. ที่มีความคุ้นเคยคิดถึงกันมาตลอด งานในวันนี้มีความหมายมาก เพราะสาธารณสุขยุคนี้เป็นยุคพัฒนาจริงๆบุคลากรมีคุณภาพความรู้ความสามารถ รายล้อมไปด้วยคนที่ตั้งใจจะมาทำงานด้านสาธารณสุข ทุกคนที่มาทำงานในยุคนี้ทราบดี ว่าระบบสาธารณสุขไทยจะไปไกลไม่ได้ ถ้าไม่มีฝีพายชั้นดีที่เรียกว่า อสม.

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันเราทำงานด้วยเทคโนโลยีซึ่งถ่ายทอดไปยังอสม. เพราะถือว่าเป็นหมอคนแรกของพี่น้องประชาชน ต้องมีการปรับเปลี่ยนการให้บริการประชาชนให้เป็นไปตามความทันสมัยของโลก โดยมีเป้าหมายคือทำให้ประชาชนได้รับการบริการอย่างดีที่สุด ปีนี้กระทรวงสาธารณสุขมีความคาดหวังต่ออสม. ด้วยการยกระดับอสม.ธรรมดาให้เป็นสมาร์ท อสม. ตนทำงานกับอสม.มา 4 ปีเต็ม ทราบถึงพิษสงของ อสม.เป็นอย่างดี ที่บอกว่าพิษสงคือไม่หมู แต่มีความทุ่มเทเสียสละ แต่ถ้าใครก็ตามจะมาทำให้ประชาชนของเขาเจ็บไข้ได้ป่วย สุขภาพไม่ดีเจอพิษอสม.แน่

“ผมซ้อมๆไว้เดี๋ยวก็เลือกตั้งแล้ว วันนี้ผมเลยมาเจอพี่น้องอสม. มากันเยอะลิบหูลิบตาไปหมด มาเป็นหมื่นๆคน ไม่ว่าใครก็ตามเจ๋งหรือเก๋าขนาดไหน เจอคนเป็นหมื่น เหมือนคนที่มานั่งเป็นพวกเดียวกันแล้วต้องพูดต่อหน้าเขาก็สั่นทุกคน ขณะที่ผมพูดกับทุกคนอยากให้รู้ว่าขาผมสั่นขนาดไหน แต่สั่นด้วยความตื่นเต้นดีใจ และสั่นสู้ทุกครั้งเมื่อเจออสม. เพราะเราเคยเป็นนักรบด้วยกันมาก่อนสมัยโควิด-19 ที่ต้องช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชนมากมาย และไม่ว่าสมัยไหนๆเมื่อได้ไปต่างประเทศ ผมก็หน้าบานเป็นกระด้ง เพราะไม่ว่าที่ไหนก็มีหมอพยาบาลนักวิทยาศาสตร์ แต่ที่เขาไม่มีเหมือนเราคืออสม.” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า วันนี้เรามีอสม. ถึง 1 ล้านคน นี่คือสิ่งที่ช่วงที่ประเทศเจอวิกฤตโควิด-19 เราถึงมั่นใจว่าถ้าใช้เครืออสม. ผนึกกำลังด้านการแพทย์ตลอดจนเทคโนโลยีที่มี พวกเราจะผ่านวิกฤตนั้นไปได้แน่นอน แต่ตอนนั้นพูดอะไรไปคนก็ปรามาส และมีความกังวล แต่สุดท้ายเราก็ผ่านวิกฤตร้ายแรงของโรคไปได้ด้วยดี และทำให้ประเทศไทยมีสถานะเป็นประเทศที่มีระบบสาธารณสุขอยู่ในลำดับต้นๆของโลก และถ้าให้ตนวัดก็ยกให้เป็นเบอร์หนึ่งในการดูแลพี่น้องประชาชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลต้องการต่อยอด อสม. เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงพัฒนาสุขภาพอนามัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตในชุมชนด้วยหลักการ “ป้องกันก่อนป่วย” โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อป้องกันโรคให้กับพี่น้องในชุมชน สื่อสารข้อมูลข่าวสารด้านสาธารณสุขให้ประชาชนมีความรู้ ตลอดจนการฝึกอาชีพสร้างความมั่นคงของอสม.ยุคใหม่ ด้วยการเป็นผู้ช่วยแพทย์แผนปัจจุบัน และแผนไทย

เชื่อว่าโครงการต่างๆเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านสุขภาพให้ประชาชนชาวไทย รวมถึงความมั่นคงในชีวิตของอสม.ทุกคน สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้แน่นอน เพราะกลไกระบบสาธารณสุขของไทยมีความเข้มแข็งมาก อาจมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่สุดท้ายผลลัพธ์ไม่เคยทำให้ประชาชนคนไทยผิดหวัง

"จากนี้สังคมไทยมีความเปลี่ยนแปลง เราต้องดูแลผู้สูงอายุ ตนไม่อยากพูดคำว่าติดเตียง ดูแลตัวเองไม่ได้ เพราะพูดแล้วเหมือนบั่นทอนพวกเขา วันนี้ศัพท์ที่ตนชอบมากคือคำว่า “ผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน” เราต้องปรับเปลี่ยนสังคมให้สอดคล้องกับสภาวะสังคมผู้สูงอายุ เพราะหนีอย่างไรก็ไม่พ้น ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ และกฎระเบียบของสังคมขึ้นมาใหม่ อย่างที่ตนพูดหลายครั้งเรื่องการขยายการเกษียณอายุ ควบคู่ไปกับการที่อสม. จะเป็นส่วนสำคัญที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เพื่อ ทุกคนจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากนี้ เราต้องใช้ระบบสาธารณสุขสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศด้วย นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องหันหัวเรือใช้ความเข้มแข็งในสิ่งที่ประเทศมีอยู่ สร้างมูลค่าเพิ่มและโอกาสให้กับประเทศ" นายกรัฐมนตรี กล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ สั่งตั้ง 'กองบัญชาการปภ.แห่งชาติส่วนหน้า' ลดความรุนแรงน้ำท่วมใต้เหลือระดับ​ 3

นายก​ฯ ขอบคุณ​ทุกภาคส่วน​ร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมใต้​ บอกความทุ่มเททราบถึงพระเนตร​พระกรรณ ขอกรมโยธาฯเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนเยียวยาไม่ใช่รายหัว​ พร้อมกำชับ​ สธ.​ ดูแลสุภาพจิต -​โรคติดต่อ​ สั่ง​ ตั้งกองบัญชาการและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า หลังลดระดับความรุนแรงเหลือระดับ​ 3 มอบ ‘ศักดิ์ดา’ บัญชาการพื้นที่

นายกฯ ปฏิเสธตอบปมนายก อบจ.สงขลาด้อยค่า อส.-คนไทยบาดเจ็บสู้รบเมียนมา

นายกฯปฎิเสธให้สัมภาษณ์กรณี นายก อบจ.หาดใหญ่ กล่าวด้อยค่า อส. และกรณีคนไทยในแม่สอดบาดเจ็บจากการสู้รบในเมียนมา

'อนุทิน' ยกคณะบินหาดใหญ่ บิ๊กคลีนนิ่งหลังน้ำลด เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย-มอบถุงยังชีพชาวสตูล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร2 กองบิน6 (บน.6) ดอนเมือง เพื่อตรวจราชการจังหวัดสงขลาและจังหวัดสตูล

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม

ใครกล้าทำ นายกฯ โวทำงาน2เดือนปราบสแกมเมอร์ ยึดเงินหมื่นล้าน คนบอกไม่ดำเนินคดีไม่รู้เรื่อง

นายกฯ ย้ำ รัฐบาลทำงาน2เดือนจริงจังปราบสแกมเมอร์ ยึดเงินหมื่นล้าน - เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกคนบอกไม่ดำเนินคดีคือ ไม่รู้เรื่อง

'วิโรจน์' ขีดเส้น 2 สัปดาห์ต้องยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายคนไทยที่ร่วมขบวนการ 'เบนสมิธ' เพิ่มเติม

'วิโรจน์' ลั่น เส้นทางการเงินการลากคอคนไทยตัวใหญ่มาลงโทษสำคัญกว่าภาพถ่าย'เบนสมิธ' กับบุคลสำคัญ ร่วมกับ 'อนุทิน' ขีดเส้น 2 สัปดาห์ต้องยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายคนไทยที่ร่วมขบวนการได้เพิ่มเติมอีก