ข่าวดี! ผู้ป่วยมะเร็งปอดใช้ยา 'Erlotinib–Gefitinib' เป็นยาขนานแรกได้แล้ว

เริ่ม 1 ธ.ค.เป็นต้นไป ผู้ป่วยมะเร็งปอด สามารถใช้ยา 'Erlotinib–Gefitinib' เป็นยาขนานแรกได้แล้ว ช่วยให้ผู้ป่วยคุมโรคได้นาน 9 เดือนถึง 1 ปี ยับยั้งการกลายพันธุ์ที่เป็นตัวเร่งให้มะเร็งเติบโต

03 ธ.ค.2568 - นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากทางกรมบัญชีกลาง ปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยาที่ต้องใช้ยาราคาแพง โดยขยายสิทธิให้ผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะแพร่กระจาย สามารถใช้ยา Erlotinib หรือ Gefitinib เป็นยาขนานแรกได้ สำหรับค่ารักษาที่เกิดตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งยาดังกล่าวมีส่วนสำคัญช่วยยับยั้งการเติบโตของมะเร็งใน “ผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะ 4 ที่มีการกลายพันธุ์ที่พบมากในคนไทย คือ การกลายพันธุ์แบบ EGFR (การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในยีน EGFR (Epidermal Growth Factor Receptor) ซึ่งเป็นยีนที่มีบทบาทในการควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์)” ทั้งนี้ ยา Erlotinib หรือ Gefitinib จะช่วยคุมโรคได้นานถึง 9 เดือน ถึง 1 ปี โดยยังไม่ต้องเริ่มทำเคมีบำบัด ส่วนการปรับเกณฑ์การจ่ายยาโดยกรมบัญชีกลาง แพทย์จะมีการนัดติดตามอาการผู้ป่วยในช่วงแรกได้ใกล้ชิดกว่าเดิม

นางสาวอัยรินทร์ กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดชนิด Non-small cell lung cancer ระยะแพร่กระจาย มี EGFR mutation ชนิดที่มีความไวต่อการตอบสนองต่อยากลุ่มนี้ ให้ใช้ยา Erlotinib เป็นยาขนานแรก แต่หากมีเงื่อนไขทางการแพทย์ที่ไม่สามารถใช้ยานี้ได้ หรือเกิดผลข้างเคียงรุนแรง จะใช้ยา Gefitinib แทน โดยปริมาณการเบิกจ่ายต่อครั้งไม่เกินจำนวนยาที่ใช้ใน 1 เดือน ใน 3 เดือนแรก และไม่เกินจำนวนยาที่ใช้ใน 3 เดือน ในเดือนต่อ ๆ ไป เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่เหมาะและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

สำหรับโรคมะเร็งปอดระยะแพร่กระจายที่มีลักษณะการกลายพันธุ์ที่เรียกว่า EGFR เป็นชนิดที่พบได้สูงในผู้ป่วยคนไทยที่เป็นมะเร็งปอดชนิด อะดีโนคาร์ซิโนมา ราว 50% โดยผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งปอดระยะนี้ เมื่อแพทย์ได้ทำการวินิจฉัยแล้ว จะสามารถรับการรักษาโดยใช้ยา Erlotinib หรือ Gefitinib ที่เป็นยามุ่งเป้าได้ ซึ่งยาทั้ง 2 รายการอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ และสามารถเบิกได้ทุกสิทธิการรักษาทั้งสิทธิประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) สิทธิประกันสังคม และสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

“ยามุ่งเป้าทั้ง 2 รายการดังกล่าว มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการกลายพันธุ์ที่เป็นตัวเร่งให้มะเร็งเติบโต ส่งผลให้ก้อนมะเร็งยุบลง ควบคุมโรคได้นานขึ้น ทำให้อัตราการรอดชีวิตที่ 5 ปี เพิ่มขึ้น แม้จะยังไม่ใช่การรักษาให้หายขาด แต่หากไม่รักษา ผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะ 4 อาจมีชีวิตอยู่ได้เพียงประมาณ 3 เดือน ขณะที่การใช้ยามุ่งเป้าจะช่วยให้ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งคุมโรคได้นาน 9 เดือนถึง 1 ปี ถ้ามีการดื้อยาเกิดขึ้น การให้คีโม หรือยามุ่งเป้าขนานอื่นๆ ก็ยังทำให้สามารถควบคุมโรคได้นานขึ้นเป็นปี”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยพร้อม 100%นับถอยหลังเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33 จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี

นับถอยหลังกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไทยเจ้าภาพพร้อม 100% 'แบมแบม' เตรียมขึ้นเวทีโชว์ รัฐบาลเชิญชวน 9 ธ.ค. นี้ จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี ผ่านเว็บไซต์ทางการ www.seagames2025.org

ผบ.ตร. หารืออธิบดีกรมบัญชีกลาง เพิ่มเงินค่าตอบแทนพนักงานสอบสวน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ ชอบเพื่อน ผู้บัญชาการสำนักงานงบประมาณและการเงิน และคณะ ได้เดินทางไปยังกรมบัญชีกลาง

ประเดิมแจ้งเตือน 'ฝุ่นPM2.5' ผ่าน Cell Broadcast 'กทม.' โหมดส้ม

เริ่มแล้ว! แจ้งเตือน PM2.5 ผ่าน Cell Broadcast 'กรุงเทพฯ–ปริมณฑล' เข้าสู่โหมดสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 'รมว.สุชาติ' กำชับ ทส. ติดตามใกล้ชิด หลังแนวโน้มฝุ่นสะสมต่อเนื่องถึง 2 ธ.ค.

รบ.ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์-สัตว์เลี้ยง 9 จว.ใต้

รัฐบาล ระดมทุกภาคส่วนเร่งช่วยเหลือเหตุน้ำท่วม 9 จว.ใต้ ด้านกรมปศุสัตว์ส่งหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน ช่วยอพยพสัตว์เลี้ยง เตรียมแผนฟื้นฟูอาชีพเกษตรหลังน้ำลด