นายกฯแพทองธาร สั่งลุย! ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประสานจีนจัดการอาชญากรรมข้ามชาติ ขณะที่ ‘ภูมิธรรม’ ลั่นวันนี้จะมีคำสั่งย้ายด่วน ขรก.ระดับสูงที่เอี่ยวขบวนการ ด้าน กสทช. เจอจี้หนัก หลังผลงานตัดสัญญาณยังล้มเหลวในบางพื้นที่
11 ก.พ. 2568 – รัฐบาลประกาศสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งด่วนให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และหน่วยงานความมั่นคง เร่งกวาดล้างขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงประชาชนไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่เธอได้หารือกับทางการจีน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เผยในที่ประชุม ครม.ว่า ก่อนเที่ยงวันนี้ (12.00 น.) จะมีการเซ็นคำสั่งย้ายข้าราชการระดับสูงทันที หากพบว่ามีความเกี่ยวข้องหรือพัวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “รัฐบาลเอาจริง! ใครเอื้อประโยชน์ให้ขบวนการนี้ ไม่มีข้อยกเว้น” นายภูมิธรรมกล่าวอย่างแข็งกร้าว
ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลกำลังจับตาการทำงานของ กสทช. อย่างใกล้ชิด หลังพบว่าการ ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรงข้าม ปอยเปต และฝั่งตะวันตก ตรงข้ามอำเภอแม่สอด จ.ตาก ซึ่งเป็นแหล่งกบดานสำคัญของขบวนการต้มตุ๋นออนไลน์
นายจิรายุย้ำว่า “กสทช. ต้องดำเนินการให้เด็ดขาดกว่านี้!” เพราะรัฐบาลต้องการให้ปิดช่องโหว่ทั้งหมดที่แก๊งเหล่านี้ใช้ในการเชื่อมโยงกับเหยื่อในไทย
แม้รัฐบาลไทยจะเข้มงวดกับขบวนการอาชญากรรม แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับประเด็นด้านมนุษยธรรม โดยเปิดให้ผู้ป่วยจากเมียนมาเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลไทย และอนุญาตให้รถยนต์จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเติมน้ำมันได้ตามมาตรการช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม มาตรการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังคงเข้มข้นต่อเนื่อง โดยเน้นจัดการขบวนการที่มี “ผู้มีอิทธิพลหนุนหลัง” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี
ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดีอีเอส ระบุว่า รัฐบาลไทยจะสรุปมาตรการที่ดำเนินการไปแล้วภายใน 15 วัน และจะรายงานผลอีกครั้งใน 30 วัน โดยจะร่วมมือกับ ดีเอสไอ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ กสทช. เพื่อติดตามผลและกำหนดแนวทางต่อไป
พร้อมกันนี้ กสทช.ได้รับคำสั่งให้ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่พาดผ่านไปยังตึกต้องสงสัยทันที หากพบว่ามีการเอื้อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ดำเนินการได้ รัฐบาลยืนยัน จะไม่มีการปล่อยให้เครือข่ายเหล่านี้หลบเลี่ยงกฎหมายได้อีกต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เด็กเสียนิสัย! ‘ชูวิทย์’ อบรม ‘ธนาธร’ ปมหากพิธาเป็นนายกฯ ในวันนั้น
“ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” โต้คำกล่าวของธนาธร ชี้เกมชายแดนต้องใช้ประสบการณ์และชั้นเชิง ระบุพรรคประชาชนยังอ่อนเวทีการเมืองระหว่างประเทศ
‘ปิยบุตร’ เผยเบื้องหลัง MOA ปชน.-ภูมิใจไทย เป็นการ ‘ทดลอง’
เลขาธิการคณะก้าวหน้า ยอมรับเสียใจ กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญล้มเหลว ชี้เป็นการ “ทดลอง” ภายใต้ข้อจำกัดในระบบการเมือง
‘หมอวรงค์’ เตือน เลือกตั้งระวังพรรคการเมืองที่สหรัฐถือหาง
นพ.วรงค์ ตั้งคำถามกรณี “ทรัมป์” ระบุเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดเป็นอุบัติเหตุ ทั้งที่ฝ่ายทหารและอาเซียนยืนยันเป็นทุ่นระเ
'ประเสริฐ' แจง 'MOUดีอี-บ.สิงคโปร์' หน่วยงานกลั่นกรองตามขั้นตอน ย้ำไม่รู้จัก 'เบน สมิธ'
'ประเสริฐ' แจงตรวจสอบ ‘MOU ดีอี-บ.สิงคโปร์ Prime Opportunity Fund’ แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลั่นกรองตามขั้นตอนโดยละเอียด ทั้งกระทรวงดีอี-กระทรวงการต่างประเทศ-กฤษฎีกา-อัยการสูงสุด’ มั่นใจไร้สิทธิพิเศษและไม่เปิดช่องเอื้อประโยชน์ใคร ชี้เนื้อหาระบุ ‘ทุกอย่างต้องเป็นไปภายใต้กฎหมายไทย-สิ่งใดไม่มีกฎหมายรองรับจะกระทำไม่ได้ ย้ำไม่รู้จัก ‘เบน สมิท’ เป็นการส่วนตัว ร่วมเฟลมถ่ายรูปเพราะได้รับเชิญเป็นสักขีพยานเท่านั้น
ดร.อานนท์ เฉลยคนเดียวที่ล้มทักษิณได้ และกระทืบส้มจนเละ!
ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ยุบสภา! ดร.อานนท์ ยก 5 ข้อผลดีภูมิใจไทย ส่วนพรรคประชาชนโง่แล้ว โง่อยู่ โง่ต่อไป
ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊กว่าการยุบส

