ครึ่งวันระอุ! ปราสาทตาเมือนปะทะหนัก คนไทยเสียชีวิต ส่ง F‑16 ขึ้นฟ้าถล่มฐานเขมร

ปะทะเดือดชายแดนไทย–กัมพูชา “ปราสาทตาเมือนธม” ลุกเป็นจุดไฟสงคราม!ครึ่งวันแรกทหารสองฝ่ายยิงตอบโต้หนัก ใช้ทั้งปืนใหญ่ RPG และจรวด BM‑21คนไทยเสียชีวิตแล้ว 1 ราย เด็กเจ็บ 1 คน อพยพประชาชนกว่า 40,000 ชีวิตไทยส่ง F‑16 ขึ้น 6 ลำ แสดงแสนยานุภาพ ตอบโต้ฐานยิงกัมพูชา “เพื่อปกป้องอธิปไตย”

24 กรกฎาคม 2568 - เมื่อช่วงเช้า พื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณ ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ กลายเป็นจุดปะทะรุนแรงระหว่างกองกำลังทั้งสองประเทศ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินภายในเวลาไม่ถึง 5 ชั่วโมง

เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ได้แจ้งฝ่ายกัมพูชาล่วงหน้าเกี่ยวกับการปิดปราสาทตาเมือนธมต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว ฝ่ายไทยเสริมลวดหนามและกำลังทหารตลอดแนวชายแดน ฝ่ายกัมพูชาไม่ยอมรับการประสาน ส่งทหารพร้อมอาวุธเข้าสู่แนวปะทะ พร้อมใช้ โดรนบินสอดแนมเหนือพื้นที่พิพาท

เวลา 08.20 น. ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่แนวปฏิบัติการของฝ่ายไทย ทหารไทยตอบโต้ทันทีเพื่อป้องกันตนเอง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปะทะที่ลุกลามรวดเร็ว

เวลา 08.45 น. ปืนใหญ่และ RPG จากฝั่งกัมพูชาเริ่มยิงถล่มเข้ามาในพื้นที่ไทย ขณะที่ประชาชนในแนวชายแดนเริ่มทยอยอพยพหนีตายอย่างเร่งด่วน

เวลา 09.05 น. สถานการณ์เลวร้ายลงเมื่อทหารกัมพูชาใช้ จรวด BM‑21 Grad ยิงโจมตีระยะไกลเข้าพื้นที่ไทยโดยตรง มีรายงานว่า ประชาชนไทยบาดเจ็บ 2 ราย และเด็กบาดเจ็บ 1 ราย จากสะเก็ดระเบิด ฝ่ายไทยเร่งตอบโต้ด้วยปืนใหญ่และส่งกำลังเสริมเข้ายึดแนว

เวลา 09.40 น. กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่ามีการล้ำแดนอย่างต่อเนื่องจากฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณ ปราสาทตาควาย ฝ่ายไทยจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้น และมีรายงานว่า คนไทยเสียชีวิต 1 ราย จากเหตุปะทะในพื้นที่ใกล้แนวรบ

เวลา 10.00 น. ฝ่ายไทยตัดสินใจ ส่งเครื่องบินรบ F‑16 จำนวน 6 ลำ จากกองทัพอากาศ ขึ้นบินลาดตระเวนและพร้อมปฏิบัติการตอบโต้บริเวณชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ครอบคลุมพื้นที่สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

การปรากฏตัวของฝูง F‑16 ถือเป็นการแสดงแสนยานุภาพเชิงสัญลักษณ์และยุทธการ เพื่อเตือนให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดยั้งการรุกราน พร้อมทั้งสนับสนุนการยิงตอบโต้ทางภาคพื้นดินจากฝั่งไทย

รายงานระบุว่า F‑16 ของไทยสามารถยิงถล่มฐานยิง BM‑21 ได้อย่างน้อย 2 แห่ง ซึ่งคาดว่าอยู่บริเวณแนวรบใกล้ “ช่องอานม้า” และ “ตาควาย” ทำลายอาวุธหนักของฝ่ายกัมพูชาได้บางส่วน

เวลา 10.30–11.00 น. หน่วยงานฝ่ายปกครองเริ่ม อพยพประชาชนมากกว่า 40,000 คน ออกจากหมู่บ้านชายแดน ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ปฏิเสธว่าไม่ได้เปิดฉากก่อน พร้อมกล่าวหาว่าฝ่ายไทยล้ำแดนและก่อเหตุรุนแรง

ทั้งนี้การใช้ F‑16 และอาวุธหนักของไทยเป็น “การตอบโต้จำเป็น เพื่อปกป้องอธิปไตย” โดยรัฐบาลและกองทัพยืนยันว่าทุกการดำเนินการอยู่ในกรอบของการป้องกันประเทศอย่างชอบธรรม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สดุดีทหารกล้ารายที่ 20 'จ.ส.อ.พรศักดิ์ เอี่ยมสะอาด' พลีชีพที่บ้านหนองจาน ชายแดนสระแก้ว

พ.ต.หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก กกล.บูรพา สูญเสีย ‘ทหารไทย’ เพิ่ม 1 นาย ในพื้นที่ บ.หนองจาน จ.สระแก้ว ภายหลังสถานการณ์กลับมารุนแรง เมื่อวานนี้ (16ธ.ค.) ตั้งแต่ช่วง 14.30 เป็นต้นมา ส่วนยอดบาดเจ็บของกำลังพลทางกองทัพบกจะชี้แจงต่อไป

นายกฯ ลั่นหากกัมพูชาใช้สติ ต้องยอมได้แล้ว ย้ำคำ 'บิ๊กเล็ก' ขอเวลาอีกไม่นาน

นายกฯ ชี้ หากกัมพูชามีสติควรเจรจา ลั่นต้องได้เนิน 350 มอบกองทัพแจงยุทธการช่องอานม้า ย้ำคำ "บิ๊กเล็ก" ขอเวลาอีกไม่นาน เคลียร์สถานการณ์

นาวิกโยธินฯ ยันคุมชายแดนจังหวัดตราดได้เบ็ดเสร็จ กำลังฝ่ายกัมพูชาสิ้นสภาพแล้ว

ผบ.ฉก.นย.ตราด ยันคุมชายแดนได้เบ็ดเสร็จ ลั่นลิดรอนกำลังฝ่ายตรงข้ามจนสิ้นสภาพแล้ว,ฝากถึงพี่น้องชาวตราด อย่ากังวล รออีกสักพักได้กลับบ้าน ขอบคุณชาวตราดที่ให้กำลังใจ

'สีหศักดิ์' ย้ำหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชาต้องเริ่มก่อน

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่สู้รบเข้าสู่วันที่ 10 แล้ว ว่าเราทำในส่วนที่เป็นอธิปไตยของเรา หวังว่าถึงจุด

ในหลวง พระราชทานดินฝังศพแก่พลอาสาสมัคร มุสตากีม พลีชีพช่องอานม้า

”ในหลวง“ พระราชทานดินฝังศพแก่พลอาสาสมัคร มุสตากีม มาเจ๊ะมะ ที่เนิน 677 ช่องอานม้า พร้อมพระราชทานสิ่งของให้กำลังทีได้รับบาดเจ็บ บาดเจ็บ41 นาย และประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจาก บีเอ็ม-21