นายกฯ ยัน 'MOU แรร์เอิร์ธ' ไม่มีอะไรน่ากังวล ฟื้นฟูไทย-สหรัฐใกล้ชิดมากขึ้น ขอทรัมป์ช่วยดูภาษีลดลงอีก

นายกฯ แจงเซ็น MOU แรร์เอิร์ธ อยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญไทย ย้อนถามอ่านหรือยัง อย่าฟังแต่หัวข้อแล้ววิจารณ์ ยัน MOU คือบันทึกความเข้าใจ ไม่ได้ผูกพันธ์อะไร หากวันหนึ่งเข้าใจเป็นอย่างอื่นยกเลิกได้ เชื่อ สามารถพัฒนาเทคโนโลยีไทยได้

27 ตุลาคม 2568 - ตามที่ประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกาทำข้อตกลงผ่าน MOU เรื่องแร่หายาก หรือแรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ร่วมกันระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และนายโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงความกังวลด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม และตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดนายอนุทินถึงลงนามในเรื่องที่ไทยเสียเปรียบ ซึ่งเป็นประเด็นที่อาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นในอนาคต

เมื่อเวลา 14.00 น. (กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เปิดเผยถึงการลงนาม MOU แรร์เอิร์ธ ว่า MOU แรร์เอิร์ธ หมายถึงแร่ธาตุที่หายาก ซึ่งยังเป็นคำศัพท์ที่กว้างอยู่ ไม่ได้เป็นสิ่งที่มีความน่าวิตกกังวลอย่างที่หลายคนคิด เพราะเป็นการลงนามที่ว่าทุกวันนี้แร่ธาตุต่าง ๆ มากมายที่สามารถนำไปผลิตเป็นสินค้าลดต้นทุน และทำให้เกิดประสิทธิภาพ ลดคุณภาพของสินค้าได้ ตอนนี้เราอาจจะยังไม่ได้ลงไปดูอย่างเต็มที่ แต่มีแร่หายากอะไรขึ้นมาแล้วสอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลกในอนาคต ซึ่งสหรัฐอเมริกาอยากขอมีส่วนร่วมในการเข้ามาพัฒนา ซึ่งประเทศไทยเราต้องยินดี เพราะของที่เรามีอยู่แล้ว เรายังไม่ได้พัฒนา แต่องค์ความรู้ของเราไม่เพียงพอ จึงต้องแสวงหาเทคโนโลยีเข้ามา

อย่างไรก็ตามเรามีการระบุไว้อย่างชัดเจนใน MOU ว่า ทุกอย่างจะต้องอยู่ภายใต้ความเป็นธรรม หลักธรรมาภิบาล และภายใต้กฎระเบียบ กฎหมายของไทย ไม่ผิดต่อหลักรัฐธรรมนูญ ซึ่งเงื่อนไขเช่นนี้เป็นเงื่อนไขทั่วไปที่เรายอมรับได้

เมื่อถามว่าหลายคนมีความกังวลต่อการลงนามในครั้งนี้ นายกฯ ย้อนถามว่าอ่านหรือยัง ต้องถามว่าอ่านหรือยัง ก่อนนายกฯกล่าวต่อว่า อย่าไปฟังแต่หัวข้อแล้ววิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว ต้องดูในรายละเอียด หากจะถามรัฐบาลในรายละเอียด ผู้ที่ถามก็ต้องทราบในรายละเอียดด้วย เนื้อหาใน MOU มีวัตถุประสงค์หลักคือการแสวงหาความร่วมมือด้วยกัน เมื่อมีความร่วมมือแล้วก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทย และไม่มีการจำกัดให้ทั้ง 2 ฝ่าย เปิดโอกาสไปหาความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ รวมถึงไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย

เมื่อถึงเวลาอันควร ดูแล้วไม่มีประโยชน์ที่จะเดินหน้ากันต่อไป คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็สามารถยกเลิกข้อสัญญานี้ได้เลย โดยไม่ต้องรับการยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่ง นี่คือ MOU จริง ๆ เพราะว่าชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นบันทึกความเข้าใจ เข้าใจกันอย่างนี้ แต่ไม่ได้ผูกพันอะไร และหากวันหนึ่งเข้าใจเป็นอย่างอื่นก็เลิกแล้วต่อกัน เพราะถ้าจะทำให้เข้มข้นกว่านี้ ต้องทำให้เป็น Agreement ไม่ใช่ Understanding หรือเป็น Agreement Contract หรือ Trearty สนธิสัญญาที่มีการผูกมัดกันทางกฎหมายมากกว่า

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ดังนั้นเรื่องนี้ ไม่มีอะไรน่าห่วง ตนมองว่าการเซ็น MOU แรร์เอิร์ธ หรือแร่หายาก น่าจะเป็นเพียงความพยายามที่จะฟื้นฟูคนที่ห่างกันไปสักพักหนึ่ง ให้มาใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้น เหมือนเป็นการจุดประกายให้นำไปสู่การพูดคุยเรื่องอื่น ๆ เมื่อเราลงนามในปฏิญญา แสวงหาสันติภาพกับกัมพูชา และต่อมาด้วย MOU แรร์เอิร์ธ สิ่งต่อไปที่เราจะพูดคุยกับสหรัฐฯ ซึ่งเราก็เชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทย ซึ่งก็คือเรื่องข้อตกลงทางการค้าที่กระทรวงพาณิชย์ กำลังเจรจากับทางผู้แทนการค้ากับสหรัฐฯ อยู่

อย่างเมื่อตอนที่ตนพบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อลงนามเสร็จก็บอกว่าให้ช่วยพิจารณาสนับสนุนให้ช่วยเรื่องภาษี (Tariff) ลดลงมาอีกได้หรือไม่ หากได้ก็จะเป็นพระคุณ เป็นการตอบแทนความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นมาของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งก็ไม่มีอะไรที่เสียหาย และสร้างความรู้สึกที่ดีต่อกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยึด‘ตาควาย’ได้100%

“นายกฯ” นัดถก สมช. 16 ธ.ค. ย้ำต้องปะทะเพื่อหยุดปะทะ ลั่นพื้นที่ที่เราสถาปนาชัดเจนอยู่แล้วว่าตรงไหนต้องเป็นของเรา

นายกฯหนู กำชับ รมต. อย่าโดดประชุม ครม. พรุ่งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงาน ก่อนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะเดินทางออกจากพรรคภูมิใจไทย หลังจบการประชถมสส. ปรากฎว่านายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ภูมิใจไทยคึกคัก! 'อนุทิน' สวมเสื้อให้ว่าที่ผู้สมัคร สส. อดีตเด็กเพื่อไทยโผล่พรึ่บ

ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตลอดช่วงบ่ายยังคงมีอดีต สส. และนักการเมือง เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรคอย่างคึกคัก อาทิ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีต สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ที่ได้มีการเปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว

'อนุทิน' ลั่นภูมิใจไทยพร้อมทุกขุมกำลัง ก้าวสู่พรรคอันดับหนึ่ง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะถ้าการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าพรรคภูมิใจไทยจะมาเป็นที่ 1 หรือที่ 2 จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาชน นายอนุทิน ตอบว่า รอให้ถึงวันนั้นก่อน ต้องคิดอีกเยอะ