'ส.ส.พปชร.'จี้ผู้ว่าฯกทม.ทำงานเชิงรุกป้องการแพร่โควิดในครอบครัว


เพิ่มเพื่อน    

25 เม.ย.64-น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ในภาวะวิกฤติต้องแยกการดูแลชุมชนแออัด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจนกลายป็นคลัสเตอร์ใหญ่ เพราะเราไม่อยากเห็นการแพร่เชื้อไปยังกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็ก ที่ก็เหมือนลูกหลานของเรา ยกตัวอย่างเด็กน้อยอายุ 1 ปี 10 เดือน และพี่สาวอายุ 12 ปี ได้รับเชื้อโควิด-19 จากผู้ปกครองที่พักอาศัยอยู่ภายในบ้านเดียวกัน ได้รับการเข้ารับการรักษา โดยมีคุณแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดที่โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งต้องขอบพระคุณนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่พยายามประสานช่วยเหลือหาที่รักษาพยาบาลให้เด็กๆทั้ง 2 คน

น.ส.ฐิติภัสร์ ระบุว่า เคสนี้เป็นอีกหนึ่งเคสที่เชื่อว่า หลายๆครอบครัวจะพบกับเรื่องนี้ คือ ติดกันไปมาอยู่ภายในบ้านหลังเดียวกัน เพราะผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ ไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีเชื้อ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็คือ มีข้อบ่งชี้อาการ หรือ สงสัยว่าตัวเองติดเชื้อถึงจะไปตรวจหาเชื้อ หรืออย่างหลายเคสก็มีข้อจำกัดในเรื่องของบ้านพักอาศัย หรือ ห้องพักอาศัยเดียวกัน ไม่มีที่หรือบริเวณเพียงพอที่จะใช้ในการแบ่งพื้นที่สำหรับผู้ที่ต้องการกักตัว

"ขอเสนอท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับไปยังศูนย์สาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร นำข้อมูลผู้ป่วยติดเชื้อจากศูนย์เอราวัณ มาทำงานเชิงรุก เมื่อทราบว่าบ้านไหน ห้องไหน บริเวณไหนมีผู้ป่วยติดเชื้อ ให้ศูนย์สาธารณสุขแต่ละพื้นที่ ลงพื้นที่ไปให้คำแนะนำ วิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องให้กับครอบครัว หรือ ผู้ใกล้ชิดของผู้ติดเชื้อ รวมถึง เพื่อนบ้าน ผู้พักอาศัยที่อยู่ภายในตึกคอนโด - หอพักเดียวกัน เน้นการสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อช่วยให้ประชาชนได้รู้จักดูแลตนเองและครอบครัว"

ส.ส.พปชร.รายนี้ระบุว่า ปัจจุบันประชาชนจำนวนมากต้องเครียดกับข้อมูลจำนวนตัวเลขผู้ป่วยที่มีเพิ่มขึ้นในแต่ละวันแล้ว ยังต้องมาเครียดหนักไปกว่าเดิม หากรู้ว่าคนในครอบครัว คนในที่พักเดียวกัน เพื่อนข้างห้อง หรือ เพื่อนบ้านมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด แต่ไม่รู้ว่าตนเองจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร จะติดต่อใคร ทำไมไม่มีใครมาให้คำแนะนำ โทรหาสายด่วนก็ไม่ว่าง เข้าใจว่าทุกท่านทำงานหนัก ทุกคนก็อยากช่วยกัน ฉะนั้นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน ก็ช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงไปได้บ้าง และยังช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์ไปได้ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังขอย้ำว่าศูนย์สาธารณสุข หรือเจ้าหน้าที่จากศูนย์สาธารณสุข ไม่ใช่ไปโยนให้เป็นภาระของ อสส. อย่างเดียว เพราะ อสส.บางท่านก็เป็นผู้สูงอายุ บางท่านก็มีโรคประจำตัว และก็อาจจะยังไม่ทราบถึงวิธีการที่ถูกต้อง เท่ากับเจ้าหน้าที่ศูนย์สาธารณสุข

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"