'บิ๊กตู่' คุยทูตสหราชอาณาจักร ชมไทยจัดการวัคซีนโควิด เชื่อมั่นเป็นศูนย์กลางอาเซียน


เพิ่มเพื่อน    

6 พ.ค.64 - เวลา 13.30 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายไบรอัน จอห์น เดวิดสัน เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่

โดย น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการหารือว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวในนามรัฐบาลและประชาชนชาวไทย ขอแสดงความเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของดุ๊กแห่งเอดินบะระ เชื่อว่าพระกรณียกิจที่พระองค์ทรงทุ่มเทเพื่อสาธารณประโยชน์จะอยู่ในความทรงจำของทั่วโลกตลอดไป ขอบคุณเอกอัครราชทูตที่ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือที่ดีตลอดช่วงเวลาการดำรงตำแหน่งในไทย

ด้านเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยสำหรับความร่วมมือที่ดีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี และพหุภาคีระหว่างกันเป็นไปด้วยดี เชื่อมั่นว่าไทยและอาเซียนยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก พร้อมที่จะสนับสนุนนักลงทุนจากสหราชอาณาจักรให้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น ในสาขาที่มีศักยภาพร่วมกัน อาทิ ด้านพลังงาน ยานยนต์ไฟฟ้า และอื่นๆ

ทั้งนี้ ขอบคุณที่ไทยตอบรับข้อเสนอเพื่อยกระดับประเทศไทยสู่ 10 อันดับประเทศที่ประกอบธุรกิจง่ายที่สุด (Ten for Ten) เชื่อมั่นไทยจะได้รับความสนใจด้านการลงทุนมากขึ้น อีกทั้ง ชื่นชมแนวทางการทำงานของไทย แนวคิดการจัดการวัคซีนของไทยที่ต้องการให้เป็นยาพื้นฐานที่ทุกคนเข้าถึงได้ ซึ่งวัคซีนแอสตร้าซีเนก้าเป็นวัคซีนที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรเชื่อมั่นและไทยโดยบริษัทสยาม ไบโอไซเอนซ์ เป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ได้รับเลือกเป็นศูนย์กลางการผลิตเเละกระจายวัคซีนโควิดของแอสตร้าซีเนก้า

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูต ยังได้แลกเปลี่ยนแนวทางที่จะเป็นประโยชน์ในการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิด-19 “Build back better” ที่ไทยหวังว่าจากบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า และกลไกสนับสนุนอื่น ๆ ที่ได้ลงนามไป จะนำไปสู่การจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกันโดยเร็ว โดยเชื่อมั่นว่าจากความร่วมมือกับไทยจะส่งผลให้สหราชอาณาจักรสามารถเพิ่มบทบาทในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกมากขึ้น ซึ่งเอกอัครราชทูตเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยที่จะสามารถเป็นสะพานเชื่อมสหราชอาณาจักรกับอาเซียน อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และอินโดแปซิฟิก

ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นสำคัญอื่นๆ อาทิ เรื่องสิ่งแวดล้อม ไทยพร้อมสนับสนุนสหราชอาณาจักรในการเป็นประธานการประชุม COP26 และหวังว่าผลลัพธ์ของการประชุมส่งผลสำคัญต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเด็นสถานการณ์ในเมียนมา สหราชอาณาจักรชื่นชมและเข้าใจในแนวทางปฏิบัติของไทย ที่ได้แสดงออกถึงความห่วงใยต่อประเทศเพื่อนบ้าน การช่วยเหลือประชาชนผู้หนีภัยตามหลักมนุษยธรรม และการสนับสนุนฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"