ช่วงระหว่างนี้...ดูๆ แล้วก็น่าจะยังไม่มีใคร? หน้าไหน? ที่มีฤทธิ์ มีเดช พอที่จะหัก จะโค่น ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ กลิ่นมาดามหอมชื่นใจ ของหมู่เฮาทั้งหลายลงไปได้ ไม่ว่าจะฮึด จะออกเรี่ยว ออกแรง เพียงใดก็ตาม อย่างมาก...ก็คงได้แต่แซะโน่น แซะนี่ หรือเห่าโน่น เห่านี่ กันไปตามสภาพ...

                ------------------------------------------------

            ดังนั้น...การ เดินหน้าประเทศไทย ก็คงพอที่จะดำเนินต่อไปได้ โดยไม่ถึงกับติดๆ ขัดๆ อะไรมาก ความพยายามประดิษฐ์คิดค้นมาตรการต่างๆ นานา ไม่ว่า มาตรการทางการเงิน มาตรการบรรเทาค่าใช้จ่าย ไปจนถึง มาตรการเยียวยาประชาชน ที่ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านได้เนรมิต สร้างสรรค์ ออกมาในช่วงนี้ ก็ต้องถือเป็นเรื่องเหมาะแล้ว ชอบแล้ว ไปด้วยประการทั้งพวง โดยไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลาพูดถึงเรื่องความ ต๊อแต๊-ไม่ต๊อแต๊ เอาเลยก็ยังได้ เพราะโดย หน้าที่ และ ความรับผิดชอบ ของผู้ที่มี อำนาจ สูงสุด ยังไงๆ...จะไปต๊อๆ แต๊ๆ หรือไม่ อย่างไร ก็คง ไม่เหมาะ อยู่แล้วแน่ๆ...

                     ------------------------------------------------

            ส่วนบรรดาผู้ที่อัดอั้น ตันใจ จนต้องหาทางด่า หาทางระบาย อะไรต่อมิอะไรก็ตาม ถ้าหากมันพอช่วยให้สุขภาพทางด้านร่างกาย จิตใจ กระเตื้องขึ้นมาได้บ้าง...ก็เอาเถอะ!!! แต่อย่าถึงขั้นต้องเอาจริง-เอาจัง เป็นงาน-เป็นการ เป็นกระบวนการ หัดเพลาๆ ลงไปมั่ง เถิดนะไอ้เหี้ย ไอ้ห่า ไอ้ฉิบหาย (ตามสำนวนของอาจารย์เหลิม โฆษิตพิพัฒน์) ทั้งหลาย เพราะการด่าว่า ด่าทอ การระบายของเสีย ของโสโครกใดๆ ก็ตาม อย่างมาก...มันคงได้แค่ สะใจ หรือ สะอารมณ์ ตัวเองไปวันๆ ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลกับผู้อื่นมากมายซักเท่าไหร่ หรืออาจก่อให้เกิดผลในด้านตรงกันข้ามกับความปรารถนาและต้องการของสังคมทั้งสังคมในช่วงนี้ ที่มีแต่ต้องอาศัย ความร่วมมือ-ร่วมใจ นั่นแหละ มันถึงจะพอหาทางออก ทางไป และทางรอด ในการต่อสู้และเผชิญหน้ากับท่านเชื้อไวรัสโควิด รวมทั้งสิ่งที่กำลังจะตามมาหลังจากนี้...

                           ---------------------------------------------------

            คือสู้เอาเวลาไปช่วยยังประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น...แม้แต่เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี หรือยังน่าจะ เข้าท่า กว่าเป็นไหนๆ เช่น อาศัยขีดความสามารถในความเป็นคนรุ่นใหม่ ความเชี่ยวชาญชำนาญการในเรื่องอินเทอร์เน็ต แค่ช่วย กรอกข้อมูล ให้กับบรรดาคนแก่ คนรุ่นเก่า ประเภทโลว์เทคและลัดไดต์ทั้งหลาย ที่อาจจะปวดหัว เวียนเฮด กับ แอปพลิเคชัน ต่างๆ นานา อันนี้ก็ต้องถือเป็นบุญ เป็นกุศล เป็น กุศลธรรม อย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย ไม่ว่าต่อตัวเองและผู้อื่น ดีกว่าเสียเวลามานั่งด่าโน่น ด่านี่ ระบายโน่น ระบายนี่ ที่แทบไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา แม้แต่หีดๆ หุ้ยๆ ก็ตาม...

                     ----------------------------------------------------

            หรืออย่างผู้ที่แวะไปเจอภาพถ่าย รูปถ่าย ในโลกโซเชียลมีเดีย ของคุณน้อง หรือคุณหลาน น้องฮอนด้า ที่นั่งกระจ๋องหง่องอยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ หลังจากพามารดาออกมาเตร็ดเตร่ หางานทำ ด้วยการ เดินเท้า นับสิบๆ กิโล จากชุมชนบ้านเซ จังหวัดอุดรธานี ด้วยเหตุเพราะบิดาที่มีอาชีพรับจ้างต้องตกงาน หางานทำไม่ค่อยจะได้ ในยุคที่ท่านเชื้อไวรัสโควิดท่านยังพยายามแพร่ระบาด อย่างไม่คิดจะหัวตกเอาเลยแม้แต่น้อย แล้วเกิดอาการอดรน ทนไม่ได้ ต้องหาทางออก ทางระบายในทางที่ดี ที่ถูกต้อง เหมาะสม ตามแบบฉบับความเป็นไทยๆ ด้วยการแห่ไปให้ความช่วยเหลือ ไปอุปการะ คุณหลาน ฮอนด้า จนน่าจะแฮปปี้เอนดิ้งไปพอสมควร ไปแล้วในทุกวันนี้...

                          --------------------------------------------------

            อันนี้นี่แหละ...ที่น่าจะเป็นอะไรที่เข้าท่า ที่เหมาะ ที่ควร กว่าการหันมาด่าโน่น ด่านี่ หรือแม้กระทั่งหันมา ด่ารัฐบาล ก็เถอะอันเป็นอะไรที่ออกจะด่าง่าย ด่าสบาย โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปหา เหตุผล ใดๆ เอาเลยก็ยังได้ ความ ปากไว ในลักษณะเช่นนี้ มันจึงถือเป็น ธรรมชาติ ในอีกลักษณะหนึ่งที่คงมิอาจปฏิเสธได้ แต่ในยุคที่ยังไม่มีอินเทอร์หน่ง อินเทอร์เน็ต มันคงไม่ถึงกับเป็นเรื่องหนักหนา-สาหัส มากมายซักเท่าไหร่ เพราะไม่ว่าจะด่าแบบไหน อย่างไร ส่วนใหญ่...มันมักจางหาย วูบหาย ไปจากวงเหล้า วงซุบซิบนินทากาเล โดยไม่จำเป็นต้องเก็บมาคิดมาก หรือคิดเล็ก-คิดน้อย แต่อย่างใด...

                        ---------------------------------------------------

            แต่ในเมื่อโลกยุคนี้ สมัยนี้ มันดันมีมือถือ มีอินเทอร์เน็ต เป็น อาวุธประจำกาย กันคนละด้าม-สองด้าม การด่าว่า ด่าทอ ในลักษณะที่ว่านี้ มันเลยสามารถแปรสภาพ สามารถหยิบเอาไปแปรรูป แปรร่าง ให้กลายเป็นเรื่อง-เป็นราว เป็นระบบ และเป็นกระบวนการได้เสมอๆ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ...สามารถนำไป โหน จนการด่า การว่า ใดๆ ก็ตาม อาจถูกแปรสภาพไปสู่การทำร้าย ทำลาย สังคมทั้งสังคมได้ไม่ยาก กลายเป็นการเบียดเบียนผู้อื่นทั้งในระดับลึก ระดับกว้าง หรือถึงขั้นกลายเป็นตัวบั่นทอนประสิทธิภาพ ศักยภาพ ของผู้ซึ่งกำลังเพียรพยายามช่วยเหลือ ปกป้อง คุ้มครองใครต่อใคร จนแทบไม่เหลือเวลามาด่าใคร เชียร์ใคร เอาเลยแม้แต่น้อย หนักซะยิ่งกว่า มือไม่พาย-แต่เอาส้นตีนราน้ำ ไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเท่า...

                           ------------------------------------------------

            ด้วยเหตุนี้...แทนที่จะไปประกอบ อกุศลกรรม ไปตามความสะใจ สะอารมณ์ของตัวเองไปวันๆ สู้หันมาแสดงออกถึงความมุ่งมั่น ความเพียรพยายาม ในการประกอบ กุศลกรรม ตามแบบฉบับไทยๆ หรือตามความเป็นไทย น่าจะเหมาะกว่า น่าจะเข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ เพราะอย่างน้อย...หลังจากที่ตายโหง ตายห่า กันไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากยังคิด ย้ายประเทศ หรือคิดจะย้ายที่เกิดใหม่ หรือไม่ อย่างไรก็ตามที ยังอาจพอได้อาศัย กุศลกรรม ในแบบที่ว่านี่แหละ เป็นพาสปอร์ต วีซ่า เป็นทางออก ทางไป ได้มั่ง แต่ถ้าหากยังเอาแต่คิดประกอบ อกุศลกรรม อย่างไม่คิดจะลด-ละ-เลิก ไม่คิดจะเพลาๆ ลงไปมั่งเลย โอกาสที่จะย้ายจากประเทศไทย แล้วดันต้องไปโผล่อยู่ใน ขุมนรก ขุมที่เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ก็ยังมิอาจคาดคะเนได้ มันอาจเป็นเรื่อง-เป็นราว เป็นจริง-เป็นจริงขึ้นมาเอาเลยก็ไม่แน่!!!

                   ----------------------------------------------------

            ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก Anon ... “Love is heaven; hate is hell. – ความรักคือสวรรค์ ความเกลียดชังคือนรก!!!”.

                 -------------------------------------------------