SCC ทุ่ม 173,000 ล้านบาท ลงทุนกิจการปิโตรเวียดนาม


เพิ่มเพื่อน    

SCC ลงทุน 173,000 ล้านบาท ปิโตรเวียดนาม พร้อมถือหุ้น 100% คาดเปิดเชิงพาณิชย์ตามแผนปี 66

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (เอสซีซี) เปิดเผยว่า บริษัทวีนา เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (วีเอสซีจี) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในธุรกิจเคมิคอลส์ของบริษัท ได้ลงนามในสัญญากับ เวียดนาม ออย แอนด์ แก๊ซ กรุ๊ป (ปิโตรเวียดนาม) เพื่อซื้อหุ้นสัดส่วน 29% ใน ลอง ซอง ปิโตรเคมิคอลส์ จำกัด (แอลเอสพี) ที่ราคา 2,900 ล้านบาท โดยคาดว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปลายเดือน มิ.ย.61 ส่งผลให้บริษัทจะถือหุ้นโดยอ้อมในแอลเอสพีเพิ่มขึ้นจาก 71% เป็น 100%

ทั้งนี้ สัดส่วนการถือหุ้น 100% แบ่งเป็น บริษัทวีนา เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด สัดส่วน 82% และบมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ สัดส่วน 18% เท่าเดิม โดยในส่วนทุน 40% ของเงินลงทุนรวมเอสซีซีในโครงการมูลค่า 5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 173,000 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นจาก 53,392 ล้านบาท ที่เคยแจ้งไว้จากเดิมเป็น 70,000 ล้านบาท เนื่องมาจากการเข้าถือส่วนทุนที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับโครงการนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการด้านวิศวกรรม จัดหาและก่อสร้าง (แอลพีซี) ได้ภายในไตรมาส 3 ปี 61 และจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามแผนในช่วงครึ่งแรกของปี 66 โดยรัฐบาลเวียดนามยังคงให้การสนับสนุนโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการให้สิทธิพิเศษในโครงการแอลเอสพีดังเดิม

นายสุรชัย ประมลเจริญกิจ นักวิเคราะห์กลุ่มวัสดุก่อสร้าง บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กล่าวว่า การเข้าไปลงทุนปิโตรเวียดนามของ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งการใช้เงินลงทุน 173,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นเงินกู้ 60% และเงินทุน 40% โดยเงินทุนในส่วน 40% จะเป็นจำนวน 69,000 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 5 ปี เฉลี่ยปีละ 13,000 ล้านบาท ซึ่งปกติปูนซิเมนต์ไทยมีเป้าหมายเงินลงทุนปีละ 50,000-60,000 ล้านบาท  ทำให้ครั้งนี้ไม่ต้องเพิ่มทุน ไม่เป็นภาระต่อบริษัท และไม่กระทบการจ่ายเงินปันผล

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 61 บริษัทคาดว่ายอดขายรวมปีนี้ อาจเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 5-6% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่ากว่า 10% ทำให้ยอดขายจากการส่งออกลดลง ซึ่งการส่งออกมีสัดส่วนกว่า 40% จากยอดขายรวม แต่บริษัทได้ดำเนินนโยบายเน้นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยลดทอนผลกระทบจากค่าเงินได้พอสมควร โดยสัดส่วนสินค้าดังกล่าวเพิ่มเป็น 44% จากปีก่อนอยู่ที่ 39%

นอกจากนี้ บริษัทไม่มีแผนเพิ่มนโยบายการประกันความเสี่ยงค่าเงิน จากปัจจุบันไม่เกิน 50% เพราะไม่สามารถควบคุมได้ และปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ส่วนปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนรวม 50,000-60,000 ล้านบาท เช่น โครงการปิโตรคอมเพล็กซ์เวียดนาม, ลงทุนด้านวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจแบบดิจิทัลด้วย ส่วนงบลงทุนที่เหลือจะใช้สำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตไลน์การผลิตเดิม เป็นต้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"