"ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์"หญิงแกร่ง นำทัพสยายปีกรุกนิคมฯเสริมทัพสิงห์เอสเตท


เพิ่มเพื่อน    

นับจากเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้มีการประกาศเลื่อนตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด โดย ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อสานต่อภารกิจในการขับเคลื่อนสิงห์ เอสเตท เดินหน้าสู่เป้าหมายก้าวต่อไปอย่างต่อเนื่องและมั่นคง

โดยเป้าหมายใหญ่ของสิงห์ เอสเตท คือ การสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอย่างมั่นคง และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ด้วยกลยุทธ์การบูรณาการธุรกิจต่างๆ ที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ทั้งกลุ่มธุรกิจที่เป็นแกนหลักมาแต่เดิม และกลุ่มธุรกิจใหม่ของสิงห์ เอสเตท พร้อมมุ่งเดินหน้าสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว หรือที่ 20,000 ล้านบาทภายในเวลา 3 ปี
    

จากเป้าหมายดังลกล่าวนั้น ฐิติมา เล่าว่า เมื่อไม่นานมานี้ สิงห์ เอสเตท เพิ่งเข้าไปลงทุนในโรงไฟฟ้า 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าและพลังงานความร้อนร่วม ของบริษัท อ่างทอง เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ ฟู๊ด วัลเลย์ ไทยแลนด์ จังหวัดอ่างทอง กำลังการผลิตอยู่ที่ 123 เมกะวัตต์ และอีก 2 โรงไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้าง บี.กริม เพาเวอร์ (ราชบุรี) 1 และ บี.กริม เพาเวอร์ (ราชบุรี) 2 โดยจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่โรงงานละ 140 เมกะวัตต์
    

"การเข้าลงทุนซื้อนิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ ฟู๊ด วัลเลย์ ไทยแลนด์ ในครั้งนี้ จะเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นหนึ่งที่สำคัญในการเดินหน้าสู่เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของสิงห์ เอสเตท ที่ต้องการสร้างจุดแข็งที่ทรงพลังให้กับธุรกิจ จากการส่งเสริมซึ่งกันและกันของกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่หลากหลายของสิงห์ เอสเตท เพื่อทำให้มีความแข็งแกร่งในการแข่งขัน และทำให้ธุรกิจของสิงห์ เอสเตท มีความเป็น Resilient Business" ฐิติมา กล่าวย้ำ
  

 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด สิงห์ เอสเตท ได้ลงนามในข้อตกลงเข้าซื้อหุ้น 100% ของบริษัท ปาร์ค อินดัสตรี จำกัด จากบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ ซึ่งปาร์ค อินดัสตรี นั้นเป็นเจ้าของนิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ ฟู๊ด วัลเลย์ ไทยแลนด์ มีเนื้อที่ 1,790 ไร่ ตั้งอยู่ใน จ.อ่างทอง ฐิติมา เล่าว่า เป็นการผสานธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมเข้ากับธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้า จะสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจของบริษัททั้งในด้านการเงินและการดำเนินงาน เพราะนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้เน้นสินค้าอาหารโดยเฉพาะ ทำให้มีความต้องการใช้ไอน้ำจากผู้ประกอบการแปรรูปอาหารต่างๆ ในนิคมฯ ซึ่งโรงไฟฟ้าของเรา ก็เป็นผู้ผลิตไอน้ำที่ใช้ได้ในอุตสาหกรรมอาหารด้วย นอกจากนั้นกิจการโรงไฟฟ้ายังช่วยให้เรามีรายได้อย่างต่อเนื่อง และมีกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงในเรื่องความไม่แน่นอนของกระแสเงินสดจากการขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม
    

ฐิติมา ยังบอกอีกว่า นอกเหนือจากกลยุทธ์ที่บอกแล้ว ยังมองเห็นอนาคตที่สดใสของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทย เพราะอัตราการเข้าใช้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของทั้งประเทศนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 80% ณ ช่วงสิ้นปีของปีที่แล้ว ในขณะที่ภาคกลางของประเทศไทยมีอัตราการเข้าใช้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในระดับสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 89% อีกด้วย
    

ขณะเดียวกัน นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ยังมีความสำคัญตามนโยบายการขับเคลื่อนประเทศที่มุ่งยกระดับประเทศไทยให้เป็นครัวของโลก และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารชั้นนำของโลก โดยทำเลที่ตั้งของนิคมฯ แห่งนี้ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีความเหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหาร เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางห่วงโซ่อุปทานอาหารและวัตถุดิบของประเทศ ทั้งแหล่งสำคัญในการผลิตข้าว ผลิตภัณฑ์จากนมและสัตว์ปีก นอกจากนี้ยังมีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์เนื่องจากอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย  
    

ฐิติมา ย้ำอีกว่า “อุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร เป็นหนึ่งในภาคอุตสาหรรมที่มีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนเข้ามาในอัตราที่เติบโตรวดเร็วที่สุด โดยภาคกลางของประเทศไทยมีสัดส่วนของการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนประมาณครึ่งหนึ่งของการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งหมดในปี 2563 ดังนั้นคาดการณ์ว่า ความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น เมื่อมีการผ่อนปรนมาตรการความเข้มงวดในการเดินทางหลังการคลี่คลายของวิกฤติโควิด-19
    

จะเห็นได้ว่า ภายใต้การบริหารงานของ “ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์” นั้น ได้เดินหน้าต่อจิ๊กซอว์สำคัญๆ ให้กับสิงห์เอสเตทมาอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าการลงทุนด้านพลังงานด้วยการเข้าไปถือหุ้นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้ง 3 แห่ง ต่อด้วยการเข้าซื้อนิคมอุตสาหกรรม นับเป็นการการันตีถึงความก้าวหน้าและการขยายอาณาเขตของธุรกิจให้กว้างยิ่งขึ้น มั่นคงยิ่งกว่า และมีผลตอบแทนที่ดี จากก่อนหน้านี้ที่มีทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ โรงแรมและรีสอร์ต โครงการที่พักอาศัยที่เป็นฐานมั่นคงอยู่แล้ว.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"