ใส่ท่อช่วยหายใจ415รายป่วยหนักพุ่ง


เพิ่มเพื่อน    

 

ไทยติดเชื้อโควิดพุ่ง 3,095 ราย ในเรือนจำ 877 ราย ผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มเป็น 1,234 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 415 ราย เสียชีวิต 17 คน ยอดผู้ป่วยรวมใกล้ทะลุแสนคนแล้ว ขณะที่กรมราชทัณฑ์แจงมีผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่มอีก 1,219 คน

    เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,095 ราย โดยแบ่งเป็นติดเชื้อใหม่ 2,218 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 877 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 99,145 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 1,351 ราย สะสม 63,667 ราย กำลังรักษาอยู่ 34,913 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 21,579 ราย และโรงพยาบาลสนาม 13,334 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มเป็น 1,234 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 415 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย รวมเสียชีวิต 535 คน
    ผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 3,095 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,403 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 812 ราย จากเรือนจำที่ต้องขัง 877 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 3 ราย
    สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 17 ราย เป็นชาย 9 ราย หญิง 8 ราย อายุน้อยสุด 41 ปี อายุมากสุด 83 ปี อยู่ใน กทม. 8 ราย, สมุทรปราการ 3 ราย, สมุทรสาคร 2 ราย, ระยอง ชัยภูมิ ปทุมธานี ราชบุรี จังหวัดละ 1 ราย ส่วนมากมีโรคประจำตัว ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 คือจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อที่เป็นคนในครอบครัว บางรายนานถึง 2 สัปดาห์ถึงเสียชีวิต และนานที่สุด 29 วัน
    แนวโน้มการพบผู้ป่วยในเรือนจำยังคงมีพบผู้ป่วยเพิ่มเติม เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ ภายนอกยังคงพบผู้ป่วยแนวโน้มทรงตัว แต่ยังสูง สำหรับการดูแลผู้ป่วยในเรือนจำยังคงเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ ความสำคัญจึงอยู่ที่ในการรักษา ควรมีการดูแลเบ็ดเสร็จภายในเรือนจำ
    10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ วันที่ 15 พ.ค.2564 คือ 1. กรุงเทพมหานคร 1,163 ราย 2.ปทุมธานี 222 ราย 3.สมุทรปรการ 201 ราย 4. นนทบุรี 126 ราย 5.สมุทรสาคร 37 ราย 6.สุราษฎร์ธานี 34 ราย 7.ชลบุรี 33 ราย 8.นครปฐม 30 ราย 9.พระนครศรีอยุธยา 29 ราย 10.นครราชสีมา 24 ราย
    ในส่วนของทั้งประเทศพื้นที่สีขาว 16 จังหวัด ตัวเลขเป็น 0 ไม่พบผู้ติดเชื้อ ได้แก่ ลำพูน, มหาสารคาม, สุรินทร์, ตราด, ตาก, กำแพงเพชร, ชุมพร, พะเยา, เลย, ชัยนาท, แม่ฮ่องสอน, หนองบัวลำภู, บึงกาฬ, อุทัยธานี และสตูล
    ผู้ติดเชื้อใน กทม.และปริมณฑล รวมกัน 1,779 ราย แนวโน้มการระบาดของโรคไม่ลดลง ในจังหวัดอื่น มีแนวโน้มการระบาดที่ลดลง ตอนนี้พบ 436 ราย ยังพบผู้ป่วยหนักและใช้ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้น รวมถึงการครองเตียงผู้ป่วยอาการน้อย (Mild symptoms) โดยเฉพาะ กทม.และปริมณฑล สถานที่เสี่ยงมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ กทม. ชุมชนแออัด แคมป์ก่อสร้าง สถานประกอบการ (Call center) พื้นที่ปริมณฑล ตลาด โรงงาน และชุมชน ในต่างจังหวัด โรงงาน ชุมชน ครอบครัว ปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อ สถานที่แออัด การทำกิจกรรมรวมกลุ่ม สถานประกอบการ/ที่ทำงาน และในครอบครัว
    ขณะที่ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกเดือนเมษายน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 เป็นต้นมา พบผู้ติดเชื้อแล้ว 70,282 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบในระบบเฝ้าระวังและบริการ 54,523 ราย ตรวจพบจากการค้นหาคัดกรองเชิงรุก 11,521 ราย เรือนจำ/ที่ต้องขัง 3,895 เดินทางมาจากต่างประเทศ 343 ราย เสียชีวิตสะสม 471 ราย
ผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่ม 1,219 คน
    กรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์ชี้แจง ยอดผู้ติดเชื้อจากการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อแบบเชิงรุกแบบ 100% โดยเฉพาะในเรือนจำและทัณฑสถานในกลุ่มลาดยาวที่เป็น พื้นที่เสี่ยงสูง พบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก จำนวน 1,219 คน ใน 3 เรือนจำ ประกอบด้วย เรือนจำกลางคลองเปรม (510 คน), เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (88 คน) และเรือนจำพิเศษธนบุรี (621 คน) (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2564) ทั้งนี้ เป็นผู้ต้องขังกลุ่มสีแดงที่มีการส่งตัวรักษาโรงพยาบาลภายนอกจำนวน 6 ราย ที่เหลือเกือบทั้งหมดเป็นผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย
    กรมราชทัณฑ์ขอเรียนยอดผู้ติดเชื้อที่พบในเวลานี้ สืบเนื่องจากการเร่งตรวจเชิงรุกในผู้ต้องขังแบบ 100% ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการบับเบิลแอนด์ซีลทั่วประเทศ
    อีกทั้งความสามารถในการตรวจหาเชื้อที่ดำเนินการได้ในปริมาณมากขึ้น จากการสนับสนุนของสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ โรงพยาบาลแม่ข่าย รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่ได้ร่วมตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR เพื่อแยกกลุ่มเป้าหมายที่ติดเชื้อและกลุ่มที่ยังไม่ติดเชื้อแยกจากกัน จนสามารถตรวจแล้วเสร็จ 100% ในระยะเวลารวดเร็ว ก่อนที่จะรายงานข้อมูลทั้งหมดไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ?หรือ ศบค.
    ต่อจากนี้ กรมราชทัณฑ์จะดำเนินการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นใน 2 กรณี คือ 1. การติดเชื้อจากเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ ซึ่งต้องตรวจหาเชื้อทุก 14 วัน พร้อมทั้งเฝ้าระวังไม่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง รวมถึงครอบครัวด้วย 2.การติดเชื้อจากผู้ต้องขังเข้าใหม่ ผู้ต้องขังไปโรงพยาบาล และผู้ต้องขังออกศาล ได้เพิ่มระยะเวลาในการกักตัวจากเดิม 14 วัน เป็น 21 วัน โดยต้องตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง ก่อนเข้าห้องแยกกักโรค และก่อนครบระยะกักตัว
    นอกจากนี้ ยังได้หาแนวทางต่างๆ เพื่อลดจำนวนผู้ต้องขังเข้าใหม่ ตลอดจนเน้นการไต่สวนผ่านระบบ Conference เพื่อหลีกเลี่ยงการส่งผู้ต้องขังไปศาล รวมทั้งเร่งจัดหาวัคซีนป้องกันเชื้อแก่เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง โดยขณะนี้เริ่มฉีดวัคซีนแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในเรือนจำส่วนใหญ่แล้ว สำหรับผู้ต้องขังจะเริ่มต้นในกลุ่มผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว จนครอบคลุมผู้ต้องขังทุกรายในที่สุด
    กรมราชทัณฑ์ได้แต่งตั้งคณะทำงานศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ (ศกค.รท.) เพื่อเป็นการรับมือแก้ไขและจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะทำให้กรมราชทัณฑ์สามารถดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเร่งประสานไปยังโรงพยาบาลแม่ข่าย การเตรียมความพร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม และสำรองยาที่ใช้รักษาให้เพียงพอ โดยยึดหลักความเท่าเทียมในด้านการรักษาพยาบาลอย่างเสมอภาค
    อนึ่ง กรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่า ไม่ได้มีการปกปิดข้อมูลผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด ที่ผ่านมาจำเป็นต้องรอการรวบรวมเพื่อยืนยันยอดหลังตรวจครบ 100% ก่อนรายงาน ศบค. ซึ่งในระหว่างนั้นก็มีกระบวนการรักษาผู้ติดเชื้อตลอดเวลา และหากรายใดต้องการแจ้งให้ญาติทราบ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดำเนินการแจ้งเป็นการเฉพาะอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้ต้องขังว่าต้องการแจ้งญาติหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากญาติมีความกังวลใจ สามารถติดต่อสอบถามที่เรือนจำและทัณฑสถานที่ผู้ต้องขังถูกคุมขังอยู่ได้ โดยสามารถค้นหาช่องทางติดต่อได้ที่ Line ID @thaidoc
    สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี รายงานว่า ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 33 คน รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,644 คน ผู้เสียชีวิต 2 ราย รวมผู้เสียชีวิต 13 ราย.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"