ไปฉีดวัคซีนกันเถอะ


เพิ่มเพื่อน    

     บางเรื่องไม่น่าจะเป็นเรื่อง ก็เป็นเรื่อง

            บางเรื่องไม่ควรเป็นเรื่อง กลับถูกทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต

            ก็เรื่อง ฉีด ไม่ฉีด วัคซีนโควิด-๑๙ นี่แหละครับ

            กฎหมายบังคับไม่ได้ครับว่าจะต้องไปฉีด

            และถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะเลือกว่าจะฉีดหรือไม่ฉีด

            ฉะนั้นจึงเห็นคนจำนวนหนึ่งยืนกราน จะไม่ฉีดวัคซีน

            วานนี้ คุณหมอโอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นำผลโพลของกรมควบคุมโรค DDC Poll  Online ที่สำรวจ ระหว่างวันที่ ๒๙ เมษายน - ๑๓  พฤษภาคม ๒๕๖๔ จำนวน ๕,๐๕๖ คน

            พบว่า ร้อยละ ๖๐.๔ อยากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด

            ร้อยละ ๑๘.๑ ไม่แน่ใจ

            ร้อยละ ๙.๘ เฉยๆ

            มีเพียงร้อยละ ๑๑.๗ ที่ไม่อยากฉีด

            เหตุผลที่อยากฉีดวัคซีน มากที่สุดคือป้องกันการติดเชื้อ คิดเป็นร้อยละ ๔๕.๙

            ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงร้อยละ ๒๖.๕

            ลดอัตราการเสียชีวิตเพราะมีโรคประจำตัวร้อยละ ๘.๒

            กลับไปทำงานตามปกติร้อยละ ๔.๕

            เดินทางไปต่างประเทศ ร้อยละ ๒.๓

            เสียดายนิดนึงครับ ไม่ได้สำรวจกลุ่มไม่ยอมฉีดวัคซีนว่ามีเหตุผลอะไร

            ก็อาจจะมีบางคนอยู่ในข่ายฉีดวัคซีนบางชนิดไม่ได้  เช่นอายุต่ำเกินไป สูงเกินไป มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีปัญหาสมองหรือระบบประสาท ฯลฯ ก็ว่ากันไป

            แต่กลุ่มไม่ฉีดเพราะต่อต้าน กลุ่มนี้ก็รู้ว่าเป็นพวกไหน

            อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นครับว่า กฎหมายไปบังคับให้ฉีดวัคซีนไม่ได้ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน มันขึ้นกับความสมัครใจ

            แต่สิทธิย่อมมาพร้อมกับหน้าที่ 

            หน้าที่รับผิดชอบต่อส่วนรวม คือสิ่งจำเป็นในยามประเทศอยู่ในวิกฤติ ไม่ว่าจะวิกฤติใดก็ตาม

            จุดประสงค์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด คือฉีดให้มากเข้าไว้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

            ถ้ามีคนไม่สนใจ ไม่ยอมฉีด เพราะเอาเรื่องการเมืองมาผสมปนเปกับการสู้กับโรคภัยที่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทั้งชาติ และรวมถึงพลเมืองของโลกทั้งใบ ก็ดูเป็นการเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ ที่ใช้สิทธิของตัวเองจนแยกแยะสรรพสิ่งไม่ออก

            มีเยอะครับบอกว่า ไม่ต้องการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์

            จะยอมควักกระเป๋าตัวเองเพื่อฉีด ไฟเซอร์ โมเดอร์นา  ที่โรงพยาบาลเอกชนจะนำเข้ามา

            เหตุผลแอนตี้ สยามไบโอไซเอนซ์ ก็อย่างที่รู้กันอยู่ มีการบิดเบือนข้อมูล มาเป็นระยะๆ จนฝังหัว เห็นขี้มูกเป็นเต้าส่วน

            ต้นตอการบิดเบือน ไม่เคยออกมารับผิดชอบ แถมยังยกก้นกันเองว่า มองอนาคตแม่นกว่านอสตราดามุส

            ถุย!

            มีคุณหมอหลายท่านพยายามออกมาพูดเรื่องทำไมต้องฉีดวัคซีน บางท่านลงลึกไปถึงประเด็น ฉีดวัคซีนตัวไหนดี

            เพราะไทยคงเป็นไม่กี่ประเทศในโลกนี้ หรืออาจเป็นประเทศเดียว ที่ยี่ห้อวัคซีนถูกแบ่งโดยความชอบไม่ชอบทางการเมือง

            จริงอยู่ครับเป็นสิทธิที่จะเลือกว่าจะฉีดวัคซีนยี่ห้อไหนก็ได้ แต่ควรมาจากข้อมูลที่ได้มาอย่างตรงไปตรงมา ฝ่ายรัฐต้องชี้แจงกับประชาชนถึงผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนอย่างตรงไปตรงมา

            นักการเมือง ควรรู้จักขอบเขตของการเมือง อย่าทำตัวเป็นผู้รู้มากกว่าหมอ เพราะสุดท้ายจะกลายเป็นหมา

            เมื่อวันเสาร์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.เพื่อไทย  เล่าว่าฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว เป็นวัคซีนของซิโนแวค

                "โชคดีที่หลังฉีดไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เกิดขึ้น เชื่อว่านาทีนี้คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจำนวนมากคงอดคิดไม่ได้ว่า เมื่อถึงคิวที่ตัวเองไปฉีดวัคซีนจะมีอันตรายหรือผลข้างเคียงตามที่สื่อมวลชนประโคมข่าวอยู่ทุกวันหรือไม่

                ผมไม่โทษใครทั้งสิ้น เพราะข่าวสารต่างๆ ที่หลั่งไหลออกมา ย่อมทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งไม่กล้าไปฉีดวัคซีน แต่ในฐานะของฝ่ายบริหารที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง ผมคงต้องกล่าวโทษผู้นำประเทศ ที่ท่านแทบไม่เคยออกมาพูด หรือทำความเข้าใจกับประชาชนให้เข้าใจและมั่นใจในเรื่องนี้เลย ผมเองก็ถามตัวเองอยู่หลายครั้งว่าผมไม่เชื่อมั่นในวัคซีน หรือไม่เชื่อมั่นในตัวผู้นำประเทศกันแน่"

            ดีครับที่คุณอนุดิษฐ์พูดเรื่องนี้

            และคุณรู้ใช่หรือไม่ว่า ข่าวที่สื่อมวลชนประโคมนั้นมาจากไหน

            ส่วนใหญ่เป็นเฟกนิวส์

            และหลายต่อหลายข่าวคือคำพูดที่ออกมาจากโฆษกพรรคเพื่อไทย

            พูดกันแฟร์ๆ...ที่ผ่านมาใครบ้าง โจมตีวัคซีน ซิโนแวค ว่าไม่มีคุณภาพ แอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนของเหลือ ที่ประเทศอื่นไม่ฉีดแล้ว

            มันปากถึงกับบอกว่า ขยะของเขาคือสมบัติของเรา

            สามกีบ ก้าวไกล ก้าวหน้า เพื่อไทย นี่คือกลุ่มหลักที่โจมตีวัคซีนหลักของไทยทั้ง ๒ ยี่ห้อ

            ขณะเดียวกัน ส.ส. ๒ พรรคนี้ก็ฉีด วัคซีน ซิโนแวค ไปเกือบจะทั้งหมดแล้ว

            นี่คือข่าวจริงไม่ใช่ข่าวเท็จ

            ฉะนั้นถ้าจะให้โทษ...จะโทษใคร

            โทษ "ลุงตู่" ที่วันๆ เอาแต่บอกให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนเสียงแหบเสียงแห้งอย่างนั้นหรือ

            มีครั้งไหนบ้างที่รัฐบาลบอกว่า อย่าฉีดวัคซีน เพราะอาจตายได้

            ถ้าจะให้รัฐบาลรับผิดชอบเพราะเฟกนิวส์ทำให้ประชาชนไม่กล้าฉีดวัคซีน เป็นเรื่องดีเลยครับ ฟันโฆษกพรรคเพื่อไทยก่อนเป็นอันดับแรก

            มาดูเรื่องที่เป็นสาระกันดีกว่า....มีเหตุผลอะไรบ้าง ที่ต้องไปฉีดวัคซีน

            คุณหมอวัฒนพงศ์ สุภามงคลชัยกุล จากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี มี ๓ คำถามง่ายๆ ให้แต่ละคนตอบ

                ....คำถามที่ ๑ คุณหรือญาติที่อาศัยบ้านเดียวกัน มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะติดหรือแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่

                คำถามที่ ๒ ถ้าป่วยขึ้นมาคุณหรือเพื่อนหรือญาติที่อาศัยบ้านเดียวกัน มีโอกาสที่จะป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาหรือไม่

                คำถามที่ ๓ คุณเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากวัคซีนน้อย ใช่หรือไม่

                โอกาสเสี่ยงสูงที่จะติดหรือแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา คือ 

                 อาชีพหรือลักษณะงานหรือลักษณะการใช้ชีวิตดังต่อไปนี้

                บุคลากรทางการแพทย์

                ทำงานในสถานที่ที่มีผู้คนมากมาย เช่น ตลาด ห้าง  สถานีขนส่ง คนส่งของ สนามบิน โรงเรียน

                ทำงานในสถานที่ปิดระบบถ่ายเทอากาศไม่ดี แออัด  เช่น ผับ เธค ร้านอาหารแบบปิด

                ถ้าป่วยขึ้นมาคุณหรือญาติในครอบครัว มีโอกาสที่จะป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาหรือไม่

                คุณเป็นคนที่มีความเสี่ยงต่อการนำเชื้อไปแพร่กระจายให้ผู้อื่นหรือบุคคลในบ้าน ซึ่งอาจจะทำให้ผู้สูงอายุในบ้านของท่านป่วยหนักหรือเสียชีวิตได้

                การฉีด Vaccine ของท่านไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อคนที่รัก เพราะการเสียชีวิตจากโควิด เป็นการเสียชีวิตที่เศร้าและโดดเดี่ยวมาก เหมือนน้าค่อม วินาทีหลังจากรถพยาบาลมารับ ทั้งญาติและน้าค่อม จะไม่ได้เจอกันแบบตัวเป็นๆ อีก

                ไม่มีโอกาสได้ร่ำลา หรือสั่งเสีย ไม่มีโอกาสได้ดูใจ และต้องจากไปอย่างโดดเดี่ยว

                มาเจอกันอีก คือหลังจากฌาปนกิจเสร็จ เหลือเพียงอัฐิไว้ดูต่างหน้า

                ดังนั้นการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันไม่ให้เอาเชื้อไปให้คุณพ่อคุณแม่หรือลูกของคุณ โดยแลกกับความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยของตัวคุณ....

            ครับ...ผมขอสรุปไปฉีดวัคซีนกันเถอะครับ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"