พม่า...กับ “สงครามกลางเมือง”???


เพิ่มเพื่อน    

 ไม่ได้แวะไปกิน กาแฟดำ มาสักพักใหญ่ๆ...เลยไม่รู้ว่าไปถึงไหนมั่งแล้ว!!! สำหรับเรื่องพม่า หรือเมียนมา แต่เท่าที่หันไปฟังบรรดาสำนักข่าวต่างประเทศ โดยเฉพาะ เอเชียไทมส์ออนไลน์ (Asiatimes.com) ที่สำนักข่าว เอเอสทีวี ผู้จัดการ เขาเสนอบริการแปล เรียบเรียง และถ่ายทอดเอาไว้อย่างสม่ำเสมอ โอกาสที่ความวุ่นวายระส่ำระสายทั้งหลาย มันอาจลุกลาม ลามปาม มาถึงประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ที่ อมเชาวริน เอาไว้ประมาณ 2 ด้าม 3 ด้าม น่าจะมีสิทธิ์เป็นไปได้ยิ่งเข้าไปทุกที...

                        --------------------------------------------

คืออย่างน้อย...คอลัมนิสต์ระดับอดีตทูตอินตะระเดีย อย่างท่าน เอ็ม.เค. ภัทรกุมาร (M.K. Bhadrakumar) และอดีตเหยี่ยวข่าวรุ่นเก๋าชาวสวีเดน ระดับเกล็ดแตกลายงาไม่น้อยไปกว่าคุณน้าอาเฮีย สุทธิชัย หยุ่น ของหมู่เฮา อย่างนาย เบอร์ทิล ลินต์เนอร์ (Bertil Lintner) ได้ออกมาแสดงความคิด ความเห็น วิเคราะห์เจาะลึก ไปในลักษณะคล้ายๆ กัน ถึงความเป็นไปได้ของ สงครามกลางเมือง ที่อาจอุบัติขึ้นมาในประเทศพม่า ในอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล ชนิดอาจพอๆ กับ สงครามซีเรีย เอาเลยก็ไม่แน่!!!

                        -------------------------------------------

ของท่าน เอ็ม.เค. ภัทรกุมาร นั้น...ท่านว่าเอาไว้ด้วยเรื่อง India will be frontline state in Myanmar’s civil war ที่สำนักข่าว ผู้จัดการ เขานำมาแปลและถ่ายทอดเอาไว้ในชื่อเรื่อง "กรุ่นกลิ่นอายสงครามกลางเมืองในพม่า ขณะที่อินเดียผู้หลงใหลกับบทบาทต่อต้านจีน กำลังถูกตะวันตกโน้มน้าวให้กลายเป็นแนวหน้า" ส่วนของนาย เบอร์ทิล ลินต์เนอร์ ว่าด้วยเรื่อง A wider war coming to Myanmar หรือที่ เอเอสทีวี ผู้จัดการ เขาโปรยเอาไว้เป็นชื่อเรื่องว่า "สัญญาณสงครามกลางเมืองพม่าขยายตัว พวกผู้ประท้วงจับมือกลุ่มกบฏชาติพันธุ์เปิดศึกโจมตีฝ่ายทหารในพื้นที่หัวใจประเทศ..."

                        ----------------------------------------------

ใครที่สนใจอยากรู้รายละเอียดคงต้อง คลิก ไปหาอ่านกันเอาเอง...แต่สิ่งที่น่าคิด น่าสะกิดใจ และน่าตั้งข้อสังเกตเอาไว้ ณ ที่นี้ ก็คือว่า...ถ้าหากประเทศพม่า หรือเมียนมา บ้านใกล้-เรือนเคียง ที่มีแนวพรมแดนประชิดติดกับประเทศไทยระดับยาวอีเหลนเป๋น หรือตีคร่าวๆ ประมาณ 2,400 กิโลเมตรเอาเลยถึงขั้นนั้น เกิดต้องกลายสภาพไปเป็นแบบเดียวกับ ซีเรีย ขึ้นมา ณ วันใด-วันหนึ่ง อะไรต่อมิอะไรมันจะน่ากลัว น่าวิตกกังวล หรือน่าสยดสยองพองขน กันไปถึงขั้นไหน??? ถึงขั้นหนีไม่พ้นต้อง คายสาก-คายเชาวริน กันเลยหรือไม่? อย่างไร? หรือยังสามารถอมไป-อมมา แบบเดียวกับที่อมอะไรต่อมิอะไรที่เป็น ปัญหาภายใน เอาไว้ชนิดคับปาก-เต็มปาก จนตราบเท่าทุกวันนี้หรือเปล่า???...

                        ---------------------------------------------------

อันนี้...ก็คงต้องให้บรรดาผู้ที่มีอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบอยู่ในทุกวันนี้ ท่านว่าของท่านเอาเองก็แล้วกัน ไม่ว่าจะเป็นประเภทดอนเตี้ยๆ ระดับดอนเมือง ดอนยายหอม ฯลฯ อย่างท่านรองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย ระดับผู้บัญชาการทหารบก-เรือ-อากาศ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปจนถึงระดับท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ณ กลิ่นมาดามหอมชื่นใจ ที่ยังคงต้องปวดหัว เวียนเฮด อยู่กับท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่จนถึงบัดนี้ แต่ถ้าลองนั่งนึกๆ นั่งจินตนาการไปแบบเรื่อยๆ เปื่อยๆ อย่างน้อย...ก็คงต้องลดระดับแอร์ หรือต้อง หรี่แอร์ ลงไปมิใช่น้อย...

                        ------------------------------------------------------

เพราะถ้าหากนำเอา สงครามกลางเมือง ระดับซีเรีย หรือลิเบีย มาใช้เป็นแบบอย่าง...ไม่ว่าใครก็เถอะ!!! ถ้าหากต้องตกอยู่ในสภาพบ้านใกล้-เรือนเคียงกับบรรดาประเทศเหล่านี้ น่าจะยุ่งฉิบหาย ยุ่งตายโหง-ตายห่า อยู่พอสมควร แม้ว่าประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา จะเคยมีประสบการณ์เฉียดๆ ใกล้ๆ กับสภาพการณ์ทำนองนี้มาก่อน หรือเคยต้องเจอกับ เขมรแดง-เขมรเสรี เปิดฉากสงครามกลางเมืองกับ กองทัพเวียดนาม ภายใต้การชักศึกเข้าบ้านของท่านนายกฯ ฮุน เซน ผู้นำประเทศกัมพูชาจนทุกวันนี้ แต่ครั้งนั้น...ในแง่พรมแดน เขตแดน มันค่อนข้างจะสั้นจุ๊ดจู๋ เมื่อเทียบกับแนวชายแดน พรมแดน ระหว่างไทยกับเมียนมา...

                        -------------------------------------------------

ระดับความปวดหัว ความยุ่งฉิบหาย ยุ่งตายห่า มันจึงไม่ถึงกับหนักหนา สาหัส จนเกินไป แต่ก็ถึงขั้นอุตลุด ชุลมุน เพราะบรรดาผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย ที่ทะลักหลั่งเข้ามาเป็นสายๆ เกือบรับมือแทบไม่ทันในบางช่วง บางโอกาส โดยที่อาจ โชคดี อยู่บ้างเนื่องมาจากบรรดาประเทศ มหาอำนาจ ทั้งหลาย ยังไม่ถึงกับคิด แทรกแซง โดยเปิดเผย แค่แอบๆ ซ่อนๆ แอบหนุนโน่น หนุนนี่ กันไปตามสภาพ ต่างไปจากระดับซีเรีย หรือลิเบีย ที่กองกำลังทหารของคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตก กองทัพรัสเซียและอิหร่าน ต่างถูกดึงดูดให้ต้องเข้าไปใช้ประเทศดังกล่าวเป็น สมรภูมิ อย่างเป็นที่เปิดเผย...

                                                                  ------------------------------------------------------

โดยสำหรับประเทศพม่าแล้ว...แนวโน้มที่อาจต้องไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี ในระดับซีเรีย หรือลิเบีย ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย เพราะถือเป็น จุดยุทธศาสตร์ ที่สำคัญเอามากๆ ต่อการเมืองโลก ต่อการต่อต้านและปิดล้อมมหาอำนาจฝ่ายตรงกันข้าม คือถ้าหากอเมริกาหรืออินเดียคิดจะมุดเข้าไปในช่องไหนต่อช่องไหน ยังไงๆ คุณพี่จีนย่อมหนีไม่พ้นต้องหาทางลอดเลื้อยและฉกกัด อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงไปเป็นอื่น ด้วยเหตุนี้...ประเทศเล็กๆ อย่างไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ที่พยายามดำรง รักษา ความเป็นกลาง ด้วยกรรมวิธีแบบเก่าๆ เดิมๆ คือหันไป อมเชาวริน ให้เต็มปากเข้าไว้ จะสามารถอยู่รอด ปลอดภัย ได้อย่าง อยู่-เย็น-เป็นสุข หรือ อยู่ๆ กันไป หรืออาจถึงกับต้อง อยู่-ไม่เป็น อันนี้นี่แหละ...ที่ยังไงๆ คงต้องช่วยกันคิดๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า...

                                                                    ----------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก Plato ... Only the dead have seen the end of war. - มีแต่คนตายเท่านั้น ที่อาจพอมีโอกาสได้เห็น...อวสานแห่งสงคราม...

                                                                      ---------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"