'จตุพร' ถึงกับอึ้ง! 'ประยุทธ์' ถืออำนาจมาเกือบ 7 ปี เพิ่งคิดจะปราบโกง ย้อนแสดงว่าทจุริตมโหฬารเพิ่งเกิดในยุคนี้


เพิ่มเพื่อน    

20 พ.ค.64 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊กไลฟ์ peace talk ว่า  ประยุทธ์ ประกาศปราบทุจริตเป็นวาระแห่งชาติภายหลังการยึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค. 2557 โดยในช่วง 7 ปีที่มีอำนาจทั้ง พรก.ฉุกเฉิน และ ม. 44 ดังนั้น การพูดเรื่องทุจริตจึงเป็นการทุจริตที่เกิดในช่วงสมัยที่เป็นนายกฯ นั่นเอง

"การมาประกาศเป็นวาระแห่งชาติในปีที่ 7 นี้ จึงสะท้อนว่า ตลอด 7 ปีมีการทุจริตคอรัปชั่นมโหฬาร แต่ปล่อยปละละเลย และสงสัยว่ารู้เห็นด้วยหรือไม่ หรือไม่รู้อะไรเลยว่า ครม.มีการทุจริต จึงสงสัยว่าถ้าบ้านเมืองมีความสุจริตแล้ว ประยุทธ์จะประกาศปราบทุจริตทำไม จึงแปรความโดยหนีสัจธรรมเช่นนี้ไปไม่พ้น"

นายจตุพร กังขาว่า ที่เข้ามาเป็นรัฐบาลจะปราบโกง แล้วเขียน รธน.อ้างเป็นฉบับปราบโกง แล้วท้ายที่สุดยุคใครมีอำนาจแล้วโกง ดังนั้น แสดงว่ามีการโกง จึงต้องประกาศปราบโกงเป็นวาระแห่งชาติ จึงเป็นเรื่องตลกอย่างยิ่ง

อีกอย่าง การไม่สามารถแก้ไขปัญหาประเทศได้นั้น ไม่ใช่เรื่องฉลาดหรือโง่ แต่เป็นเรื่องประสิทธิภาพการใช้อำนาจเพื่อแก้ไขปัญหาไม่ได้เลย โดยเฉพาะแก้ปัญหาการคอรัปชั่น ดังนั้น การใช้อำนาจจึงใช้ไม่ได้เลย โดยสิ่งที่ตัวเองประกาศมานั้น ไม่ได้ทำตามสัญญาแม้แต่เรื่องเดียว และเรื่องที่เป็นวาระแห่งชาติล้วนล้มเหลวทั้งสิ้น เพราะไม่พยายามบริหารวิกฤตสร้างโอกาสจัดการในการแก้ปัญหาชาติในช่วงมีอำนาจ 7 ปี ตรงกันข้าม กลับใช้โอกาสนั้นทำให้เกิดวิกฤตซ้ำเติมอีกด้วย 

นอกจากนี้ ในการชำแหละประยุทธ์บริหารประเทศ โดยช่วง เสาร์-อาทิตย์ นี้ และต่อเนื่องกันทุกวันไปจนถึง 30 พ.ค. จะเริ่มด้วยประเด็นเงินกู้ 7 แสนล้านบาท ซึ่งจะชี้ว่าเป็นการกู้เพื่อนักการเมือง จึงต้องเขียนเสือให้วัวกลัวไว้ก่อน

อย่างไรก็ตาม ตนพยายามตอกย้ำมาต่อเนื่องว่า ทำไมประยุทธ์ ไม่เข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายรายงานกรณีโควิดระบาดและขอพระราชทานคำปรึกษา ชี้แนะแก้ไขปัญหา ดังเช่นอดีตนายกฯคนอื่นได้กระทำมาตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

อีกทั้ง เมื่อมีข่าวปล่อยถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ จนกลายเป็นข่าวลือ แล้วทำไมประยุทธ์ จึงไม่ออกมาหยุดข่าวลือเหล่านั้น เพราะนายกฯ สามารถตรวจสอบข่าวได้ทุกอย่าง แต่ทำไมจึงปล่อยให้ข่าวลือสร้างผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

"หลายคนมีข้อสงสัยว่า ประยุทธ์ กำลังคิดอะไรอยู่ เหมือนเราตั้งคำถามว่า อยู่ดีๆทำไมเปลี่ยนชุดรักษาความปลอดภัย เอาชุด ร.21 มา ซึ่งอะไรเกิดขึ้นกับประยุทธ์ แต่นิ่งเฉยไม่ออกมาชี้แจงกรณีข่าวลือที่กระทบสถาบันฯ”

ไม่เพียงเท่านั้น กรณีที่มีการสงสัยถึงประเทศมหาอำนาจจะใช้พื้นที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางบัญชาการสงครามในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ยังมีความสงสัยถึงการตั้งฐานยิงหัวรบนิวเคลียร์อยู่ที่เชียงใหม่ สิ่งเหล่านี้ต้องการให้ประยุทธ์ ตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนเพื่อความปลอดภัยของประเทศไทย โดยเฉพาะคนเชียงใหม่ และคนภาคเหนือ

รวมทั้งกล่าวว่า ตนตอกย้ำเรื่องเหล่านี้ ไม่ได้เป็นการปรักปรำ แต่ต้องการคำชี้แจง เพราะเราต่างมีภาระหน้าที่ในการปกป้องชาติบ้านเมือง วันนี้ตราบใดประยุทธ์ ยังเป็นนายกฯ อยู่ เราไม่มีทางแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นได้ ถึงอ้างมาจากเลือกตั้งก็ตาม แต่เป็นการเลือกตั้งจอมปลอม

"วันนี้ เมื่อมีอำนาจมาถึง 7 ปี แล้วมาประกาศปราบทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ จึงเป็นเรื่องตลกและน่าอาย น่าอัปยศอดสูที่สุด ถามว่าที่ประกาศวาระแห่งชาติเคยสำเร็จสักเรื่องหรือไม่"

นายจตุพร กล่าวว่า คนไทยทุกฝ่ายรู้ถึงความยากลำบากและต้องมาแบกรับภาระเงินกู้อีก โดยคนรุ่นลูกหลานต้องใช้หนี้กัน หากประเทศจะมีวาระแห่งชาติกันจริงแล้วต้องเป็นการขับไล่ประยุทธ์ หรือประยุทธ์ออกไปเป็นวาระแห่งชาติที่จะเกิดคุณูประการของคนไทยอย่างยิ่ง

ดังนั้น ตนอยากให้แต่ละฝ่ายทำภาระหน้าที่ แม้เป็นความยากลำบาก แต่ถ้าต้องการให้ประเทศพลิกฟื้น เพื่อเปลี่ยนวิกฤตนี้ให้กลายเป็นความหวังแล้ว ก็ต้องรวมมือกันขับไลประยุทธ์ ออกไป

นอกจากนี้ ตลอดช่วงการอภิปรายขับไล่ประยุทธ์ใน 9 วัน เริ่มตั้งแต่ เสาร์ที่ 22 พ.ค. ไปถึงอาทิตย์ที่ 30 พ.ค.นี้ ตนจะอภิปรายนำในเวลาประมาณเที่ยงของทุกวัน แล้วสลับกับวิทยากรคนอื่น เพื่อฉายภาพเรื่องราวต่างๆในกรอบหัวข้อ "7 ปีการรัฐประหาร" แล้วมาครบรอบกับการกู้เงินอีก 7 แสนล้านบาท ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาชาติได้เลยในช่วงการกู้เงินผ่านมา

"การประกาศให้ปราบโกงนั้น สะท้อนว่าที่ผ่านมามีการโกง และรู้ว่ากำลังจะมีการโกงกันใหม่ จึงต้องเอาวาระปราบโกงมาบังหน้าไว้ก่อน ซึ่งคิดป็นอย่างอื่นไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เวลารัฐบาลนี้นับวันได้ถอยลงแล้ว"

ส่วนการติดเชื้อโควิดนั้น เป็นเรื่องปกติไปแล้วในเรือนจำ และคงรอดจากการติดเชื้อได้ยากที่จะป้องกัน สิ่งสำคัญคือจะรักษากันอย่างไร จึงน่าสนใจมาก ดังนั้น มาตรการต่างๆอยู่ที่การเข้าถึงยาในการรักษาจึงควรเปิดกว้างให้กับประชาชนทุกคน

ตนจึงต้องบอกประยุทธ์ว่า ไม่ใช่เอาการปราบทุจริตมาเป็นวาระแห่งชาติเพื่อกลบเรื่องราว แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ มาตรการต่างๆของประเทศอื่นที่ประสบสำเร็จ แล้วนำมาแก้ปัญหาในประเทศไทย ซึ่งตนเชื่อว่าทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมืออย่างดี

“ส่วนวาระแห่งชาติปราบทุจริตนั้น เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อถือ เป็นเรื่องทางการเมือง เป็นละครการเมืองขั้นเวลาให้คนลืมเรื่องอื่นๆ เพราะเงินกู้มา ถ้าไม่คิดโกง ก็คงไม่เอาเรื่องปราบโกงมาบังหน้า”

ดังนั้น เมื่อประยุทธ์ ไม่ยอมลาออก พวกเราจึงต้องอยู่ด้วยความยากลำบากต่อไป และเราต้องจัดการผู้ปกครองที่ไม่ยอมออก เพราะประเทศนี้เป็นของเรา และเราก็ต้องอยู่บนพื้นดินแห่งนี้ ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน สามัคคีกันก็ชนะเร็ว 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"