'วัคซีนการเมือง' รัฐบาลร้าวลึก ยุบสภาไม่พอ...แก้วิกฤติศรัทธา


เพิ่มเพื่อน    

 ปมปัญหาฉีดวัคซีนให้ประชาชน ถูกยกระดับเป็นประเด็นการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่น่าจับตาอย่างยิ่งว่าจะนำไปสู่การแตกหักถึงขั้นยุบสภาในอีกไม่ช้าหรือไม่ หลังก่อนหน้านี้ พปชร.ก็มีหลายเรื่องกินแหนงแคงใจกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จนคน ปชป.ออกมาเรียกร้องให้ถอนตัว

ในสภาวะที่รัฐบาลเกิดวิกฤติศรัทธาอย่างหนักหน่วง ที่สะสมมาตลอด 7 ปี (คสช. 5 ปี และเลือกตั้งมา 2 ปี) ภายใต้การนำของ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม

เช่นเหตุล่าสุด ที่ทำให้ประชาชนและสังคมอลหม่าน  โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ออกมาให้สัมภาษณ์เหมือนเห็นดีเห็นงามกับเรื่องการฉีดวัคซีนแบบ วอล์กอิน โดยมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร  ไปชี้แจงให้ชาวบ้านเกิดความเข้าใจอย่างชัดเจน

แต่ต่อมาวันที่ 18 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์กลับหักลำในที่ประชุม ครม.ให้ยกเลิกแนวทางการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอิน เพราะเกรงว่าคนเข้าไปแล้วหากไม่ได้ฉีดจะโวยวาย โดยให้ยึดระบบหลักคือลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน หมอพร้อม

จากนั้นมีการอธิบายจากฝั่งรัฐบาลให้เปลี่ยนแปลงรูปแบบ จากที่เรียกวอล์กอิน เป็นลงทะเบียนที่จุดบริการฉีดวัคซีน หากวัคซีนเพียงพอก็ฉีดวันนั้นได้ แต่หากไม่พอก็ลงทะเบียนเพื่อให้มาฉีดในวันอื่นต่อไป

แนวทาง "วอล์กอิน" ในทางการเมือง มีการตั้งข้อสังเกตว่านายกฯ ที่มี พปชร.แกนนำหลักรัฐบาลหนุนหลัง  หักหน้านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ที่อีกบทสวมเสื้อหัวหน้า ภท. ท่ามกลางกระแสทั้งสองฝ่ายหวังผลปั่นคะแนนเสียงจากวัคซีนใช่หรือไม่

มีรายงานว่า "บิ๊กตู่" เชื่อข้อมูลรอบข้างว่า หากปล่อยให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงคมนาคมเปิดสถานีรถไฟกลางบางซื่อ ที่มีความกว้างขวาง มีขนาดใหญ่โต และให้ประชาชนทั่วไปสามารถเดินทางสะดวกสบายไปฉีดวัคซีนแบบวอล์กอิน จะทำให้ ภท.แย่งซีนผลงาน ลดฐานเสียงและ ความนิยมของคนกรุงเทพฯ ที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อาจเชื่อมโยงไปถึงกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่กำลังจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในปลายปีนี้ ขณะที่ พปชร.ก็หมายมั่นปั้นมือจะสนับสนุนผู้สมัครให้ชนะเลือกตั้งครั้งนี้ให้ได้เช่นกัน

สอดคล้องกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ที่กำลังเดินเครื่องทำงานอย่างหนัก และมุ่งมั่นให้การฉีดวัคซีนทั่วกรุงเทพฯ เป็นวาระหลัก ร่วมมือกับภาคเอกชน  ร้านสะดวกซื้อเพื่อจองคิวฉีดวัคซีน ควบคู่กับทำประชาสัมพันธ์การทำงานของตัวเองผ่านสื่อและป้ายโฆษณาต่างๆ  จนทำให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อีกสายหนึ่งของ พปชร. ถึงกับต้องออกมาเหน็บแนมว่า "เป็นผม ผมไม่ทำ"

รวมทั้งกรณีป้ายฉีดวัคซีนที่ชุมชนคลองเตย ที่มีข้อความทำนองว่า เป็นผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ โดย  พล.ต.อ.อัศวิน เป็นผู้จัดให้ จนถูก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  อดีต รมว.คมนาคม และเป็นอีกว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.  ต้องออกมาตั้งคำถามถึงความเหมาะสม และเกิดกระแสวิจารณ์ต่อมาว่าหวังผลทางการเมือง ทั้งที่วัคซีนใช้เงินภาษีของประชาชนจัดหามา

ความไม่พอใจในเรื่องวัคซีนการเมืองของทั้งสองพรรค ถูกสะท้อนออกมาเป็นรูปธรรมผ่าน นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย ที่โพสต์เฟซบุ๊กฟาดแรงไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเป็นตัวถ่วง ทำให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนล่าช้า

ร้อนไปถึงองคาพยพรอบตัว พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเรียงหน้าออกมาอัดนายภราดร ให้คำนึงถึงความเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และเป็นสิ่งที่ควรออกมาพูดหรือไม่ อีกทั้งยังเปิดทางให้ฝ่ายค้านเอาไปหัวเราะเยาะเย้ยถากถางรัฐบาลได้ นำไปสู่ความแตกแยก...

แต่เหนืออื่นใดสิ่งเหล่านี้ในสายตาของสังคม กลับตอกย้ำให้เห็นความล้มเหลวในการแก้ปัญหาโควิด และพุ่งไปที่  พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ที่เลือกรูปแบบการทำงานแบบซิงเกิลคอมมานด์ พร้อมคำถามตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาที่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

แต่กลับละเลยให้มีการแพร่ระบาดระลอก 2 และ 3 เช่นปล่อยให้เปิดบ่อนการพนันทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แรงงานเถื่อนทะลักเข้าไทยเป็นจำนวนมาก รวมถึงลักลอบเปิดสถานบันเทิง และจัดกิจกรรมทางสังคมโดยมีรัฐมนตรีไปร่วมด้วย หรือแม้กระทั่งการไม่ยอมล็อกดาวน์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาจนมีผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ ซึ่งต่อมานายกฯ ได้ริบอำนาจกฎหมาย 31 ฉบับจากรัฐมนตรีมาเกือบ 3 สัปดาห์ แต่ตัวเลขผู้ป่วยรายวันยังแตะหลักพันและบางวันเกือบหมื่น ขณะที่ผู้เสียชีวิตก็ยังมีอัตราสูงจนสร้างความหวาดผวาไปทั่ว

ความไม่เชื่อมั่นดังกล่าวนี้ยังกระทบไปถึงวัคซีนสองยี่ห้อหลักของไทย คือ แอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค ทั้งที่มีประสิทธิภาพและสร้างภูมิคุ้มกันโควิดได้ดีเยี่ยม (ล่าสุดอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก  คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ )

แต่ก็ยังมีคนจำนวนหนึ่งไม่กล้าฉีด แม้จะมีหลายปัจจัย หรือบางส่วนเป็นเฟกนิวส์จากฝ่ายตรงข้าม แต่หลายส่วนก็มาจากรัฐบาล โดยคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลพุ่งตรงไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เคยสร้างความสับสนหลังยกเลิกการฉีดวัคซีน เนื่องจากมีข่าวเรื่องผลข้างเคียงในต่างประเทศ จนทำให้ประชาชนไม่มั่นใจ กระทั่งภายหลังรัฐบาลต้องปรับแผนโดยให้ อาจารย์หมอ และแพทย์ที่มีความน่าเชื่อในสังคม ออกมารณรงค์ พร้อมให้คนดัง ศิลปิน ดารา มาฉีดวัคซีนเพื่อปลุกความเชื่อมั่นให้ประชาชนมาลงทะเบียนฉีดวัคซีน

โควิดประจานความผิดพลาดของรัฐบาล เมื่อนำไปผนวกกับความล้มเหลวอื่นๆ ก่อนหน้า ดังที่ฝ่ายค้านและภาคประชาชนต่างๆ ผ่านเวทีไทยไม่ทน ที่ออกมาขับไล่ทุกวัน และเรียกร้องให้การโค่นล้ม ระบอบประยุทธ์ เป็นวาระแห่งชาติ จึงเกิดเป็นคำถามที่ว่า รัฐบาลจะบริหารประเทศต่อไปท่ามกลางวิกฤติศรัทธาเช่นนี้ได้หรือไม่ อย่างไร?

ล่าสุด "กลุ่มประชาชน" ที่เคยมีจุดยืนก้ำกึ่งสนับสนุน "บิ๊กตู่" นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ, นายพิชิต ไชยมงคล, นายปรีดา เตียสุวรรณ์ ได้ออกเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์เสียสละลาออก และขอให้มี รัฐบาลสร้างชาติ โดยอาศัยรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคสอง และให้สนับสนุนคนนอก อันเป็นที่ศรัทธาและประชาชนยอมรับ เข้ามาแก้วิกฤติประเทศ

พร้อมชงชื่อ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังก์ถัด) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก  (WTO) ขึ้นมาเป็นตุ๊กตาทางเลือกให้ประชาชน

หลังจากหมดหวังกับ "บิ๊กตู่" ที่ไม่สามารถนำพาและปฏิรูปประเทศได้ตามสัญญา ไม่สามารถสร้างความปรองดอง แต่กลับสร้างฐานอำนาจให้ตัวเอง และเมินเฉยต่อจริยธรรมทางการเมือง และปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน

กลับมาที่รัฐบาล ถึงจุดนี้ก็ต้องยอมรับฟังเสียงเรียกร้องดังกล่าว จะทนดื้อรั้นและหวังอยู่จนครบวาระ 4 ปีคงเป็นเรื่องยาก แต่จะให้ยอมรับข้อเสนอของภาคประชาชน คือเสียสละลาออก เชื่อว่า "บิ๊กตู่" และผู้สนับสนุนจะไม่ขานรับ เพราะเสียประโยชน์ทางการเมือง

สำหรับทางออกที่พอจะเป็นไปได้คือการ ยุบสภา แม้ท้ายสุด "บิ๊กตู่" จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งได้ด้วยอำนาจรัฐ เงินทุน กลไก กติกาที่ตัวเองได้ประโยชน์จาก ส.ว. 250 คนที่สามารถเลือกนายกฯ ได้ แต่วิกฤติศรัทธาที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนจะยังไม่มลายหายไป และยังต้องเผชิญกับคนออกมาขับไล่เช่นเดิม

ตราบใดที่ผู้นำประเทศยังไม่เสียสละ ยอมแก้รัฐธรรมนูญที่ผู้คนยอมรับ ปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคม

เชื่อว่าหาก "บิ๊กตู่" ถอยออกมาตรงจุดนี้ จะช่วยบรรเทาความขัดแย้งทางการเมืองลงได้ ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่...ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"