แฟ้มภาพ

26 พ.ค.64 - ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้

วัคซีนโควิดขาดแคลน เพราะรัฐบาล "นายกฯ ฉลาดทิพย์" ? ..

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทราบหรือไม่ว่า การประกาศเลื่อนนัดฉีดวัคซีนให้ประชาชนของหน่วยงานต่าง ๆ ในเวลานี้ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล และส่งผลกระทบถึงความน่าเชื่อถือของประเทศมากแค่ไหน 

โดยสาเหตุที่วัคซีนโควิดขาดแคลน ก็เป็นเพราะรัฐบาลไม่กระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีนโควิด แต่ทุ่มเทซื้อวัคซีนเพียงยี่ห้อเดียว จึงไม่มีวัคซีนโควิดยี่ห้ออื่น ๆ สำรองไว้ใช้เพื่อแก้ปัญหาในยามจำเป็น 

อันที่จริง รัฐบาลควรจะเผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้บ้าง ไม่ใช่ไปฝากความหวังไว้ที่ บริษัท แอสตร้าซิเนก้า เพียงเจ้าเดียว จนทำให้ปั่นป่วนกันไปหมดทั้งประเทศ เพราะแม้แต่ สส.ในพรรคร่วมรัฐบาลเอง ยังออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวโวยวายเรื่องการกระจายวัคซีนไม่ทั่วถึงในจังหวัดที่มีความจำเป็นเร่งด่วน 

ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ก็คงพูดไม่ได้เต็มปาก ว่า วัคซีนจะมาวันไหนกันแน่ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพร้อมของ บริษัท แอสตร้าซิเนก้า เป็นหลัก 

นี่แค่ล็อตแรก ๆ ก็เริ่มมีปัญหา แล้วล็อตหลัง ๆ จะเป็นไปอย่างไร 

ที่สำคัญ ไทม์ไลน์ต่าง ๆ เรื่องโควิดจะเป็นไปตามที่รัฐบาลวางแผนเอาไว้หรือไม่ 

ทำไมรัฐบาลจึงไม่เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้บ้าง เหตุใดจึงปล่อยให้เกิดปัญหาวัคซีนขาดแคลน จนต้องมีการประกาศเลื่อนนัดฉีดวัคซีน ซึ่งสะท้อนถึงความบกพร่องและอ่อนด้อยในการบริหารจัดการวัคซีนโควิดของรัฐบาล ซึ่งจะสั่นคลอนความเชื่อมั่นของทุกฝ่ายทั้งในและนอกประเทศต่อยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาโควิดทั้งระบบของประเทศไทยด้วย 

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะไปโทษบริษัทผู้ผลิตวัคซีนฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ แต่ต้องโทษรัฐบาลว่าทำไม จึงไปฝากผีฝากไข้ไว้ที่ผู้ผลิตเพียงรายเดียว จนส่งผลกระทบทั่วไปหมด 

และนี่ก็ไม่ใช่ความผิดของแพทย์หรือพยาบาล เพราะบุคลากรเหล่านี้ มีหน้าที่หลัก คือ การรับวัคซีนมาฉีด แต่หน้าที่ในการจัดหาและบริหารวัคซีน เป็นการดำเนินการจากส่วนกลาง คือ รัฐบาล โดยอยู่ในอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์

อีกประเด็นที่น่าห่วง คือ รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ชอบทำอะไรกลับหัวกลับหาง โดยเรื่องที่ควรจะกระจายอำนาจ อย่างเช่นวัคซีน ก็ผูกขาด จนคนไทยไม่มีวัคซีนทางเลือกที่หลากหลายเพียงพอ 

แต่ทีเรื่องที่สมควรจะรวมศูนย์อำนาจ เช่น แอพลงทะเบียนฉีดวัคซีนซึ่งควรจะมีแอพเพียงแค่หนึ่งเดียว เพื่อความเป็นเอกภาพ แต่รัฐบาลกลับปล่อยให้หน่วยงานต่าง ๆ ผลิตแอพของตัวเองให้ประชาชนไปลงทะเบียนเข้าคิวฉีดวัคซีน จนชาวบ้านสับสนไปหมดแล้ว 

แถมยังทำให้ข้อมูลกระจัดกระจายสะเปะสะปะ ไม่เป็นประโยชน์ต่อการรวบรวมข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงแนวทางการบริหารจัดการโควิดเลย 

ทั้งยังน่าเสียดายงบประมาณในการพัฒนาแอพต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งอันที่จริง หากนำเงินส่วนนี้ไปซื้อวัคซีนเพิ่มเพื่อนำมาฉีดให้ประชาชน หรือนำไปเป็นเงินเยียวยาให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดก็ยังจะมีประโยชน์มากกว่า 

เรียกว่าบริหารจัดการวัคซีนได้เละเทะ สมกับเป็นรัฐบาลของ "นายกฯ ฉลาดทิพย์" จริง ๆ .